หนัง A Wrinkle in Time หรือชื่อไทยว่า ย่นเวลาทะลุมิติ หลังจากการหายตัวไปของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นพ่อของ Meg เธอจึงให้ผู้นำทางศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามช่วยเหลือ โดย Meg, น้องของเธอ และเพื่อนของเธอ ต้องเดินทางผ่านห้วงเวลาและอวกาศเพื่อตามหาพ่อของเธอที่หายไป
After the disappearance of her scientist father, three peculiar beings send Meg, her brother, and her friend to space in order to find him.
Wrinkle In Time หายนะครั้งใหม่จากดิสนีย์
ดิสนีย์คือค่ายหนังที่มีแนวทางในการสร้างภาพยนตร์ของตัวเองชัดเจนเป็นอย่างมาก ซึ่งแนวทางที่ว่าคือ การสร้างภาพยนตร์ที่เน้นตลาด เด็กและครอบครัวเป็นหลัก โดยที่มีผลงานที่ประสบความสำเร็จต่างๆ มากมาย
A Wrinkle In Time ถือเป็นผลงานดัดแปลงจากนิยายขายดี เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ว่าน่าจับตามองเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประมาณว่า จะเป็นหนังเจ๊งประจำปีนี้หรือเปล่า เพราะหลังจากที่ตัวอย่างแรกของภาพยนตร์ได้ถูกปล่อยออกมา ถือว่าไม่น่าติดตามหรือน่าตีตั๋วเข้าไปชมเลยก็ว่าได้
จนกระทั่งผมได้พิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง บอกได้คำเดียวเลยว่า เป็นไปตามคาดจริงๆ ตัวหนังเต็มไปด้วยความเด็กที่เรียกได้ว่า กะขายเด็กเต็มๆ เลยทีเดียว แต่มันดันมีการเอาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มาใส่ปะปนกับตัวหนังเข้าไปด้วย ซึ่งอีกครึ่งนึงของเรื่องจะเป็นโทนแฟนตาซี ทำให้ 2 ส่วนนี้ดูขัดแย้งกันโดยตลอดระหว่างดู รวมไปถึงแคสติ้งนักแสดงที่เรียกได้ว่า ไม่ใช่ดาราที่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาชมหรือเพลิดเพลินไปกับตัวเรื่องเลยก็ว่าได้ ส่วนดีที่สุดของหนังก็น่าจะเป็นน้อง Levi Miller และภาพวิวต่างๆ ที่สวยงามเตะตามากจริงๆ
ในเมื่อองค์ประกอบต่างๆ ที่มันโคตรจะไม่เข้ากัน ได้ถูกมามิกซ์ผสมรวมกัน ผลงานที่ออกมาเลยเลยแบบว่า จะบอกว่าดีก็พูดไม่ได้เต็มปาก จะว่าไม่ดีก็พูดไม่ได้เต็มปากเช่นกัน มันมีทั้งส่วนที่เวิร์คดี และโคตรขัดใจปะปนกันไปหมด รวมไปถึงตัวบทเองที่หลังจากดูหนังจบ ผมเองก็ยังจับทางหรือจับประเด็นที่หนังอยากเล่าได้ไม่หมดเลยจริงๆ มันมีความรู้สึกว่าเหมือนรีบๆ เล่าข้ามๆ จนไม่รู้เรื่อง (ในใจมีคิดว่าดูๆ ไปก่อนหนังอาจจะมีเฉลยเหตุผลต่างๆตอนท้ายให้เข้าในก็ได้) แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการเฉลยหรืออะไรใดๆเลยที่ทำให้เข้าใจในตัวหนังที่ต้องการจะสื่อกับคนดู
สรุปแล้ว A Wringke In Time เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังจริงๆ ไม่นึกว่าดิสนีย์จะปล่อยผลงานแบบนี้ออกสู่สายตาคนดูได้ และเป็นหนึ่งในหนังดิสนีย์ที่ไม่ชอบเลยก็ว่าได้ แต่จะเป็นหนังที่โชว์รูมทีวี จะนำไปใช้เปิดเทสสีสันของทีวีแน่นอน เพราะภาพสวยสีสดดีจริงๆ 6/10 ไปเลยครับสำหรับเรื่องนี้ ดิสนีย์ประเทศไทยคิดถูกแล้วที่ฉายในวงจำกัด ฉายจำกัดโรงเพราะโอกาสเจ๊งสูงจริงๆเรื่องนี้
ความคิดเห็น (1)