รีวิวหนัง Godzilla: King of the Monsters - ก็อดซิลล่า 2: ราชันแห่งมอนสเตอร์

Godzilla: King of the Monsters

ภาคนี้เอาใจคนชอบก็อตซิลลา และคิงกิโดร่าโดยเฉพาะจัดฉากสู้กันอย่างเต็มอิ่มสุดๆ (สู้กันเยอะกว่าภาคแรกมาก)อีกทั้งภาคนี้ยังคงต้นฉบับของญี่ปุ่นไว้ดีมากๆ และอีกหนึ่งทีถือว่าเป็นที่สุดของภาคนี้ คือเพลงประกอบ ยิ่งใหญ่มาก มีเพลงประกอบดั้งเดิม ใครที่เป็นแฟนคลับก็อดซิลลาได้ฟัง ต้องขนลุกแน่นอน เพลงประกอบยิ่งใหญ่มาก ทำให้นึกถึงก็อดซิลล่าสมัยก่อนๆ กันเลย (ชอบเพลงประกอบมากจนกลับบ้านมาต้องเปิดฟังซ้ำอีก)

เสียงคำรามพี่ก็อดในภาคนี้เสียงดังมากขนาดโรงธรรมดาเสียงยังอลังการพื้นในโรงสั่นกันเลยทีเดียว ภาคนี้ต่างจากภาคแรกพอสมควรฉากสู้กันเยอะมากใส่กันยับ จริงๆแฟนบอยต้องชอบ(ส่วนตัวฉากสู้คือดีงามมาก) คิงกิโดร่า(มังกรสามหัว)ทำออกมาได้เท่สุดๆ หัวมังกรทั้งสามทำได้น่างเกรงขาม รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่จริงๆ 

ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้แย่ตรงไหน ก็จะบอกได้ง่ายๆว่า พาร์ทมนุษย์แย่เกือบทุกฉากเมื่อพาร์ทมนุษย์โผล่มา มันทำให้หนังแย่ลงไปมาก ในหลายๆ ฉากดูไม่สมเหตุสมผลเลย ฉากสู้กันของสัตว์ประหลาดแล้วตัดมาที่มนุษย์ทีไร ต้องบอกเลยว่าอย่างเซง แทบทุกฉากที่พี่ก็อดซิลลาออกมาสู้ต้องมีตัดไปฉากมนุษย์ แล้วมันแย่มาก เพราะบทที่ส่งมาให้มันไม่ลงจังหวะเลย สำหรับนักแสดง Millie Bobby Brown ที่คิดว่าจะมาแบกหนังเรื่องนี้ได้ แต่พอดูจริงๆ ก็ไม่ไหวตัวบทที่ให้น้องเล่นก็ไม่โอเค ไม่โอเคแบบสุดๆ ด้วยแหละ เสียดายความสามารถน้องเค้าจริงๆ

เมื่อเทียบกับภาคแรก ภาคแรกอาจมีฉากสู้น้อยกว่ามาก แต่ทุกฉากที่ก็อดซิลลาโผล่มาคือดี ออกน้อยแต่ออกแต่ละฉากมันมีพลังมาก พาร์ทมนุษย์ถือว่าใช้ได้มีเรื่องราวให้น่าสนใจ(ฉากโดดร่มถือว่าเป็นตำนานของหนังภาคแรกเลย) ส่วนภาคที่สองนี้จัดเต็มการต่อสู้ แต่พาร์ทมนุษย์เนื้อเรื่องแย่มากๆ โดยรวมๆ ส่วนตัว ภาคแรกดีกว่านิดๆ

ถ้ามองข้ามพาร์ทมนุษย์ไป เน้นก็อดซิลล่า ก็บอกเลยว่าหนังดีมาก เพลงประกอบ sound ก็ดีงามสุดๆ แถมยังคงต้นฉบับไว้ได้อย่างดี ส่วนตัวแล้วชอบภาคนี้มากเลยนะ(แต่ไม่เท่าภาตแรก) คิงกิโดร่าตอนปล่อยไฟฟ้าบอกได้คำเดียวว่าเท่มาก คนออกแบบทำได้ดีมากจริงๆครับ 

สรุป ต้องไปดูให้ได้ ดูในโรงมันดีสุดๆจริงๆนะ หนัง มีEnd credit ด้วยนะครับอย่าลืมดู

Godzilla King of the Monsters แบบนี้สิหนังสัตว์ยักษ์ตีกัน ความฝันวัยเด็กที่กลายเป็นจริง!

สมัยเด็กคงไม่มีใครที่ไม่เคยดู ก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ที่ออกมาหลายภาคมาก ซึ่งด้วยเทคโนโลยีการสร้างยุคนั้นทำให้มีข้อจำกัดหลายอย่างโดยเฉพาะการสร้างสรรค์ความสมจริงของ ก็อดซิลล่า ทำให้ต้องทำออกมาในรูปแบบชุดยางเดินทำลายเมืองจำลองนั่นเอง และในยุคนั้นก็ถือว่าว้าวมากแล้ว

พอมาในยุคนี้ที่เทคโนโลยี่ CG นั้นก้าวหน้าไปไกลแล้ว ทางค่าย Legendary ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้สร้างหนังป้อนให้แก่ค่าย Warner Bros. ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ก็อดซิล่าจาก Toho นำมาสร้างเป็นหนังเวอร์ชั่นฮอลลีวูดอีกครั้ง เพื่อออกฉายในปี 2014 ซึ่งรอบนั้นหลายคนก็ต่างบอกว่าตัวหนังชื่อก็อดซิลล่า แต่พี่ก็อดแกออกน้อยมาก เรียกได้ว่าออกน้อยกว่า M.U.T.O คู่ปรับก็อดซิล่าซะอีก นั่นถือเป็นจุดด้อยของภาคก่อนที่หลายๆ คนอยากให้จัดหนักขึ้นมามาก

เนื้อเรื่องภาคนี้เรียกได้ว่าเดินหน้าเต็มสูบในการสร้างความหายนะ และขยายจักรวาล มอนสเตอร์ซะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะของก็อดซิลล่าและกิโดร่า มอธร่าและโรแดน 4 ตัวชูโรงนี้ออกมาปะทะกันแต่ละที ทำให้กราฟความมันส์ของหนังพุ่งขีดสุดตลอดทุกฉากจริงๆ เรียกได้ว่าภาคก่อนบ่นกันว่าสัตว์ยักษ์ออกน้อยใช่มั้ย ภาคนี้จัดหนักให้เต็มอิ่มกันไปเลย จนบทของมนุษย์นั้นกลายเป็นแค่ตัวประกอบเรื่องเท่านั้น (ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ 555)

ด้วยความที่ตัวหนังนั้นเน้นการขายฉากสัตว์ยักษ์ตีกันเป็นหลัก ทำให้คนดูทั่วไปน่าจะเอ็นจอยและมันส์ไปกับหนังได้ไม่ยาก แต่กลับกันถ้าเป็นสายนักวิจารณ์หนังคงจะกดคะแนนสุดๆในความที่ไม่สมเหตุผลหลายๆอย่างในเรื่อง เอาเป็นว่าถึงแม้ว่าภาคนี้จะไม่ใช้หนังที่เพอร์เฟคอะไร แต่ต้องบอกไว้เลยว่าคนดูต้องชอบและมันส์ไปตลอด 2 ชั่วโมงแน่นอน แถมท้ายด้วยช่วงต้นเครดิต จะมี Easter Egg มากมายรวมไปถึงทีฉากหลังเครดิตด้วย หนังจบอย่างพึ่งรีบลุกไปไหนเชียว 8/10

[รีวิว] Godzilla: King of the Monsters
--- 6.9/10 ---
หนังสัตว์ประหลาดตีกันที่บทแบบ “อิหยังวะ”

Godzilla: King of the Monster เป็นหนังภาคต่อของ Godzilla (2014) แต่เป็นเรื่องที่ 3 ในจักรวาล MonsterVerse ต่อจาก Kong: Skull Island ที่ภาคนี้เป็นการตีกันยับของเหล่าสัตว์ประหลาด ซึ่งจะเป็นการปูไปการปะทะกันของ ราชา (King Kong) กับ พระเจ้า (Godzilla) ใน Godzilla vs. Kong

คือตั้งใจจะเข้าไปดู Godzilla ตีกับเหล่าสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ น่ะแหละ หลายคนอาจจะบอกว่า “หนังมันเน้นแอ็คชั่น ขายสัตว์ประหลาด” จริงๆ มันก็ควรจะควบคู่กันไปป่าวมันถึงจะลงตัว คือพยายามมองข้ามบทแล้วนะ แต่บทมันแย่เกินจริงๆ ทั้งเรื่องเลย การกระทำแต่ละอย่างของตัวละครโคตรขัดใจ ไร้เหตุผล และขาดแรงจูงใจสุดๆ ดูไปก็บอก “อะไรของพวกคุณ!!!” “ทำเพื่ออะไร?” “ทำไปทำไม” รวมถึงบทพูดหลายๆ ฉาก ที่พูดเอาเท่ เหมือนหยิบคำคมมาพ่นใส่กัน ซึ่งมันก็ดูเท่ดี แต่มันเยอะไป ซึ่งแต่ละช็อตที่พ่นคำคมออกมาจะเป็นการถ่ายแบบเดิม กล้องจะ CU เข้าหน้าละ แล้วจะหยุดหนึ่งจังหวะ แล้วก็พูดคำคมนั้นออกมา เหตุการณ์ในหนังแต่ละอย่างก็เกิดขึ้นแบบ “อะไรวะ” เดี๋ยวตัวนั้นโผล่ ตัวนี้มา ไอ้นั่นทำงี้ ไอ้นี่ทำงั้น ชวนเกาหัวแกรกๆ นั่งกุมขมับสุดๆ

มาทางด้านตัวละคร คือมันก็โอเคแหละ การแสดงก็ดูอิน เข้าถึงบทบาทกันดี แต่น้อง Millie Bobby Brow ในบท Madison นี่สิ หลายๆ ฉากนี่ชวนให้นึกถึงซีรีส์ Stranger Things ที่น้องเล่นมากกกกก คือแหกปาก ร้อง กรี๊ดดด คือในใจนี่นั่งลุ้นเลย เอาเว้ยเดี๋ยวเลือดกำเดาไหลแน่ๆ 555 “เอาเลยลูก มาเลยยย จับ ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นยกเลย สลายมันเลย!” องค์ประกอบหลายๆ อย่างมันชวนให้คิดไปในแนวทางนั้นจริงๆ 5555

เรามามองฉากแอ็คชั่นกันบ้าง หวังว่ามันต้องยิ่งใหญ่แน่ๆ การปะทะกันของเหล่าสัตว์ประหลาดเลยนะเว้ย! แต่มันก็ทำได้แค่เพลินๆ เท่านั้น ไม่ได้ชวนลุ้นหรือน่าเอาใจช่วยอะไร บอกตรงๆ ว่ามันดูใหญ่แค่ตัว ไม่ได้มีฉากไหนชวนว้าวเลยแม้แต่น้อย การปะทะกันของ Godzilla กับ King Ghidorah ก็งั้นๆ มาก แม้กระทั่งการปล่อย Atomic Breath ของ Godzilla ก็ตาม อาจจะมีอารมณ์แบบ “อ๋อ ก็เท่ดีนะ” จบแค่นั้น แต่ก็ชอบท่าจัดการตอนจบของ Godzilla ในเวอร์ชั่น MonsterVerse นะ ภาคแรกปล่อย Atomic Breath เข้าไปในปากศัตรู ภาคนี้แบบ…. คือน่าปรบมือ ประทับใจอะ น่าชื่นชมมาก คนคิดมันคิดได้ยังไงวะ 555

ไอ้สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ นอกจาก Godzilla และ King Ghidorah เนี่ย ตัวประกอบชัดๆ!!! โอเคแหละ Rodan อาจจะเปิดตัวเท่ๆ เล็กน้อย แต่ที่น่าผิดหวังและน่าโมโหที่สุดคือ Mothra “มึ*มาทำไม” โคตรตัวประกอบ โคตรไม่เด่น น่าเสียดายเกิ๊นนนนน ใครเป็นแฟนคลับ Mothra ต้องผิดหวังแน่ๆ และมันยังมีฉากตลกๆ ของเหล่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ด้วยนะ คือมันก้มหัวคำนับ! มันใช่หรอฟะ! แต่ไม่เป็นไร มันยังมีฉาก Godzilla แสยะยิ้มเลย ให้ตายเถอะ!

แต่สิ่งที่ต้องชมจริงๆ เลยอันดับแรกคือเพลงประกอบ ที่หยิบเอาเพลงประกอบ Godzilla ต้นฉบับมาดัดแปลงใหม่ โคตรดี อีกทั้งเพลงธีมของตัวละคร Mothra ด้วย และซาวด์ในเรื่องนี้คือดูอลัง ยิ่งใหญ่ บิ้วมาก ซึ่งถ้ามันไม่ดีหนังจะดร็อปไปกว่านี้มากๆ

อันดับสองคือการออกแบบสัตว์ประหลาดแต่ละตัว ที่ดูสวยงาม และเป็นที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะ Rodan, Mothra, King Ghidorah เรียกว่าออกแบบได้ดีเลยแหละ ฉากเปิดตัวแต่ละตัวก็เท่ น่าเกรงขาม และงดงามไม่ใช่เล่น ส่วนทางด้าน Godzilla ก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมาก ยังคงความเป็นพี่หมี อ้วนท้วมสมบูรณ์ ที่มีความน่ารักและหล่อเหลาควบคู่ไปในตัว สาวกรี๊ดอยู่เช่นเดิม

สรุปแล้ว Godzilla: King of the Monsters ออกมาไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าที่ควรเลย หลายๆ อย่างในภาคแรกยังกลมกล่อม ดูดีกว่าด้วยซ้ำ ถึงแม้แอ็คชั่นมันจะน้อยกว่าก็ตาม การเล่าเรื่อง การดีไซน์ การถ่ายทำ มุมกล้องดูดีกว่ามากๆ ในภาคนี้มีฉากการต่อสู้หลายๆ ฉากก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง มึดบ้าง แลดูมั่วๆ บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงเหมาะกับคนที่อยากเข้าไปดูสัตว์ประหลาดตีกันเท่านั้นจริงๆ

ปล. หนังมีฉากหลัง End-Credit 1 ฉาก อย่าลืมรอดูกันเด้ออออ