หนัง Thor: Ragnarok หรือชื่อไทยว่า ศึกอวสานเทพเจ้า Thor: Ragnarok เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของ Thor เทพเจ้าสายฟ้า ในภาคนี้ธอร์ (รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ) ถูกเนรเทศไปยังสุดขอบจักรวาล กลายเป็นนักโทษโดยปราศจากค้อนคู่ใจ เขาจะต้องหาทางกลับไปยังแอสการ์ดเพื่อหยุดยั้งมหาสงครามที่จะทำลายล้างดินแดนแห่งเทพ และจบสิ้นอารยธรรมแห่งแอสการ์ด ภายใต้เงื้อมมือของวายร้ายคนใหม่ที่ทรงพลังและโหดเหี้ยมที่สุด เฮล่า (รับบทโดย เคท แบลนเชตต์) แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้แบบฉบับกลาดิเอเตอร์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งคู่ต่อสู้ในคราวนี้เป็นถึงหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ที่เขาคุ้นเคย...เดอะ ฮัลค์!
หนัง Thor: Ragnarok หรือชื่อไทยว่า ศึกอวสานเทพเจ้า Imprisoned, the mighty Thor finds himself in a lethal gladiatorial contest against the Hulk, his former ally. Thor must fight for survival and race against time to prevent the all-powerful Hela from destroying his home and the Asgardian civilization.
ผู้ชมทั้งหมด
99,731 ครั้ง
|
เข้าฉาย
2 พฤศจิกายน 2560
|
ออกโรงแล้ว |
9 พฤศจิกายน 2560 11:33:01 (IP 115.87.240.xxx)
|
||||||||||||||
สิ่งที่เป็นเรื่องยากที่สุดเรื่องหนึ่งของคนทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้น่าจะเป็นเรื่องของการหลบหลีกความเฝือซ้ำเดิม การสร้างลีลาที่แตกต่างขึ้นมาเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายเลยเมื่อทำงานในระบบสตูดิโอที่อิงอยู่กับการตลาดที่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพื่อผลทางรายได้ ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทายรสเดิมๆ ที่คุ้นชินอีกด้วย มันจึงเป็นเรื่องของการรักษาบาลานซ์ระหว่างสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวัง และการทำให้เหนือไปกว่าความคาดหวังของผู้บริโภค ซึ่ง Thor Ragnanok ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่สามารถทำภารกิจข้างต้นได้สำเร็จอย่างน่าดูชม ตลอดเวลากว่าสองชั่วโมงในหนัง ผู้กำกับ Taika Waititi ปรนเปรอผู้ชมด้วยรสหนังฮอลลีวู้ดที่คุ้นเคยในส่วนของการสร้างพล็อต จังหวะการพลิกแพลงเส้นเรื่องที่ยังกอดเกี่ยวสูตรสำเร็จการเขียนบทสำนักฮอลลีวู้ด และปรุงรสอย่างจัดจ้านด้วยวิชวลสุดจี๊ดจ๊าด สกอร์มันกระหน่ำ และมุกตลกเสียดสีตัวเอง สิ่งหนึ่งที่หนังทำตลอดเวลาคือการรู้ตัวและพยายามเล่นมุกตลกเสียดสีตัวเอง ยั่วยุความเฝือของตัวเอง จิกกัดภาพลักษณ์ความเป็นจักรๆ วงศ์ๆ ของคาแรคเตอร์ Thor ซึ่งเกิดผลที่ดีมากๆ ในหลายจังหวะ และสิ่งที่หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงไม่ได้เลยคือการดีไซน์วิชวลที่ค่อนข้างฉีกจากหนังชุด Thor สองภาคก่อนหน้านี้ที่โทนจะออกดูกลางๆ แทนที่ด้วยโทนจัดจ้าน หลายซีนสวยมากจนแคปไปทำโปสเตอร์หนังได้สบายๆ นอกเหนือไปจากการกลับมาของ Thor แล้ว ตามธรรมเนียมค่าย Marvel เราจะได้เห็นแขกรับเชิญพิเศษจากจักรวาลหนังเดียวกันเข้ามาสร้างสีสันได้ไม่น้อย โดยเฉพาะจอมขโมยซีนตลอดกาลอย่าง Hulk และยังเป็น Thor ภาคที่มีนักแสดงหญิงทรงเสน่ห์อยู่ถึงสองคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Cate Blanchett ในบทนางพญาสุดเหี้ยมอย่าง Hela และ Tessa Thompson ในบทนักรบสาว เอาเป็นว่าถ้าใครชอบหนังค่าย Marvel เป็นทุนเดิม Thor Ragnarok น่าจะเป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของ Marvel เลยก็ว่าได้ ส่วนใครที่รู้สึกเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหนังซุปเปอร์ฮีโร่อาจจะชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาก็ได้เพราะหนังมีความดีงามมากกว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไปอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.2
|
||||||||||||||
6 พฤศจิกายน 2560 19:52:28 (IP 110.168.190.xxx)
|
||||||||||||||
THOR:RAGNAROK (2/5 คะแนน เอาเงินไปกินข้าวดีกว่า) สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
1
การดำเนินเรื่อง
2
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
5
|
||||||||||||||
6 พฤศจิกายน 2560 15:49:37 (IP 58.136.70.xxx)
|
||||||||||||||
Thor : Ragnarok เป็นหนังตระกลู Marvel ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากภาคก่อนๆอย่างชัดเจน เนื่องจากภาคเก่าๆไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร คือเรียกว่าอยู่ในระดับหนังกลางๆในบรรดาหนังตระกูล Marvel ทั้งหลาย โดยคราวนี้กำกับโดย Taika Waititi ซึ่งมีกลายปรับเปลี่ยนลุคของหนังใหม่ทั้งหมด โดยมีความสอดคล้องกับหนังไซไฟของมาร์เวลที่ประสบความสำเร็จมาก่อนอย่าง Guardian of Galaxy ทั้งสองภาค จริงๆตัวไวติติเองก็เคยกำกับหนังสั้น Team Thor ซึ่งเป็นชีวิตของทอร์ในช่วง Civrl War ที่ได้รับกระแสตอบรับดีเลยล่ะ จริงๆก็น่าเสียดายการวางบทของภาคเก่าอยู่เหมือนกันนะ มาซะดราม่า น่าสนใจ แต่ก็ตั้งต้นมาเป็นหนังอีกรูปแบบหนึ่งไปแล้ว มันก็เลยต้องมีลงอีหรอบนี้ ตัวละครอย่างโลกิก็เลยออกมาแปลกๆ ฮาๆไปแทน ไม่เหมือนสมัยก่อนที่หักหลังกันแบบถึงเลือดถึงเนื้อ แต่ก็ให้เสน่ห์น่าสนใจเหมือนเดิม ในขณะที่ส่วนทอร์เองก็มีการเปลี่ยนตัวเองเช่นกัน เติบโตไปอีกแบบ เราอาจคุ้นเคยความขัดแย้งตอนโทนี่ สตาร์คไม่มีชุด ตอนที่สไปดี้ไม่มีชุดไปแล้ว แล้วถ้า“ทอร์ไม่มีค้อน” จะเป็นยังไงล่ะ แถมยังต้องรับตำแหน่งที่ไม่อยากรับอย่างการเป็นราชาเสียด้วย หนังเรื่องนี้เล่าแนวคิดนี้ออกมาได้สนุกสนาน และเฮฮาแตกต่างกับเรื่องก่อนหน้านี้เยอะเลย แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงการเติบโตของตัวละคร เดินเรื่องไปตามที่มันควรจะเป็น มีส่วนที่หนักอยู่บ้างเช่นกัน จริงๆมันเป็นหนังที่ติดตลกตลอดเวลา คิดว่ามาเสพหนังตลกอาจดีกว่า แต่เป็นหนังตลกที่ทุนสร้างสูง อาร์ตเรโทรสวยๆ พร้อมกับตัวละครที่แสนจะคิดถึงอย่างบรูซ แบรนเนอร์ และดอกเตอร์เสตรนจ์ และที่ขาดไม่ได้คือเฮร่า ตัวร้ายตัวใหม่ ถ้าไม่ได้เคท เบนเนทนี่ตัวละครตัวนี้น่าจะจืดไปเยอะเลย จริงๆต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับนะที่ดึงเสน่ห์พิลึกพิลั่นของตัวละครออกมาได้แทบทุกตัว ซึ่งก็มากพอที่จะแบกหนังไปได้ทั้งเรื่อง โดยรวมองค์ประกอบทำให้หายคิดถึงก็ประสบความสำเร็จดี ฉากแอคชั่น การตัดต่อ และเพลงก็อยู่ในระดับเอาปลอดภัยไว้ก่อน (ซึ่งก็ปลอดภัยจริงๆ) ราบเรียบไม่โดดเด่นอะไร ส่วนอาร์ตก็ยังไม่สุดเท่าที่ควร แต่ส่วนตลกนี้มันดีพอสมควรเลยล่ะ นอกจากนี้การปูเรื่องไปสู่ Infinity War ก็น่าสนใจไม่น้อย เป็นหนังสายบันเทิง เส้นตรง ฮาๆ ถ้าไม่คิดอะไรมาก และต้องการความเพลิดเพลินก็เหมาะดี และทำให้แฟนๆมาร์เวลหายคิดถึงตัวละครได้เยอะเช่นกัน สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.8
|
||||||||||||||
2 พฤศจิกายน 2560 11:37:42 (IP 58.137.18.xxx)
|
||||||||||||||
Thor: Ragnarok - ศึกอวสานเทพเจ้า 130 min | Action/Fantasy/Comedy | Directed by Taika Waititi ภาคที่ 3 ของ 1 ในซุปเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวล ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า ที่ดูเหมือนว่าในบรรดาหนังฉายเดี่ยวของฮีโร่ด้วยกันเอง ธอร์ดูจะมีภาษีน้อยที่สุด เพราะว่าหนังไม่ได้ไปได้สวยทั้งในแง่ของรายได้ที่ทรงๆไม่ถึงกับเจ๊ง และคำวิจารณ์ก็ไม่ได้ออกมาดีนัก ทำให้มาร์เวลตัดสินใจดึง ไทก้า ไวทีที ผู้กำกับสายตลกอินดี้ มาปรับโฉมให้เปลี่ยนจากหนังแอคชั่นจักรๆวงศ์ๆเชยๆ ให้ดูน่าสนใจและไม่น่าเบื่อเหมือนเดิม ธอร์ แร็กนาร็อค พูดถึงแอสการ์ดที่ถึงคราวล่มสลาย กับการมาของ เฮล่า เทพีแห่งความตาย วายร้ายคนใหม่ที่ทรงพลัง และโหดเหี้ยม แถมธอร์ยังจับพลัดจับผลูโดนจับตัวไปโดย แกรนด์มาสเตอร์ ทำให้บุตรแห่งโอดินต้องเอาชีวิตรอด จากเกมการต่อสู้บนสังเวียนกลาดิเอเตอร์เพื่อกลับไปปกป้องบ้านของเขา แต่ทว่าคู่ต่อสู้ของเขากลับเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาซะงั้น หนังเปลี่ยนโทนไปจากสองภาคแรกอย่างชัดเจนมาก กลายเป็นหนังตลกแอคชั่น ที่ภาพรวมหนักไปทางตลกอย่างชัดเจน ซึ่งมันก็ทำให้หนังไม่น่าเบื่อและบันเทิงมากขึ้น แต่ก็เป็นเหมือนดาบสองคมเหมือนกัน เพราะความทีเล่นทีจริง ติดตลกจนเกินไปตลอดทั้งเรื่อง ทำให้พอถึงซีนจริงจังหรือดราม่าแล้ว ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ โชคยังดีที่สเน่ห์ของตัวละครหลักหลายๆตัวทำให้หนังดูดีขึ้นมาก โดยเฉพาะธอร์ที่สลัดคราบเทพเจ้าเอาแต่ใจ กลายมาเป็นตาเด๋อสุดโก๊ะ แถมสมาชิกทีมรีเวนเจอร์อาธิ ฮัลค วัลคีรี่ และโลกิ ก็ดูดีดูเด่น แต่น่าเสียดายที่ตัวละครที่เราคาดหวังอย่าง เฮล่ากลับออกมาจืดและตามสูตรไปหน่อย ถ้าไม่ได้เคต บลันเชตมารับบทนี้ คงดูจืดไปกว่านี้มากเลยทีเดียว อีกข้อเสียนึงคือเรื่องค่อนข้างดำเนินเป็นเส้นตรงและราบเรียบไปนิด ไม่มีอะไรมากมาย เน้นตัวละครเป็นตัวขับเรื่องไปข้างหน้า แม่งมุกตลกรายทาง กับแอคชั่นซีเควนซ์เท่ๆ ที่ทำให้ภาคที่ 3 ของธอร์เป็นหนังที่ดูสนุก ตลก บันเทิงไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับพีคอะไรมากมายนัก สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
7.6
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
นู้โม คนเดีม
2 พฤศจิกายน 2560 07:35:44 (IP 182.232.98.xxx)
|
||||||||||||||
GUEST |
ยาก
|
|||||||||||||
มิตร ชัยบัญชา
29 กันยายน 2560 14:39:04 (IP 124.121.194.xxx)
|
||||||||||||||
GUEST |
เป็นหนังที่ดีมากเลยนะครับ
|
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ