หนัง Captain Marvel - กัปตันมาร์เวล

Captain Marvel

เป็นหนังในจักรวาล Marvel ที่ชอบสุดๆ อีกหนึ่งเรื่อง จริงๆ แล้วหนังดีมากเลยนะครับ ถึงแม้ช่วงเวลาก่อนหนังเข้าจะมีกระแสลบจากดราม่าของนางเอก Brie Larson แต่ด้วยหนังดีจริงๆ คำวิจารณ์ก็โอเค เลยทำให้ทำเงินใน Box office ไปแบบไม่ธรรมดาเลยละครับ อีกอย่างนี่ถือเป็นเรื่องแรกเลยของจักรวาล Marvel ที่มีฮีโร่หลักเป็นผู้หญิง ทำให้หลายคนไปเปรียบเทียบกับ Wonder Woman ของอีกค่าย แต่เอาจริงๆ แล้วถึงแม้จะเป็นหนังฮีโร่เหมือนกันแต่การดำเนินเรื่องคนละแนวเลยครับ ดีกันคนละแบบ และอีกอย่างเป็นหนังที่มีแมว แมว และแมวครับ น่ารักมากกกกกกก!!!

เนื้อเรื่อง
ตามสไตล์ของ Marvel เลยครับ หนังดูง่าย ดูเรื่อยๆ ตลกหลายฉาก แต่ปัญหาเหมือนเรื่องก่อนๆ คือมันไม่มีจุดพีค (จริงๆ ก็รู้สึกได้ว่า Marvel หลายเรื่องมันไม่มีจุดพีคจริงๆ) พอหนังจบก็ไม่ได้รู้สึกอยากกลับมาดูซ้ำ 
จริงๆ หนังดูง่ายๆ แบบนี้ก็ดีครับ แต่คือมันไม่มีจุดที่ โอ้โห อะไรแบบนี้เลย เลยแอบเซงเล็กๆ ครับ 
 

นักแสดง
Brie Larson แสดงได้เท่มากๆ เหมาะมากกับคาแรคเตอร์ Captain Marvel ทุกฉากคือเท่มาก (ในหนังตัวอย่างเราไม่รู้สึกเท่ขนาดนี้แต่ในหนังนี่คือเท่มาก โอ๊ยยย ทั้งเท่และน่ารักด้วยนะครับ) ส่วนตัวผมชอบการแสดงของ Brie มาก ตั้งแต่หนังเรื่อง Room ที่ได้รางวัลออสการ์มา จริงๆ ถึงแม้จะมีกระแสว่าไม่เหมาะ แต่ผมบอกเลยว่าเหมาะสุดๆ อย่าไปเชื่อข่าวลือ แนะนำให้ไปดูหนังครับ เท่กว่าที่คิดไว้มาก (ฉากที่เธอกางแผนที่อ่าน อันนั้นเท่กระชากใจมาก)

สำหรับ Samuel L. Jackson นี่แทบไม่ต้องพูดถึงการแสดงสุดๆ อยู่แล้ว แต่ในภาคนี้จะบอกถึงตำนานของพี่แกว่าทำไมตาถึงบอดไป 1 ข้าง 

และตัวละครสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือแมวของเรา บอกได้คำเดียวว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก!!! ต้องไปดู 

เสริมอีกตัวละครนึงคือจู๊ด ลอว์ จริงๆ พี่แกแก่ขึ้นมากจริงๆ แต่ก็ยังหล่ออยู่นะ 555

ภาพ
ได้ไปดู IMAX3D ระบบที่ผมชอบดูอยู่แล้วครับ บอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ ภาพสวยมาก 3D มีมิติมากๆ ตลอดสองชั่วโมงเหมือนโดนหนังสะกดภายสวยมากจริงๆ อีกอย่างหนังทำหลายฉากให้นึกถึงในยุค 90 คือทำออกมาได้ดีมากจริงๆครับ CG ก็สวย ฉากขับเครื่องบินนี่ดีมากจริงๆครับ โดยเฉพาะการดูในระบบนี้ 

ระบบ IMAX3D  
มาขยายความอีกสักนิดครับ ใน Captain Marvel ถือว่าเป็น IMAX3D ที่โอเคที่สุด โอเคกว่าทุกเรื่องที่ดูมานะ ย้อนไปสักหน่อยคือหนังในตระกูล Marvel ทำ 3DIMAX ได้ไม่ค่อยดีเท่าไร คือภาพแทบไม่ลอย ไม่มีมิติเท่าไร แต่เรื่องนี้กลับทำได้ดีมากๆ มีมิติทั้งเรื่อง เอาจริงๆ คือดีงามมาก และฉากขับเครื่องบินนี่ระทึกมาก เหมือนเราลอยไปกับหนังเลย  

สิ่งที่ชอบมากๆ
Brie Larson ครับแสดงได้เท่สุดๆ ใครบอกว่าไม่เหมาะกับ Captain Marvel นี่ผมขอเถียงเลยครับ เพราะ Brie เหมาะมากๆๆๆๆๆๆ และอีกตัวละครหนึ่งคือ แมว Goose นี่ถือว่าเป็นนักแสดงหลักในเรื่องเลยนะ น่ารักมาก และตลกมากอีกด้วย แย่งซีนคนอื่นแทบทุกฉากที่โผล่มา 555 สุดท้ายคือระบบ IMAX3D ที่ดีงามมากๆ ไปเปย์ได้เลยครับ 

สรุป
แฟน Marvel ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ อีกอย่างคือมันต่อไปภาค End Game ด้วย (มีเครดิตสองตัวนะครับ) และก็แนะนำให้ดูในระบบ IMAX นะครับ ผมว่าคุ้มสุดๆ 

ไปดูมาแว้ววววว กัปตันมาเวล

ถ้าดู End Credit ของ Avengers 3 Infinity Wars จะเห็นว่าหน่วยชิลด์ของนิค ฟิวรี่เรียกขอความช่วยเหลือจากใครคนหนึ่ง แล้วมีสัญลักษณ์ตอบกลับมาเป็นสัญลักษณ์ของกัปตันมาเวล สร้างความฮือฮาตื่นเต้นให้เหล่าแฟนๆ อย่างมาก แล้วก็มาถึงคราว set up ตัวละครใหม่นี้ในภาพยนตร์เรื่อง Captain Marvel เพื่อส่งซุปเปอร์ฮีโร่ความหวังใหม่แห่งจักรวาลไปปราบธานอสนักดีดนิ้วในภาพยนตร์เรื่อง Avengers 4 End Game ในเดือนหน้านี้

Feeling
หนังเรื่อง Captain Marvel ฟิลลิ่งเหมือนดู Guardian of The Galaxy ภาคแรกผสมๆ Captain America ภาคแรก เป็นเป็นแนวปูเรื่อง set up ตัวละครและเชื่อมจักรวาลของซุปเปอร์ฮีโร่หลายๆ เรื่องไว้ในเรื่องนี้ หนังจะไม่ได้ตลกฮาเกรียนอะไรมากแบบ Guardian of The Galaxy เพราะตัวกัปตันมาร์เวลไม่ได้เกรียนๆ ฮาๆ แบบสตาร์ลอร์ด จะออกแนวจริงจังบู๊แอคชั่นแบบกัปตันอเมริกามากกว่า เนื้อเรื่องจะดูเป็นหนังข้อมูลผสมหนังแอคชั่นมากกว่า หนังบันเทิงเอาฮาขำกร๊ากแบบหนังมาเวลหลายเรื่องในช่วงหลัง (เช่น Ant Man, Gardian of The Galaxy, Thor Raknarok, Deadpool)

การดำเนินเรื่อง
รู้สึกเฉยๆ จนแอบผิดหวังสำหรับมาตรฐานหนังมาเวลเลยหล่ะ ตอนแรกคาดหวังความสนุกมันส์เอาไว้มาก เลยผิดหวังมาก ค่อยข้างจืดชืด เน้นปูเนื้อเรื่อง hint ต่างๆ ที่มาที่ไปนู่นนี่นั่น และมีตัวร้ายที่ต้องปราบ บลาๆๆๆ ซึ่งผิดกับหนังมาเวลเรื่องอื่นๆ ที่ทำไว้ว้าวมาก (เช่น Black Panther, Ant man, Dead Pool, Spider Man ที่ disrupt วิธีการเล่าเรื่อง ไม่ยึดติดกับขนบเดิมของหนังซุปเปอร์ฮีโร่แบบเดิมไรงี้) เหมือนเตรียมมาเพื่อไปต่อใน Avengers 4 จริงๆ 

งานสร้าง
ภาพสวยมาก... เอฟเฟกต์ซีจีก็ยังเพลิดเพลินชวนว้าวไม่ตกมาตรฐาน งานสร้าง (Production) เช่นอลังการแม้จะไม่เท่า Black Pather แต่ก็อยู่ประมาณๆ Captain America, Ant Man เทือกๆ นั้นได้ ก็เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจอยู่ดี งานเพลงก็เร้าอารมณ์ได้ดีอยู่ แถมใช้เพลงเก่าๆรีโทรๆคล้ายๆ Guardian of The Galaxy หน่อยๆ ด้วย เป็นที่โดดเด่นออกมาเลยทางด้านเพลง

การแสดง
เข้าใจเลยว่าทำไมต้องใช้ 'Brie Larson' (เจ้าของรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Room - 2016) ด้วยคาแรกเตอร์ของกัปตันมาเวลจะ beyond เรื่องเพศ เรื่องเชื้อชาติ และมีความเชื่อมั่นภูมิใจในความเป็นมนุษย์อยู่สูงมาก การตีความจากคาแรกเตอร์นี้จำเป็นต้องใช้คนที่สามารถถ่ายทอดและมีแนวคิดแบบนี้จริงๆ มาถ่ายทอดการแสดง ซี่งบรีย์ก็ทำได้น่าขนลุกมากๆ ในฉากหนึ่งที่ต้องถ่ายทอดความเชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์ และกัปตันมาร์เวล beyond กว่าประเด็นเรื่อง feminist ไปเยอะมากๆ นักแสดงนำที่วางไว้เป็นบรีย์นี่เหมาะสมจริงๆ นอกจากนี้นิก ฟิวรี่วัยหนุ่มก็ยังได้ 'Samuel L. Jackson' คนเดิมมาเล่นด้วย โดยใช้เทคนิคพิเศษทำให้ได้ลุคฟิวรี่ในวัยหนุ่มออกมาเนียนกริบ จนนึกว่าใช้ Samuel ในวัยหนุ่มข้ามมิติเวลามาเล่นจริงๆ นอกจากนี้เรื่องนี้มีเฮีย 'Jude Law' มาโชว์ลีลาเป็นชาวครีในเรื่องด้วยฮ้าฟ หลังๆ เฮียจู้ดเล่นหนังแนวนี้เยอะขึ้นจริงๆ (เช่นอัลบัส ดัมเบอร์ดอร์ในวัยหนุ่ม) อีกนักแสดงที่อดพูดถึงไม่ได้(เพราะเป็นทาสแมว) คือเจ้าแมวส้มจอมเด๋อ จอมขโมยซีนในเรื่อง ตอนแรกคิดว่าเป็นแมวซีจี แต่พอดูเครดิตท้ายเรื่อง เอ้อ... เป็นแมวจริงแฮะ

สรุปว่ายังไงก็ต้องไปดู เพราะว่าเป็น set up ที่จะทำให้เราไม่งงเป็นไก่ตาแตกเวลาดู Avenger 4 End Game ตอนที่จะรวมพลังเผด็จศึกธานอสนักดีดนิ้ว แม้ว่าจะไม่ได้มันส์ว้าวอะไรมาก แต่ยังไงก็พลาดไม่ได้จริงๆ เพราะจักรวาลนี้กว้างใหญ่ไพศาลมากๆ และในเรื่อง Captain Marvel ดูเหมือนจะเป็นตัวเชื่อมจักรวาลไว้ในหลายๆเรื่องเลยทีเดียว

[รีวิว] - Captain Marvel
--- 6.5/10 ---
หนังฮีโร่พลังสุดยิ่งใหญ่ที่นำเสนอออกมาได้ธรรมดามาก
แต่แมวคือดีงาม น่ารักและแย่งซีนสุดๆ

Captain Marvel หนังฮีโร่หญิงเดี่ยวเต็มๆ เรื่องแรกของค่าย Marvel แถมยังเป็นตัวละครหลักที่สำคัญ และมีบทบาทมากๆ ใน Avengers: Endgame ที่จะมาปราบมันม่วง Thanos ด้วย หลังจากที่เขาได้ล้างบางไปครึ่งจักรวาล แน่นอนว่าใครหลายคน (รวมถึงเรา) ก็ต่างอยากรู้ว่าฮีโร่หญิงคนนี้จะเจ๋งยังไง มีพลังมากแค่ไหน แถม Kevin Feige ยังบอกอีกว่า เธอจะเป็นตัวละครที่ทรงพลังมากที่สุดในจักรวาล MCU แน่นอนว่าสร้างความน่าอยากดูเต็มไปหมด!

คือตั้งแต่ตัวอย่างมันก็ไม่ชวนว้าว แต่ก็ยังหวังว่าในหนังมันจะมีอะไรที่ให้เราว้าวได้มั่งตามแบบฉบับหนัง Marvel เรื่องอื่นๆ แต่สรุปคือทั้งเรื่องก็ไม่ว้าวในจุดไหนเลย หนังมีการดำเนินเรื่องที่เป็นเส้นตรงมาก ไม่มีจุดพีคเลย เป็นสูตรสำเร็จและเดาเหตุการณ์ต่างๆ ได้ง่ายมาก รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อ ถึงแม้หนังจะเซ็ทโลกให้อยู่ในยุค 90s มีการแฝง Easter Egg หรือเพลงประกอบต่างๆ ในยุคนั้นเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเสน่ห์กับตัวหนังเลยแม้แต่น้อย รู้สึกว่าเพลงไม่เข้าและใส่เข้ามาผิดจังหวะไปหน่อยในบางช่วง ซึ่งแตกต่างกับ Guardian of the Galaxy ราวฟ้ากับเหวในเรื่องเพลง (แต่ GOTG เรื่องนั้นเลือกเพลงและใส่เข้ามาในแต่ละฉากได้สุดยอดจริงๆ)

ด้วยความที่ใน Infinity War ทิ้งท้ายไว้ถึงตัวละครนี้ เราจึงอยากเห็นในหนังเดี่ยว Captain Marvel ว่าตัวละครนี้มันจะมีพลังแข็งแกร่ง เจ๋งสักแค่ไหน แต่ฉากแอ็คชั่นที่ควรจะเป็นจุดขายแสดงความอลังกาลกับพลังของเธอกลับดูธรรมดาซะอย่างนั้น ถึงแม้สเกลพลังของตัวละครนี้มันจะยิ่งใหญ่ ทรงพลัง แต่ก็ดันถ่ายทอดพลังเหล่านั้นให้เราได้เห็นแบบธรรมดาสุดๆ และบอกตรงๆ ว่าพลังที่เราเห็นก็ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์จากในตัวอย่างสักเท่าไหร่เลย ไม่ได้ชวนตื่นเต้นกับการได้เห็นเลยสักนิด เหมือนเป็นฮีโร่ปล่อยพลังแรงๆ ใส่ ซึ่งเรายังไม่ได้เห็นถึงความเก่งของเธอเลย แต่ประเด็นหลักๆ เลยสำหรับหนังฮีโร่ที่จนจบก็ยังตอบไม่ได้ "อะไรทำให้เธอเป็นฮีโร่? แค่ได้รับพลังมางั้นหรอ?"

จริงๆ ตัวละครที่เด่นที่สุดควรจะเป็น Brie Larson ในบทบาทของ Captain Marvel หรือ Carol Danvers สิ หนังกลับทำให้ตัวละครนี้ดูไร้มิติ และแบนมาก (มิติน่ะแบน บางอย่างอะไม่ 555) บท แต่ตัวละครอย่าง Nick Fury ที่รับบทโดย Samuel L. Jackson กลับโดดเด่นกว่ากันเยอะเลย เป็นตัวที่คอยทำให้หนังสนุก ไม่น่าเบื่อ คอยพยุงไปตลอดทั้งเรื่องก็เขานี่แหละ นับว่าเป็น Nick Fury ในเวอร์ชั่นที่เราชอบที่สุดในจักรวาล MCU แล้ว แต่ตัวละครที่เรียกเสียงฮือฮาและแย่งซีนมากที่สุดก็คือเจ้าแมวส้ม Goose นี่แหละ ที่เรียกได้ว่ามันออกมาฉากไหนคนดูเป็นต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักของมันแน่นอน ทั้งหมดทั้งมวลนั้นต้องบอกว่าจริงๆ แล้วตัวละครรอบๆ ตัว Captain Marvel ดูน่าสนใจกว่าตัวเอกอย่างเธอทั้งนั้นเลย

สรุปแล้ว Captain Marvel ก็เป็นหนังฮีโร่ที่ดูง่ายตามสูตรหนัง Marvel ทั่วๆ ไปแหละ เพียงแต่เรื่องนี้เราหาจุด Climax หรือจุดพีคของเรื่องไม่เจอจริงๆ แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหมที่จะไปดู ก็คงต้องตอบว่าจำเป็นแหละ มันมีการปูเรื่องราว ผูกโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ MCU ไว้ด้วย แต่ถ้าถามว่าผิดหวังไหม ก็นิดนึงอะนะ ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากดูจบแล้ว มันก็ยังส่งผลให้เราอยากดู Avengers: Endgame ต่ออยู่ดีนั่นแหละ

ปล. เจ้า Goose น่ารักมากกกกกก เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกฉากที่ออกมาเลย

ปล2. มีฉาก Post Credit สองตัวนะ หลัง Mid และ End Credits เลยจ้าาาา

Captain Marvel ความหวังสุดท้ายในการกู้จักรวาล

หลายคนคงช๊อคกับตอนจบของ Avanvers Infinity War ที่ธานอสดีดนิ้วล้างบางครึ่งจักรวาลสำเร็จ และทีมอเวนเจอร์ที่เหลือรอดก็มีอยู่ไม่กี่คน แถมแต่ละคนไม่ได้มีพลังมากพอที่จะไปต่อกรกับธานอสที่มีถุงมือพร้อม Infinity Stone ได้เลย แล้วใครกันล่ะที่จะเป็นคนเผด็จศึกปิดฉากสงครามครั้งนี้

นี่คือปัญหาที่หลายๆคนสงสัย ทำให้ทางผู้สร้างต้องพาผู้ชมไปพบกับ Captan Marvel ไม้ตายสุดท้ายที่ช่วยกอบกู้จักรวาล แต่ถ้าจะให้เอาขุ่นแม่ไปใส่ไว้ใน Avengers Endgame เลยโดยไม่แคร์ผู้ชมที่ไม่ได้ติดตาม Comic เกรงว่าหนังภาคที่ทุกคนรอคอยคงจะพังไม่เป็นท่าแน่ๆ ทางค่ายหนังเลยเข็นภาคแยกที่เล่าเกี่ยวกับต้นกำเนิดของฮีโร่สาวสุดแกร่งคนนี้นั่นเอง

เรื่องราวจะเล่าอยู่ในช่วงยุค 1990 ซึ่งเทคโนโลยีบนโลกยังไม่ได้ทันสมัยแบบในปัจจุบัน ได้มีการทดลองทางทหารบางอย่างทำให้เกิดฮีโร่หญิงโดยบังเอิน แถมเธอคนนั้นยังจำเรื่องราวบนโลกไม่ได้อีกด้วย และเหตุการณ์ต่างๆ ได้นำพาเธอกลับสู่โลก เพื่อสืบหาความจริงของตัวตนจริงของเธอ และช่วยปกป้องโลกในคราวเดียวกันจากภัยร้ายต่างดาว เล่ามากกว่านี้ก็ไม่ต้องไปดูกันแล้ว 55

เอาเป็นว่าเนื้อเรื่องเล่าเร็วมาก แทบจะไม่มีช่วงพักให้ผู้ชมหายใจได้เลย แต่ก็ดีซะอีกที่ส่วนตัวผมว่าแทบไม่มีช่วงที่น่าเบื่อเลย บทพูดของแต่ละตัวละครที่พูดกันเยอะมาก แต่ไม่ทำให้น่าเบื่อเลย ทุกอย่างที่ปูมาในช่วงต้นเรื่องนำไปสู่การระเบิดพลังขั้นสุด ที่ทำให้รู้พลังของกัปตันมาร์เวล ว่ามีสกีล ทำอะไรได้บ้าง จนพอดูจบต้องชมคนคิด #แม่มาแล้วธานอส จริงๆ เพราะตอนนี้อยากรู้แล้วว่าธานอสจะเอาอะไรไปสู้กับขุ่นแม่กัปตันมาร์เวลได้

สรุปแล้วนี่คือหนังที่ไม่ควรพลาดชมจริงๆ เหมือนเป็น บทเกริ่นนำที่จะนำไปสู่ Avengers Endgame ที่จะฉายในเดือนหน้าแล้ว แถมท้ายด้วยฉากหลังเครดิต 2 ตัว ที่ทำให้คนดูแทบอดใจรอชมสุดจบของสงครามเผด็จศึกครั้งนี้ให้ได้เร็วๆเลยก็ว่าได้ 8/10

ปล.ถ้าชมในระบบ IMAX จะเห็นภาพกว้างขึ้น 26% ซะด้วย เรียกได้ว่าเต็มตา อลังการขึ้นไปอีก