รีวิวหนัง Terminator: Dark Fate - ฅนเหล็ก วิกฤตชะตาโลก

ส่วนตัวเคยดูterminatorภาคเก่าๆ แต่ก็ลืมไปหมดแล้ว อาจจำได้แค่คร่าวๆ
-เป็นหนังแนวไล่ล่าจ๋าๆเลยการดำเนินเรื่องน่าจะคล้ายๆ กับterminatorภาคแรกๆ เลย
-รู้สึกว่ามันก็สนุกแต่เป็นแบบเรื่อยๆ ไม่มีอะไรว้าว
-ฉากแอ๊คชันมีมากในระดับนึงแต่ดูแล้วไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเอาใจช่วยตามเท่าไร ฉากแอ๊คชันค่อนข้างเน้นความวุ่นวายชุลมันกันเสียมากกว่า
-ความสัมพันธ์ตัวละครอยู่ในระดับกลางๆ ทำออกมาได้เฉยๆไม่ถึงกับแย่ แต่ก็พอมีตัวละครชุดเก่ามาให้คนดูหายคิดถึง
สรุปหนังอาจจะซ้ำซากไปหน่อย พยายามดึงลักษณะของหนังภาคแรกๆของterminatorมาแต่ทำได้ไม่ถึง อยู่ในเกณฑ์หนังฟอรมยักษ์ที่ดูได้เพลินๆ แต่ไม่ได้น่าจดจำอะไร 

Terminator: Dark Fate

เป็นหนังที่ไม่ควรพลาดแม้แต่วินาทีแรกของหนัง เพราะฉากเด็ดอยู่ต้นๆ เรื่องเลย ใครที่เข้าสายมีร้องแน่นอน ในภาค Dark Fate นี้ได้ Linda Hamilton กลับมารับบท Sarah Connor และยังได้ Arnold Schwarzenegger กลับมารับบทคนเหล็กอีกครั้งด้วย

ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนังสนุกมาก ตื่นเต้นตลอดเวลา สนุกตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ฉากสู้กันคือดีงามมาก เอาจริงๆตลอดช่วงแรกของหนังนี้สนุกสุดๆแล้ว 

ในช่วงพาร์ทดราม่าของหนังรู้สึกได้ว่ามันธรรมดามาก มันเหมือนไม่สุด หรือเพราะหนังเส้นเรื่องตรงๆ ดูง่าย ย่อยง่ายเลยทำให้พาร์ทดราม่าต่างๆ ในหนังทำได้แย่กว่าที่คิด 

การกลับมาของบท Sarah Connor ยอมรับเลยว่าดีมากๆ ฉากที่เปิดรถมายิง ยิง ยิง ยิง เท่สุดๆ ดูแล้วขนลุกเลย (มีฉากนี้ในตัวอย่างหนัง) และตลอดทั้งเรื่อง Linda ที่รับบทนี้แสดงให้เห็นถึงพลังการแสดงอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีบอกเลยว่าหนังคงกร่อยสุดๆ

ในเส้นเรื่องใหม่จะใช้เส้นเรื่องของแดนี่ (นำแสดงโดย Natalia Reyes) มนุษย์ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายสังหาร และ เกรซ (นำแสดงโดย Mackenzie Davis) นักรบหญิงเหล็กจากโลกอนาคตผู้มาปกป้องแดนี่ โดยในตัวบทของเกรซ นักแสดงเท่มาก เหล่าสาวๆ คงกรี๊ดสลบ ส่วนหนุ่มๆก็คงชอบ เพราะทุกฉากเท่มากๆ ฉากสู้ก็ทำได้ดี 

ส่วนการกลับมาของ Arnold Schwarzenegger ตัวบททำให้เรารู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ทำให้ตื่นตาตื่นใจเลย เพราะบทเฉยๆมาก แต่ก็คงเรียกฐานคนดูให้กลับมาดูหนังได้เยอะอยู่ครับ

โดยรวม รู้สึกชอบและสนุกไปกับหนัง ถึงแม้จะมีพาร์ทน่าเบื่อบ้าง จำเจบ้าง แต่ก็ยังเชียร์ให้ไปดูนะ โดยเฉพาะคนที่ดูมาทุกภาค ภาคนี้ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ 

Terminator Dark Fate ชะตากรรมโลกอนาคตที่ถูกเปลี่ยนแปลง

นับตั้งแต่ T2 (Terminator Judgmenday) เรียกได้ว่าแฟรนไชส์นี้แทบจะมาพร้อมคำสาปตามติดเรื่องๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาคต่อมา2-3ภาค นั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่พอจะเทียบชั้นภาค T2 เลยก็ว่าได้ จนล่าสุดสิทธิ์หนังได้ตีกลับมาอยู่ที่ เจมส์ คาเมรอน เจ้าของไอเดียฅนเหล็ก ต้นฉบับถึงเวลานำกลับมาสานต่อเรื่องราวครั้งใหม่ ที่เรียกได้ว่าไม่ไว้หน้าและไม่นับญาติภาค 3-5 กันเลยทีเดียว

เนื้อเรื่องภาคนี้ดำเนินต่อจากตอนจบ T2 ที่ซาร่า คอนเนอร์ และจอห์นคอนเนอร์ ต้องหลบหนีทั้งทางการ และหุ่นเหล็ก T-800 ที่ถูกส่งย้อนเวลามา ฆ่าจอห์น คอนเนอร์ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนซาร่าแก่ตัวลงเรื่องราวทั้งหมด หรือภาระกิจก็ยังไม่จบสิ้น ในภาคนี้จะไปโฟกันที่ตัวละครใหม่อย่าง แดนี่ สาวลาติน ผู้ซึ่งกำลังถูกฅนเหล็ก REV-9 ย้อนเวลามาเพื่อฆ่าเธอ แต่เธอก็ถูกช่วยเหลือจากมนุษย์ดัดแปลงอย่างเกรซ และโชคชะตานำพาเธอให้มาบรรจบกับซาร่า คอนเนอร์ในวัยชรา ผู้ซึ่งยังคงทำภาระกิจตามเก็บ ฅนเหล็กที่ถูกส่งย้อนเวลากลับมา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะหุ่น REV-9 ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการ แตกตัวขยายร่างได้ และสามารถหลอมตัวเองปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นใครก็ได้ที่มันสัมผัส ด้วยความที่หุ่นรุ่นนี้ถูกพัฒนามาอย่างดี ทำให้การที่เหล่าตัวละครหลักจะต่อสู้เป็นไปได้ลำบากมาก และมีหนทางเดียวคือต้องหนีให้ไกลที่สุด

เอาเข้าจริงแล้วเนื้อเรื่องในภาคนี้เปรียบเสมือนการนำเอาพล๊อคจาก ฅนเหล็กภาค1-2 จับมามิกซ์รวมกัน (เหล่าเก่าในขวดใหม่) ซึ่งก็ยังดีที่มีฉากแอคชั่นที่มันส์ เดือดตลอดทั้งเรื่อง ทำให้โดยรวมนั้นตัวหนังเองยังพอมีความน่าสนใจอยู่บ้าง และรวมไปถึงจุดพลิกผันที่เรียกได้ว่า กล้าและบ้ามาก ที่จะออกจากพล๊อตเดิมๆภายเรือวนในอ่างแบบที่ภาค 3-5 เคยทำมา (นี่เป็นอีก 1 จุดแข็งที่ทำให้ภาคนี้น่าสนใจมากขึ้น)

สรุปแล้ว ฅนเหล็กภาคนี้ ถึงแม้ว่าจะยังดีไม่เท่า T2 ก็ตามได้สำหรับผมแล้วความสนุกของภาคนี้คงอยู่ในอันดับต้นๆของหนังฅนเหล็กที่มีมาเลย 8.5/10 ถ้าจะให้เรียงลำดับความชอบของหนังตระกูลฅนเหล็กเท่าที่มีการสร้างมา คงเรียกลำดับตามความชอบมากไปหาน้อยคงออกมาราวๆนี้ T2>Terminator Dark Fate>T1>T4>T5>T3

TERMINATOR: DARK FATE

" ไล่ล่าข้ามศตวรรษกันอีกครั้ง "

128 min | Action/Sci-fi | Directed by Tim Miller

     นี่คือภาคที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ James Cameron เคยกล่าวไว้ว่าให้ลืมหนังหลายเรื่องที่ออกมาหลังภาค 2 ไปซะ และ Dark Fate นี่แหละคือการเชื่อมต่อกันอย่างแท้จริงกับ Terminator 2 ภาคแรก ซึ่งเรื่องราวในภาคนี้จะโยคหนีจากตระกูลคอนเนอร์ไปเลย โฟกัสที่คนใหม่อย่าง ดานี่ รามอส หญิงสาวชาวเม็กซิโกผู้แสนจะธรรมดาแต่กลับต้องมาถูกตามล่าโดยหุ่นเหล็กไหลโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่ยังดีที่มี เกรซ มนุษย์เสริมแกร่งจากอนาคตที่มาเพื่อปกป้องเธอจากการตามล่าโดยเฉพาะ และการกลับมาของซาร่า คอนเนอร์ ที่บังเอิญปรากฏตัวและช่วยสาวๆ ให้รอดพ้นอีกทางอย่างปริศนา ซึ่งทั้ง 3 ต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องชีวิตดานี่ให้ได้ เพราะเธอสำคัญต่ออนาคตของมวลมนุษยชาติ

     ชอบการที่หนังโคตรจะย่อยง่าย มันไม่ซับซ้อน มากความ และดูสนุกมาก คือตัวหนังเปิดเรื่องมาก็ไม่ต้องใช้เวลามากมายในการปูเรื่องปูราวเลย ไม่เวิ่นเว้อ แนะนำนางเอก แนะนำเกรซ ตัวร้ายมาก็ไล่ล่ากันทันที อัดฉากแอ็กชั่นมาแบบไม่ยั้งมือ แล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่า แม็กเคนซี่ เดวิส เธอจะเท่ได้ขนาดนี้ คือมีความเป็นนักรบสูงมากและฉากที่เธอฟาดฟันกับอีตาเหล็กไหลก็มันส์ดี และนี่ดูเหมือนจะเป็นพอยท์หลักๆ ของหนังแล้ว นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่เกินคาด

     และใช่แล้วหนังมีความหยิบยืมองค์ประกอบจาก Judgement Day มามากพอสมควรซึ่งถ้าใครที่เคยดูก็คงจะจำกันได้เลยว่าส่วนไหนมาจากส่วนไหนบ้าง แต่ก็ยังดีที่หนังยังมีความเป็นแอ็กชั่นสมัยใหม่ ฉึบฉับ กระชับ ว่องไวเลยดูจะมีความแตกต่างกันบ้าง การกลับมาของ 2 ตำนานแฟรนไชส์อย่าง ลุงอาโนลด์ และ ลินดา ฮามิลตัน ก็โอเคเลยนะโดยเฉพาะรายหลังนี่คงความเป็นซาร่า คอนเนอร์ร่างตัวแสบได้แบบเต็มร้อยเลย 

     โดยรวมแล้วถือว่า Terminator: Dark Fate โอเคเลย ดูสนุก มันส์ สาแก่ใจคอแอ็กชั่นที่ชอบดูหนังบู๊ไล่ล่าเลย ความเป็นหนังคนเหล็กก็ไม่ขี้เหร่ มันค่อนข้างเซฟ บันเทิง และตอบโจทย์เลยสำหรับคนดูในทุกๆ กลุ่ม

[รีวิว] Terminator Dark Fate - ฅนเหล็ก วิกฤตชะตาโลก
--- 6/10 ---
แอ็คชั่นมาเต็ม! แต่บทเข้าขั้นแย่!
เหมือนนั่งดูภาค 2 อีกรอบแต่เปลี่ยนตัวละครใหม่กับเนื้อหาใหม่นิดหน่อย
ผิดหวัง!!!

บอกก่อนเลยว่าคาดหวังไว้สูงมากกกกกกกก เพราะ James Cameron กลับมาเอี่ยวในฐานะคนเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างเลยนะเฟ้ย เฮียแกเลยให้ ภาค 3-5 เป็นอีกจักรวาลคู่ขนานอีกอันนึงไป แล้วเฮียแกบอกนี่ ภาค 3 ที่แท้จริงมันต้องแบบนี้เฟ้ย เลยสร้างมันขึ้นมา เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาค 2 (Terminator: Judgment Day - 1991) มิหนำซ้ำ ถ้ารายได้ดีเฮียแกวางจะทำเป็นไตรภาคใหม่อีกด้วย 

Terminator Dark Fate จะเป็นเรื่องราว 27 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาค 2 ซึ่งหลังจากที่คู่แม่ลูกสุดทรหดได้เอาตัวรอดจากการไล่ล่าฆ่าฟันของ T-1000 และลบความเป็นไปได้ในการสร้าง Skynet ขึ้น ถือว่าเป็นการจบที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่มันยังไม่จบ! เล่าอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ละ เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์ รู้ไว้แค่ว่าคราวนี้มีการส่งกลับมาจากโลกอนาคตเพื่อปกป้องเด็กคนหนึ่ง อีกฝ่ายก็ส่งมาไล่ล่า และมันโหด จึงต้องให้ T-800 มาช่วย นั่นแหละคือสิ่งดึงดูดที่ทำให้อยากรู้ จะเล่าต่อยังไง? ภาค 2 T-800 ตายไปแล้วโผล่มาได้ไง? Skynet หายไปแล้วยังจะมีอะไรต่ออีก? Grace เป็นใคร? เด็กที่โดนปกป้องเป็นใคร? คำตอบทั้งหมดล้วนดึงดูดให้อยากดูแล้วอยากติดตามมากๆ และภาคนี้มันก็ตอบคำถามได้อย่างครบถ้วน แต่บอกตรงๆ ว่า “แถโคตร!!!”

เปิดเรื่องมาฉากแรกนี่ถึงกับต้องอุทานเลย !@#$%^&*()_+ เอางี้เลยหรอฟะ ไม่ได้เด้ ไม่ถูกต้องงงงง คือแฟนเดนตายหลายๆ คนน่าจะต้องด่ากันบ้างแหละ 

แต่หลังจากเปิดเรื่องก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับฉากแอ็คชั่นที่จัดเต็มตั้งแต่ช่วงแรก มัน ดุเดือด จนทำให้ในใจคิดละ “เห้ย มีแววว่ะ น่าจะเวิร์ค มันแน่ๆ” และตลอดทั้งเรื่องเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นแบบจัดเต็มมาก ที่ก็โอเค แต่ฉากแอ็คชั่นช่วงแรกคือ The Best ของหนังละ ฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่องเอาเป็นว่าห่วยสุดละกัน ไม่พีค ไม่ตื่นเต้นเลย เหมือนยิ่งดำเนินเรื่องไปความยอดเยี่ยมของฉากแอ็คชั่นมันลดลงเรื่อยๆ ที่สำคัญภาคนี้มีฉากแอ็คชั่นกับยานพาหนะเหมือนเดิม มีหมด รถกระบะเอย รถบรรทุกเอย เครื่องบินเอย ฮ. เอย 

เอาง่ายๆ ว่าทางด้านบทเรื่องนี้แทบจะเหมือนภาค 2 ทุกส่วน เปลี่ยนเพียงแต่ตัวละคร คือโครงเรื่องหลักๆ มันคือภาค 2 แบบเป๊ะๆ เลย  นั่นแหละ หนังเรื่องนี้คงจะบอกได้ว่ามีดีแค่ฉากแอ็คชั่นจริงๆ (แถมไม่ได้ดีทั้งหมดด้วยนะ) มันจึงน่าผิดหวัง เพราะโดยส่วนตัวมองว่าภาค 1-2 เนี่ยคือสองภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์และคงเพราะตัว James Cameron ลงมือกำกับเอง และพอมาภาคนี้เรายิ่งชื้นใจอีกที่เฮียแกก็ลงมาอำนวยการสร้างและเขียนบท แต่บทไร้สาระมาก แถสุดๆ หลายๆ อย่างโคตรไม่สมเหตุสมผล ไม่มีที่มาที่ไป คิดจะใส่อะไรก็ใส่ มีหลายๆ ฉากให้ความรู้สึกแบบ “WTF” “อะไรของมันวะ” “แบบนี้ก็ได้หรอวะ” โดยเฉพาะการมีอยู่ของหุ่น T-800 ใส่มาเพื่อ!? ถ้ามาแล้วแค่นี้คือไม่จำเป็นต้องมีก็ได้อะ คงจะหวังเรียกและขายแฟนเก่าๆ ของแฟรนไชส์นี้แหละ คือมันไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่การปรากฏตัวของมันแล้ว มันเลยกลายเป็นสิ่งที่โคตรน่าหงุดหงิดใจตลอดทั้งเรื่องที่มี T-800 สู้ให้มี Grace อย่างเดียวจบๆ ไป 

ในภาคนี้ได้นักแสดงตัวชูโรงสุดเก๋ากลับมา ทั้ง Linda Hamilton ในบท Sarah Connor ที่บอกเลยว่า ป้าแกแบก! ความบันเทิงหลายๆ อย่างก็มาจากป้าแกเนี่ยแหละ มีความเก๋าความเท่ ล้นเหลือจริงๆ ทางด้าน Arnold Schwarzenegger พูดไปแล้ว “ไม่ต้องมีก็ได้” จริงๆ มาทางด้าน Mackenzie Davis กับบท Grace ที่มาตอนแรกนี่เท่มาก หลังๆ ไปเริ่มเป็นภาระ+น่ารำคาญแทน ที่สำคัญโคตรขัดใจเงื่อนไขของไอ้ตัวละครนี้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ ไม่รู้จะเป็นแบบนั้นไปเพื่ออะไร แถมเหตุผลในการเป็นมนุษย์ดัดแปลงนี่โคตรจะไร้เหตุผลมาก ตามมาทางด้านตัวร้าย Rev-9 ที่รับบทโดย Gabriel Luna คือเฮียแกก็เท่นะ แต่โคตรขาดรังสีความน่ากลัว ความเป็นตัวร้าย อย่างที่ Robert Patrick ทำในภาค 2 เลย คือจริงๆ Gabriel แกไม่ต้องพูดสักคำยังจะดีซะกว่า คือมาอย่างโหด ไล่ฆ่าแบบหน้านิ่ง แต่มาเจรจาให้ถอยส่งตัวผู้หญิงมาคืออะไร!? ไร้สาระมาก ความโหดที่ผ่านๆ มา ไปไหนหมด!!! และตัวละครที่น่ารำคาญที่สุดในหนังเรื่องนี้ยกให้ Dani Ramos ที่รับบทโดย Natalia Reyes 

สรุปแล้ว Terminator Dark Fate เป็นหนังที่น่าผิดหวัง เพราะเราคาดหวังเอาไว้มากในเมื่อมันมาอยู่ในการดูแลของ James Cameron เลยนะเว้ย และทำออกมาให้มันเป็นแบบนี้เนี้ยนะ ความดีงามของภาค 1-2 ไปไหนหมด อย่างที่บอกไป เหมือนหนังรีไซเคิลจากภาค 2 นำมาเปลี่ยนตัวละครใหม่เท่านั้นแหละ เข้าไปเสพแอ็คชั่นอย่างเดียวก็พอได้อยู่แหละ