รีวิวหนัง One Cut of the Dead - วันคัท ซอมบี้งับๆๆๆ

One Cut of the Dead

     ฮา ฮาท้องแข็ง ขำแบบหยุดไม่ได้ ออกโรงมาได้รอยยิ้มกลับไปแน่นอน ที่กล่าวมาไม่เกินจริงแน่นอน เป็นหนังที่ไปสุด สุดโต่ง และทำออกมาได้ดีมากๆ ไม่ได้ขำอะไรแบบนี้มาหลายปีแล้วครับ แต่เรื่องนี้ทำให้ขำแบบหยุดไม่ได้เลยทีเดียว 

หนังแบ่งเป็น 2 ช่วง จริงๆ ช่วงแรกของหนังชวนงง ว่ามันคืออะไร เป็นหนังสั้นที่ไม่สั่งคัทเล่นยาวไปเลย แอบน่าเบื่อพอสมควร(อันนี้ชมนะ คือต้องไปดูว่าทำไมถึงชมว่าเบื่อ เพราะช่วงแรกทำให้หนังสนุกมากครับ ไปดูๆ) แต่พอผ่านช่วงแรกไปได้บอกเลยครับ พีค พีคโคตรๆ ขำแบบขำไม่หยุด ขำจนท้องแข็ง กรามค้างกันเลยทีเดียว  

ยอมใจคนเขียนบท และผู้กำกับมาก ทำพลอตหนังธรรมดาที่มันไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ (เอาจริงๆคาดไม่ถึงว่าจะมาทางนี้) นักแสดงช่วงแรกก็ขัดใจมาก แต่พอช่วงสองความขัดใจกลายเป็นความเข้าใจแล้วรู้สึกดีกับตัวละครทุกตัวมาก แสดงดีมากครับ  ฉากฮาคือฮา ไม่มีแป๊กเลย ปล่อยมาแบบรัวๆ ขำจนเหนื่อยเลยแหละครับ 

สุดท้ายก็ไม่สามารถหาข้อติได้ เพราะมันดีมากจริงๆ ครับ แนะนำๆ เลย รีบไปดูเลยครับ

สรุป 
  ไปดูครับ ไปดูเลย ไม่ดูถือว่าพลาดมาก หนังสายฮาแบบนี้ไม่ได้มีให้ดูบ่อยๆนะครับ คุ้มค่าตั๋วแน่นอนครับ แต่ระวังกรามค้างนะ จะหาว่าไม่เตือน :p 

One Cut of Death

เป็นหนังสุดตลกที่มาพร้อมเรื่องราวเหนือความคาดหมาย มีโครงเรื่องที่มีเสน่ห์ เรียบง่าย ทว่ากลับลึกล้ำ ทำให้วันคัทออฟเดธมันเป็นหนังสนุกมากๆ องค์แรกของหนังทำตัวเป็นหนังเกรดบี ลองค์เทค บางส่วนอึดอัด ล้อขนบหนังซอมบี้ มีความกระอักกระอ่วนอยู่พอสมควร ไม่เหมาะกับคนทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่พอเข้าองค์ที่สองและสามของหนัง มันก็กลับกลายเป็นหนังยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งที่ได้ดูในโรง ใครๆ ต้องอิน ต้องหัวเราะ มันส์ไปกับการแก้ปัญหาที่มาไม่หยุดหย่อน และทำให้เรื่องราวสมเหตุสมผลจนน่าตกใจ สมกับเป็นหนังที่ทำปรากฏการณ์ในญี่ปุ่นจากสิบโรงเป็นทั่วประเทศ ลงทุนเพียง 9 แสนได้กำไรไป 330 ล้านบาท ขายด้วยปากต่อปาก ขายด้วยไอเดียล้วนๆ

One Cut of death เป็นหนังลองค์เทคซอมบี้ทุนต่ำ 37 นาทีช่วงแรก ที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม มีความเป็นหนังคัลท์เกรดบีที่คนดูสนุกได้ด้วยการเข้าใจขนบอะไรบางอย่างมาแล้ว ไม่ใช่สำหรับคนทั่วไป ก่อนจะขยับต่อในองค์ที่สองและสาม ซึ่งไม่สามารถกล่าวเรื่องย่ออะไรได้มากมายนัก นอกจากมันเป็นการล้อขนบเบื้องหลังแบบถึงพริกถึงขิง เสียดสีวงการโปรดักชั่นภาพยนตร์ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการวางโครงเรื่องในสองส่วนต่อมานี้เป็นการวางโครงเรื่องที่เนี๊ยบ สนุกสนาน และทำให้คนทั่วไปที่ดูอินจนน่าตกใจ

นักแสดง แสดงกันดีมากๆ และช่วยให้หนังสมจริง ช่วงสุดท้ายที่ปัญหาการถ่ายทำประดังเข้ามา และต้องลุ้นให้รอด เป็นอะไรที่งดงามมากๆ การวางโครงเรื่องมารองรับความผิดพลาดในช่วงลองค์เทคตอนแรก เสียดสี ล้อเลียน สุดมันส์  อะไรที่ปูเอาไว้ เก็บจนหมดจรด แม้กระทั่งเรื่องดราม่าต่างๆ ในครอบครัวก็ทำให้หนังมีรูปแบบที่น่าสนใจมากๆ

One Cut of Death เป็นหนังที่ทุกคนสมควรจะได้ดูซักครั้งในชีวิต โครงเรื่องรูปแบบที่น่าสนใจ และเป็นหนังตลกที่สนุกสนานมากที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมเคยดูมาเลย ไม่สามารถพูดอะไรเยอะเพราะมันมีความหักมุมที่ดีมากๆ ในเรื่องอยู่ ไปดูให้ได้นะครับ ผ่าน 37 นาทีแรกให้ได้แล้วจะพบว่าหนังที่โคตรสนุกเรื่องหนึ่งเลย

One Cut of the Dead "วันคัท ซอมบี้ งับๆๆๆ"

96 min | Comedy/Horror | Directed by Shin ichiro Ueda 

เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ?

หนังว่าด้วยเรื่องราวของกองถ่ายหนังซอมบี้แห่งหนึ่ง โดยขณะที่ทีมงานนักแสดงกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งนั้น ก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะ ณ สถานที่แห่งนี้ มีตำนานเล่าว่าที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ทดลองสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่มีใครรู้ว่าการทดลองนั้นคืออะไร และเกิดอะไรขึ้นบ้าง จนกระทั่งทีมงานในกองถ่ายต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่คล้ายกับซอมบี้เข้าจริงๆ ทำให้พวกเขาต้องหนีตายเพื่อเอาตัวรอดจากซอมบี้!! 

ความรู้สึกแรกหลังดูจบ.. 

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าช่วงองค์แรกของหนังคือหลอกตามาก หลายคนที่ไม่ได้ปรับจูนมาว่าแท้ที่จริงแล้วหนังเรื่องนี้แฝงหรือมีอะไรที่ซ่อนอยู่บ้าง อาจจะทนดูองค์แรกของหนังแทบไม่ไหวเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่หากคุณผ่านองค์แรกไปได้แล้ว คุณจะพบกับความสนุก และความตลกอย่างแรง เพราะไม่น่าเชื่อว่าจากหน้าหนัง ไปจนถึงองค์แรกและไปจนถึงท้ายที่สุด หนังจะพาเราไปไกลถึงจุดนี้ได้อย่างน่าประทับใจมากจริงๆ 

สิ่งที่น่าชื่นชม 

ในส่วนของสิ่งที่ชอบ อาจจะมีการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนรวมไปถึงประเด็นที่ซ่อนอยู่ในหลาย ๆ จุดของหนัง หากใครดูมาแล้ว กด spoil เพื่ออ่านได้เลย แต่ถ้ายังไม่ได้ชมแนะนำให้ไปเผชิญกับความเหวอ ความบ้านี้เองจะเป็นการดีที่สุดครับ 

สรุป 

อยากให้หลายคนไปลองดูกันมากๆ หน้าหนังของหนังเรื่องนี้อาจจะดูเป็นหนังซอมบี้เกรดบีแย่ๆ เรื่องนึง แต่ความจริงแล้วมันมีอะไรมากมายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งความสนุกก็อยู่ในสิ่งอันที่ตัวหนังจะนำเสนอจริงๆ นี่แหละ เป็นความแปลกใหม่ของรสชาติการชมภาพยนตร์ที่หาดูชมได้ยากมากจริงๆ จนอยากให้คนที่มีโอกาสไปชมดูครับ ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง 

รีวิว One Cut of the Dead
10/10
สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ เล่าเรื่องอย่างชาญฉลาด
“เป็นหนังทุนต่ำที่ต้นเรื่อง(แสร้ง)ทำเป็นหนังเกรดบี แต่จบเรื่องมันออกมาเกรด SSS ชัดๆ”

บอกเลยว่านี่คือเรื่องแรกที่ Watch Da Film ให้ 10/10 !!! หลังดูจบยังอึ้งกับหนังอยู่เลย ได้ใจไปเต็มๆ ประทับใจแบบสุดๆ เพราะมัน The Best!!! Very Good!!! สุดยอดมากจริงๆ!!! ไม่รู้จะติตรงไหนเลย เพราะมันโคตรสมบูณณ์แบบ

หนังเป็นกระแสตั้งแต่เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ด้วยทุนสร้างเพียง 9 แสนบาท แต่รายได้เปิดตัวทำไปถึง 330 ล้านบาท!!! ตอนแรกก็คิด “เห้ยอะไรมันจะขนาดนั้น” แต่พอมาดูก็ “อ๋อ...เหมาะสมแล้วหล่ะ” หนังถ่ายทำเพียง 8 วัน จากฝีมือผู้กำกับ เขียนบท และตัดต่อของ Shinichiro Ueda ส่งให้หนังเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆ

หนังไม่น่ากลัวเหมือนหนังซอมบี้ทั่วๆ ไป แต่มันทั้งสนุก ตลก และทำให้ยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่องกับฉากแต่ละฉาก โครงเรื่อง การถ่าย การวางพล็อตเรื่องที่ผู้กำกับคนนี้สรรสร้างมันขึ้นมาได้อย่างชาญฉลาด

เป็นหนังซอมบี้ทุนต่ำที่ทำผลงานได้ไม่ต่ำเหมือนทุน กลับทำได้สูงมากด้วยซ้ำ ในตอนองค์แรกของเรื่อง เราคิดไปต่างๆ นานา เลยว่า “โหดีตรงไหน อวยอะไรกัน ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ไม่ดี เล่นใหญ่ไปไหม” เรียกได้ว่าข้อติเยอะแยะไปหมด แต่พอหนังดำเนินมาองค์สององค์สาม อยากบอกคำเดียวว่า “ที่พูดมาเมื่อกี้ เก๊าขอโต๊ด T^T” หนังมันดีมาก มากๆๆๆๆๆ มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

มันเปรียบเสมือนชกมวย โดยหนังเรื่องนี่เปรียบเสมือนคู่ต่อสู้ของเรา ยกแรกมันยืนเฉยๆ ไม่ตั้งการ์ด ทำตัวอ่อนแอ เต็มไปด้วยจุดอ่อน ปล่อยให้เรารัวหมัดด้วยคำติแบบไม่ยั้ง แต่พอมายกที่สอง มันเริ่มขยับหลบหมัด ออกฟุตเวิร์ค เริ่มแยบ พอมายกที่สามเท่านั้นแหละ เราไม่มีโอกาสได้ต่อยมันอีกเลย กลายเป็นเราโดนอยู่ฝ่ายเดียว หนังเรื่องนี้มันน็อคเราเต็มๆ พร้อมยังทิ้งท้ายให้เราอีกว่า “ไงละ”

ฉาก Long Take ต้นเรื่อง 37 นาที บอกเลยว่ามันคือการ Long Take จริงๆ ดูตอนแรกคุณอาจจะตะหงิดใจ หงุดหงิดบ้าง แต่อดใจไว้ก่อน คุณต้องเก็บทุกรายละเอียดของ 37 นาทีนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะมันคือเรื่องราวที่จะบ่งบอกทั้งหมดของหนัง พอหนังจบคุณจะต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอน เพราะไอ้ฉากนี่มันคือการคำนวนมาอย่างดิบดี ทุกองศา ทุกมุมกล้อง ทุกการกระทำของตัวละคร ทุกการเคลื่อนไหว มันถูกคำนวนไว้หมดแล้ว ไม่มีคำว่า “พลาด” เลยแม้แต่น้อย ใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆ

หนังยังมีการเล่าถึงการผลิตหนัง หน้าที่ของฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ เบื้องหลังการทำงานต่างๆ อีกทั้งยังแอบแขวะ คนในวงการนี้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว และยังมีเบื้องหลังให้เราได้ดู กระแทกความยอดเยี่ยมให้เราอีกเต็มๆ ตัวเราเองเรียนเกี่ยวกับทางด้านนี้มายิ่งโคตรจะชอบเลย ยิ่งพวกเรียนฟิล์มจะโคตรอินกับมัน ถึงแม้ไม่ได้เรียนสายเหล่านั้นมา คุณก็จะรักหนังเรื่องนี้หมดใจอย่างไม่มีข้อกังขาเลย

นี่เป็นหนังที่ดีที่สุดในรอบปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ไม่ต้องใช้ CG เวอร์วังอลังกาล ไม่ต้องใช้นักแสดงขั้นเทพ ไม่ต้องมีตากล้องระดับท๊อปของวงการ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ราคาหลักล้าน ทุนไม่ต้องเยอะ แต่ผลลัพธ์ออกมาได้โคตรของโคตรในโคตรของโคตรดีขนาดนี้ นี่สิถึงเรียกว่า “ดีจริง”

ไม่ควรพลาด ห้ามพลาด ต้องดู กำชับเลยว่าต้องดู ถ้าว่างต้องไปดูเลย ไม่ว่างก็ต้องหาเวลาว่างไปดู ถ้าใครอ่านอยู่ อ่านจบคุณเปิดมือถือ เปิดแอปโรงหนังต่างๆ เช็ครอบ จองตั๋วไปดูบัดเดี๋ยวนี้เลย!!! มีเพื่อนชวนเพื่อน มีใครก็ตามชวนมาให้หมด ไม่มีก็ไปดูคนเดียวซะ ไม่อยากให้พลาดจริงๆ !!! รีบไปดูซะก่อนมันจะออกโรง เพราะโรงฉายมันน้อยเหลือเกิน อยากกราบ กอดรัดฟัดจูบ กับค่ายที่ซื้อหนังเรื่องนี้มาฉายจริงๆ ขอบคุณมากๆ จากใจ

ปล. รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสดูหนังดีๆ แบบนี้ในชีวิต T^T (เว่อร์มะ ไปเหอะ ไปดูเถอะนะขอร้อง)