หนัง Tomb Raider ลาร่า ครอฟท์ กับผลงานรีเมคเรื่องล่าสุด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสาวผู้รักอิสระ ซึ่งพ่อของเธอได้หายสาบสูญไปในตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่น เธอได้ปฏิเสธการเข้ารับตำแหน่งต่อจากพ่อของเธอ เพราะเธอเชื่อว่าพ่อของเธอยังอยู่และไม่ได้จากไปไหน นั่นจึงทำให้เธอออกตามหาพ่อบนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่พ่อของเธอหายสาบสูญไป
Lara Croft, the fiercely independent daughter of a missing adventurer, must push herself beyond her limits when she finds herself on the island where her father disappeared.
Tomb Raider โอกาสใหม่ปลุกชีพแม่หญิงลาร่า
ในปี 2001 ได้มีการนำเอาเกมส์ Tomb Raider มาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก โดยให้แองเจลิน่า โจลี รับบาท ลาร่า ครอฟต์ ได้รับเสียงตอบรับและรายได้ดีใช้ได้ จนได้เข็นภาค 2 ตามมาติดๆ ซึ่งภาค 2 ล้มเหลวในด้านคำวิจารณ์และรายได้ ทำให้เป็นการปิดประตูภาคต่อไปสมบูรณ์
ในเมื่อหนังสร้างแล้วไม่เวิร์ค เจ้าของลิขสิทธิ์เลยรีบูทเกมส์ขึ้นมาใหม่ในปี 2013 ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากจนไปเตะตาเข้ากับวอร์เนอร์บราเธอร์ จนได้ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างเป็นภาพยนตร์เวอร์ชั่นใหม่ โดยอ้างอิงจากเกมส์เวอร์ชั่นรีบูทใหม่นั่นเอง
โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้เป็นการนับ 1 ใหม่สำหรับทุกคนที่ไม่เคยดู ตัวหนังเองจะพาเราไปพบกับลาร่า สมัยที่ยังไม่ได้เป็นนักล่าสมบัติมืออาชีพที่เก่งกาจในการต่อสู้ต่างๆ ในแบบเวอร์ชั่นก่อนหน้า ซึ่งในส่วนนี้ตัวหนังเองค่อนข้างทำได้ดีทีเดียว มีความเรียล มีความสมจริง มีเหตุและผลมารองรับต่างๆ นานา
และเป็นหนังที่เน้นความสมจริงเข้าว่า เรื่องราวตำนานความมหัศจรรย์ของเวทมนตร์ในแบบเวอร์ชั่นเกมเลยถูกปรับเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างเพื่อให้ไม่เวอร์วังเกินไป ในส่วนนี้อาจทำให้คอเกมส์หลายคนไม่ค่อยพึ่งพอใจเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวผมเองนั้น ยอมรับได้และเข้าในใจการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์
ฉากแอคชั่นต่างๆ ได้ถูกดีไซน์และอ้างอิงจากเวอร์ชั่นเกมส์ราวๆ 70% เลยก็ว่าได้ ในส่วนนี้คอเกมส์คงดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นเกมส์ที่ตัวเองเล่น ได้ขึ้นฉายบนจอภาพยนตร์
สรุปสั้นๆ เลยคือ Tomb Raider ถือเป็นความพยายามที่จะคืนชีพตำนานลาร่า ครอฟต์ขึ้นมาใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม และดูสมจริงขึ้น ในส่วนของคอหนังนั้นบอกได้เลยว่าเป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และไม่อยากจะให้เอาไปเทียบกับเวอร์ชั่นโจลี ซึ่งจุดเริ่มเรื่องก็ต่างกันแล้ว จะให้สกีลการต่อสู้นั้นทัดเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนได้ยังไงจริงมั้ยครับ ส่วนตัวผมเองชอบมากเป็นหนังที่สร้างจากเกมส์อันดับต้นๆ ที่สนุกดูเพลินและอยากดูซ้ำอีกแน่นอน 8/10
tomb raider เป็นหนังที่สร้างจากเกมส์ชื่อเดียวกัน โดยเนื้อเรื่องเล่าถึงตัวละคร ลาล่า ครอฟต์ ที่เป็นทายาทของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยและถือครองทรัพย์สินมากมายแต่หลังจากที่คุณพ่อของเธอได้หายตัวไปนั้นเธอก็ไม่ยอมรับว่าพ่อเธอตายไปและไม่ยอมรับสมบัติและเมื่อเธอได้รับเบาะแสว่าพ่อของเธอหายไปที่ไหน เธอก็เริ่มการเดินทางเพื่อตามหาพ่อของเธอ
ส่วนที่ชอบในหนัง
1.การถ่ายทำฉากต่างๆ ที่มีความคล้ายคลึงกับในเกมส์เอามากๆ
2.หนังมีการลงลึกถึงตัว ลาล่า ว่ามีความรู้สึกอย่างไรและเป็นคนนิสัยยังไงหลังจากที่พ่อหายไป
3.alicia ที่ดูหน่วยก้านแล้วดูเหมาะกับการเป็นสาวที่พร้อมออกผจญภัย
ส่วนที่ไม่ชอบ
1.การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้บางครั้งรู้สึกว่าตัว ลาล่า จะตัดสินใจทำอะไรที่มันทำให้รู้สึกว่านี่เป็นการยัดเยียดให้ทำเพื่อให้เข้า scene แบบในเกมเร็วๆ
2.จุดหักมุมของหนังในช่วงท้ายเรื่องที่ cliche มากๆ
3.โทนของหนังเรื่องนี้จะว่าเน้นไปทางหนังดูสนุกก็ไม่ใช่ จะจริงจังสุดๆ ไปเลยก็ยังไม่สุด
โดยรวม ถือว่าเป็นหนังที่ทำมาจากเกมที่ดูใช้ได้เลยที่เดียวถึงไม่ได้ดีมากแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นห่วย
Tomb Raider " ทูม เรเดอร์ "
118 min | Action/Adventre | Directed by Roar Uthaug
เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ?
หนังสร้างจากเกมสฺ์ชื่อดังอีกเรื่องที่เคยถูกสร้างเป็นหนังไปแล้วหนนึง ครั้งนี้ถูกหยิบมารีเมคอีกครั้ง เรื่องราวของ ลาร่า ครอฟต์ (Alicia Vikander) หญิงสาวผู้รักอิสระที่ดูเหมือนจะยากจน แต่จริงๆ เธอเป็นทายาทตระกูลครอฟท์ผู้ร่ำรวยและถือครองทรัพย์สินมากมาย แต่การหายตัวไปของพ่อเธอทำให้เธอแยกตัวออกมาและปฏิเสธสมบัติเหล่านั้น อยู่มาวันนึงลาร่าได้รับเบาะแสเกี่ยวกับพ่อของเธอ ทำให้เธอต้องเดินทางไปยังเกาะร้างลึกลับนอกญี่ปุ่นเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับพ่อของเธอ
ความรู้สึกแรกหลังดูจบ..
มันก็พอดูได้เรื่อยๆ อยู่ประมาณนึง เพราะตลอดทั้งเรื่องตัวหนังเองก็ทำให้เรารู้สึกว่าอยากรู้เบาะแสที่หนังวางไว้ เพราะทูม เรเดอร์เองมีความน่าสนใจตั้งแต่ในเกมส์แล้ว ตรงที่มันมีพื้นเพ มีประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมต่างๆ มาอิง ซึ่งในภาคนี้หากใครที่เคยเล่นเกมส์ Tomb Raider (2013) เรื่องราวจะมีความคล้ายคลึงกันเลย นั่นก็คือพูดถึง ฮิมิโกะ ราชินีแห่งความตาย แต่ตัวหนังเองก็มีหลายจุดที่ทำได้ไม่ดี ระหว่างดูมันเลยรู้สึกเหมือนสนุกไม่สุด หรือรู้สึกว่าในหลายจุดน่าจะทำได้ดีกว่านี้
สิ่งที่น่าชื่นชม
แม้ว่าข้อครหาเกี่ยวกับรูปร่างของ อลิเซีย จะมีมากแค่ไหน แต่อยากให้มองข้ามไป เพราะเธอมีบุคลิกและความสามารถทางการแสดงที่เหมาะสมกับตัวละคร ลาร่า ครอฟต์มาก ดูแข็งแรง มีพลัง และไม่ก๊องแก๊ง ส่วนจุดอื่นๆ ก็คือหนังดูใส่ใจแฟนเกมส์ด้วยการใส่ซีนต่างๆ ที่มีในเกมส์ด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ก็ทำได้ดีและดูใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยดี
สิ่งที่รู้สึกไม่ชอบ
การเฉลยจุดหักมุมของหนังทำได้ไม่ดีนัก แถมยังรู้สึกว่ามันคลิเช (ตรงจุดนี้มีความต่างออกไปจากเกมส์ด้วย) ซึ่งมันก็ดูเป็นไอเดียที่ดีที่หนังอยากจะมีเส้นทาง และทิศทางเป็นของตัวเอง แต่ด้วยความที่หนังมันดำเนินเรื่องมาเป็นเส้นตรงมากๆ มาโดยตลอดทั้งเรื่อง ทำให้มันเกิดความรู้สึกคาดหวังความอิมแพ็คในจุดเฉลยหรือหักมุมมาก และในพาร์ทไคลแม็กก็ยังดูธรรมดาไปหน่อย เรียกว่าหนังมีปัญหามากๆ ในช่วงท้ายของเรื่อง
สรุป
ภาพรวมของ Tomb Raider อาจไม่ใช่หนังที่แย่แบบหนังเกมส์เรื่องอื่นๆ แต่ก็รู้สึกน่าเสียดายที่มันอาจดีได้กว่านี้มาก แต่อย่างไรก็ดีหนังก็มีความเพลิดเพลิน และสนุกพอใช้ได้เลยทีเดียว
ความคิดเห็น (3)