รีวิวหนัง John Wick: Chapter 3 - Parabellum - จอห์นวิค แรงกว่านรก 3

JOHN WICK: CHAPTER 3 - PARABELLUM

" การก้าวเข้าสู่ไตรภาคหนังแอ็กชั่นที่ดีที่สุด.. อย่างเต็มตัว "

130 min | Action/Thriller | Directed by Chad Stahelski

     หลังจากที่ John Wick ภาคแรก สร้างเซอร์ไพร์สด้วยการนำเสนอหนังแอ็คชั่นที่มีกลิ่นอายนีโอนัวร์ (อารมณ์แบบเมืองนีออน Blade Runner) ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ดุดัน มันส์ และน่าจดจำ จนได้ขยายเรื่องราวให้กว้างยิ่งขึ้นใน Chapter 2 แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบที่เป็นสเน่ห์ของหนังได้อย่างครบถ้วน ในภาคที่ 3 จะเป็นการเล่าต่อจากตอนจบภาคก่อนในแทบจะทันที เมื่อจอห์นได้ละเมิดกฎที่ร้ายแรงที่สุด ทำให้เค้าต้องถูกนักฆ่าทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวหลักสิบล้านเหรียญฯ โดยไร้ซึ่งหนทางและพรรคพวกที่เคยให้การช่วยเหลือ เค้าจึงต้องงัดทุกไพ่ตายที่เหลืออยู่ในมือออกมาใช้เพื่อหาทางรอดต่อไปให้ได้

     หลังจากดูจบ คือไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย เพราะยิ่งนับวัน หนังก็มีแต่จะเพิ่มความดิบเดือดที่มีมากยิ่งขึ้น ฉากแอ็คชั่นที่ภาคก่อนว่าแปลกใหม่ หวือหวา น่าจดจำแล้ว รอบนี้พี่แกยังหามิติใหม่ๆ ออกมาเสิร์ฟคนดูให้ได้ร้องว้าวกันอย่างต่อเนื่อง (แถมบวกความโหดปนหวาดเสียวกว่าภาคที่แล้วหลายเท่า) แล้วจัดเต็ม จัดหนักตั้งแต่ช่วงต้นเรื่องไปจนถึงจบเรื่องเลย แล้วคือหนังไม่ได้สักแต่จะเอามันส์อย่างเดียว แต่สเน่ห์ที่สำคัญก็คือความใส่ใจ ความพิถีพิถันในขั้นตอนการสร้างที่มันโคตรจะละเอียด ทั้งในส่วนของงานสร้าง งานภาพ การลำดับภาพ ลำดับเสียง ทุกอย่างดี ทำให้ในแง่มุมของความเป็นภาพยนตร์ หนังก็มีความดีงามภายในตัวของมัน ซึ่งนี่แหละน่าจะเป็นจุดสำคัญเลยที่ทำให้แฟรนไชส์นี้มันเติบโตมาถึงจุดนี้ได้ เพราะกลุ่มผู้ชมทั่วไปดูก็สนุก นักวิจารณ์ก็หลงไหลในความ cinematic ของหนัง โดยรวมมันจึงเป็นหนังที่ค่อนข้างลงตัว

     ข้อติเพียงข้อเดียวของหนังก็อาจจะเป็นในส่วนของความกลมกล่อมที่ในภาคนี้ดูจะดร็อปลงไปจาก Chapter 2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และก็อาจจะมีมุกตลกบางช่วงที่ดูมาผิดจังหวะไปหน่อย คือพอรู้สึกได้บ้างว่ามีจุดขัดๆ อยู่ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการรับชมมากมายนัก ยังไงหนังมันก็ยอดเยี่ยมอยู่ดี ดูสนุกอยู่ดี ใครที่ดู John Wick มาแล้วไม่มีเหตุผลให้ต้องพลาดเลยแม้แต่นิด หรือ แม้แต่ใครที่ไม่เคยดู นี่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องมาลองสัมผัสดูบ้างแล้ว ว่าความดุ ความเดือด ของจริง มันมีรสชาติแบบไหนกัน... 

John Wick Chapter 3 จุดชนวนล้มล้างสภาสูง

เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จากหนังที่มีพล๊อตธรรมดาอย่างโจรมาฆ่าหมารัก จนพระเอกต้องไปตามล้างแค้นให้กับแก๊งค์โจรที่ฆ่าหมา ลากยาวมาจนกลายเป็นหนังแอคชั่นพันธุ์เดือดเต็มขั้น ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก นับถือคนเขียนบทจริงๆ ที่สามารถต่อยอดจากอะไรที่ธรรมดามากจนจะกลายเป็นอีก 1 จักรวาลนักฆ่าไปแล้ว

เนื้อเรื่องภาคนี้ดำเนินต่อจากตอนจบภาคที่แล้วทันที่ เมื่อจอห์น วิคได้ทำการแหกกฏ ฆ่าคนในเขตของโรงแรม Continental ทำให้ถูกตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้าน เขามีเวลาเพียง 1 ชั่วโมงก่อนสัญญาค่าหัวเขาจะถูกกระจายออกไป ทำให้นักฆ่าทั่วโลกตามล่าเขา ตอนจบภาคก่อนที่เรียกได้ว่าทิ้งท้ายได้น่าติดตามต่อมากๆ ทำให้คนที่ได้ดูภาคนี้นั้นกระหายที่อยากจะรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ และมันจะไปจบลงที่ตรงไหน

ข้อดีของภาคนี้ที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็จะเป็นในเรื่องของการดีไซน์ฉากแอคชั่น การต่อสู้ ที่เรียกได้ว่าเผ็ด เดือด เลือดสาด หวาดเสียว ทำเอาแฟนๆใจหวิวๆ กันไปข้างนึงเลย เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของฉากการต่อสู้ที่หาเรืองไหนมีเทียบได้ยากจริงๆ นับเป็นจุดแข็งจุดเดียวของเรืองเลยก็ว่าได้ พูดถึงข้อดีไปแล้วก็ขอพูดถึงข้อด้อยในภาคนี้บ้าง 

ข้อด้อยของภาคนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องบท ซึ่งพอดูหนังจบแล้วมาย้อนมองภาพรวมแล้วนั้น เนื้อเรื่องเองแทบจะดำเนินไปไม่ถึงไหนเลย ปมเก่าปัญหาเก่าก็ยังไม่หมดไป แถมยังจะสร้างปมใหม่ ปัญหาใหม่ใส่ตัวเข้าซะอีก เรียกได้ว่าบทนั้นเมื่อเทียบกับภาคก่อน ยังเป็นรองอยู่มากจริงๆ อีกทั้งพอบทมันไม่ดีเท่าไหร่การเล่าเรื่องในบางช่วงของหนังมันจะออกไปในทางไม่เร่งเกินไป ก็ยืดเกินไปกับฉากต่อสู้ที่บางทีคนอาจจะเอียดในความเยอะและยืดเกินไปจนทำให้น่าเบื่อเอาได้ เปรียบเสมือนกินบุฟเฟ่ต์ที่อร่อยแต่กินเข้าไปเยอะๆ เข้ามันก็เอียนได้เหมือนกัน

สรุปแล้วถึงแม้ว่าบทจะไม่โอเค แต่ด้วยฉากต่อสู้ที่ถึงพริกถึงขิง ทำให้คนดูสามารถเอ็นจอยไปกับหนังและมองข้ามข้อด้อยดังกล่าวไปได้ในขณะที่รับชม ซึ่งไม่รู้ว่าเรื่องราวของจอห์นวิค จะไปจบที่ไหน เพราะเดิมทีวางแผนจะให้จบในภาคนี้ แต่ก็เปลี่ยนใจให้ไปต่อในภาคหน้าที่จะเข้าฉายปี 2021 ส่วนตัวผมเองนั้นถือได้ว่า John Wick 3 ภาคนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแถมยังดูสนุกให้ความบันเทิงสำหรับคอหนังแอคชั่นได้เต็มประสิทธิ์ภาพมาก 8/10

John Wick Chapter 3 - Parabellum

   กลับมาระห่ำอีกครั้งกับ John Wick3 และพิเศษกว่าภาคไหนๆ ที่มาพร้อมความมันส์ในระบบ IMAX2D ที่จะมาขยายจักรวาลโลกนักฆ่า ให้สะใจยิ่งขึ้น การรีวิวของผมจะรีวิวในระบบ IMAX ที่ได้ไปได้ดูมา บอกเลยเสียงปืนสะใจแบบสุดๆ และในรีวิวนี้ไม่มีสปอยนะครับ

   ไม่ผิดหวังจริงๆ กับภาคที่3 มันตั้งแต่วินาทีแรกยันวินาทีสุดท้าย หนังแทบไม่ปล่อยให้คนดูพักหายใจหายคอ จัดฉากยิง ฉากบู๊  มาแบบจัดเต็ม (คนออกแบบฉากเหล่านี้เก่งมาก ถึงแม้จะจัดมาแทบทั้งเรื่องแต่ฉากแอ๊คชั่นทำให้เราทึ่งทุกฉาก มันแทบไม่ซ้ำ ไม่จำเจ ไม่น่าเบื่อเลยในการดู John ยิง ฆ่า ไล่ฟัน ฯลฯ) ฉากการฆ่าก็มีเซอร์ไพรส์เหมือนภาคก่อนๆ ดูแล้วเอ้อ คนคิดก็คิดได้เนอะ (อันนี้ชมครับ 555)

   Keanu Reeves ยังเท่เหมือนเดิมถึงแม้พี่แกจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่ก็ยังเท่ ถึงแม้ฉากบู๊บางฉากจะดูเทอะทะไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้พี่แกดูเท่น้อยลง หรือความสนุกของหนังลดน้อยลงไป สำหรับนักแสดงใหม่อีกคนที่ชอบ คือตุลาการ ของสภาสูง ที่แสดงโดย Asia Kate Dillon แสดงได้เท่มากๆ ถึงแม้จะไม่ได้มีฉากแอ๊คชั่น แต่ด้วยมาดพี่แกเวลาออกมาทีไร มันมีพลังกดดันบางอย่างทำให้หนังดูตึงเครียดดี 

   พูดถึงจักรวาลนักฆ่าใน John Wick คือชอบมาก ชอบไอเดีย ชอบแนวคิด ตอนดูจบภาค2 ออกจากโรงต้องคิดในใจว่าเอ้อคิดได้ไง มาภาคสามนี้ จักรวาลนักฆ่า จะมีสภาสูงที่มาเกี่ยวข้องกับชีวิตของ John Wick และมาขยายจักรวาลให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้น ซึ่งมีหลายฉากที่ทำให้เข้าใจจักรวาลนี้มากขึ้นนะ 

   ส่วนในระบบ IMAX ถือว่าเป็นครั้งแรกของจักรวาล John Wick ที่เข้าระบบนี้ ถึงแม้จะเป็น 2D แต่บอกไว้ก่อนว่าเสียงในระบบจัดเต็มมาก เสียงปืนแน่นมาก ฉากฟัน ฉากบู๊แอ็คชั่น เสียงดีมาก ระทึกมาก โดยเฉพาะฉากที่ใช้ปืนลูกซอง เสียงปืนนี่พื้นในโรงหนังสั่นกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าคุ้มจริงๆครับ (ช่วงนี้ราคาตั๋ว IMAX แพงมากครับ ทุกทีเป็นคนดู IMAX ตลอดแต่ช่วงหลังๆ นี้ผมต้องพักๆ บ้างเพราะแพงจริงๆ ขนาดเรื่องนี้เป็น 2D ราคายังฟาดไปสี่ร้อยกว่าบาทที่พารากอน แต่คนใจรักก็ต้องไปดูครับ ยังไงก็คุ้มนะ)

   สรุป ดีงามมาก แนะนำให้ไปดูสุดๆ คนที่มีงบเยอะหน่อยก็สามารถไปจัด IMAX ได้เลย สำหรับคนที่ไม่เคยดูมาสักภาค ก็ดูได้นะครับ รู้เรื่อง(ฉากแอ็คชั่นจัดเต็มมาก) แต่จะมีนิดหน่อยที่อาจจะไม่เข้าใจ ถ้าให้ดีแนะนำดูสองภาคไปก่อนครับ จะสนุกขึ้นมากครับ 

  ปล.ใจจริงอยากให้จบแบบไตรภาค มันน่าจะสมบูรณ์ เหมือน Matrix ที่พี่คีอานู รีฟแสดงไว้และเป็นตำนานจนถึงวันนี้ แต่เหมือนตอนนี้เค้าวางแผนสร้างภาค4 แล้วครับ ก็ต้องรอดูกันต่อไป 

JOHN WICK CHAPTURE 3

มาดูด้วยความเป็นแฟน JOHN WICK เลย และอยากมาดูว่าจะหมดมุกหรือยัง เฮียจอห์นไหวไหม ซึ่งทุกอย่างช่างสุดยอดเหมือนเดิม ที่พีคก็พีคขึ้นไปอีก มุกใหม่มากมาย เฮียจอห์นโหดขึ้น ฆ่ายับ เอะอะส่องลำตัวส่องหัวสอยร่วงคนแทบจะหมดนิวยอร์กแล้ว

วิธีการฆ่าก็ครีเอทขึ้น หากยังจำภาคหนึ่งได้ เฮียแกฆ่าคนโดยใช้ดินสอมาแล้ว ภาคนี้ครีเอทกว่าเพราะใช้หนังสือฆ่าคนจ้า ฆ่าโหดมาก จัดหนักมาก ภาคที่แล้วขับรถมาสแตงก์ว่าเท่แล้วหล่อแล้ว ภาคนี้ขี่ม้าจ้าาาาา เฮียเท่สุดๆ ไปเลยยยย!!!!!!!!! ขี่ม้ายิงปืน ถือดาบซามูไรแกว่งไกวอย่างบู้เลย นอกจากนี้ภาคนี้ยังเปิดเผยให้เห็นจักรวาลของวงการนักฆ่ามากขึ้น หลังจากสองภาคที่แล้วเราจะรู้จักโรงแรมคอนติเนลทัล กับสภานักฆ่า หน่วยงานสื่อสารข่าวกรองและหน่วยงานทะเบียน ไปบ้างแล้ว ภาคนี้จะทำให้เรารู้จักวงการนี้มากขึ้นไปอีก มีตัวละครสำคัญโผล่ขึ้นมามากมายเหมือนปูทางไปเพื่อภาคต่อๆ ไป...

ด้านงานสร้างก็ไม่ตกมาตรฐานเดิม ฉากยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้ภาคอื่นๆ งานอาร์ตจัดจ้านเหมือนเดิม เต็มไปด้วยแสงสีฉูดฉาด งานเลเซอร์ งานรูปปั้นโบราณๆ ผสมกับงานตกแต่งภายในล้ำสมัยในสไตล์จอห์นวิคเหมือนเดิม งานเพลงก็โดดเด่นเร้าใจ ใช้เพลงคลาสสิคบรรเลงตอนฉากยิงกันอย่างเร้าใจและเท่มากๆ เพลงธีมก็ยังคงบ่งบอกถึงสไตล์หนังได้อย่างเฉียบขาดเร้าใจเหมือนเดิม เสริมอารมณ์ให้อะดรีนาลีนแทบพุ่งตามความเร้าใจตื่นเต้นของหนังได้เป็นอย่างดี 

เร้าใจ โหดขึ้น ไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับ  JOHN WICK CHAPTURE 

- เด็กเดินตั๋ว -

[รีวิว] John Wick: Chapter 3 - Parabellum
--- 8.5/10 ---
หนังแอ็คชั่นแห่งปี!
แอ็คชั่นโคตรเดือด อย่างดุ ยัดมาแบบจัดเต็ม สะใจ ดูแล้วเหนื่อยแทน
แต่แลดูดร๊อปจากภาค 2 ไปหน่อยในด้านเนื้อเรื่อง

และแล้วก็เดินทางมาถึงภาค 3 ใครจะไปคิดว่าการฆ่าหมา ขโมยรถ เหตุการณ์มันจะบานปลายมาถึงเพียงนี้ ใน John Wick 3 จะดำเนินเรื่องต่อจากภาค 2 หลังจากที่ John Wick ได้ไปฆ่าคนในโรงแรม Continental ทำให้ถูกตั้งค่าหัวพร้อมกับโดน “อัปเปหิ” ไล่ล่าฆ่าจากนักฆ่าทั่วทั้งโลก

ในภาค 2 เราได้เห็นการขยายความโลกขององค์กรนักฆ่ามากขึ้น แต่ในภาค 3 นี้ หนังจะเน้นไปที่ฉากแอ็คชั่น แอ็คชั่น และแอ็คชั่น คือเกือบทุกๆ 2-3 นาที คุณจะได้เห็นการต่อสู้แน่นอนอะ และในการต่อสู้แต่ละครั้งไม่ใช่มาแปบๆ แต่มาทีแบบจัดเต็มมาก คือเฮีย John Wick แทบไม่มีเวลาได้พักหายใจ ต้องบู๊แทบจะตลอดเวลา ได้ยินเสียงปืนมากกว่าเสียงพูดว่างั้นเหอะ! ชอบในความที่ตัว John Wick ไม่ใช่เทพระดับพระกาฬเหนือมนุษย์อะไรขนาดนั้น แต่มันยังคงความเป็นมนุษย์ สภาพสะบักสะบอม มีหอบ มีเหนื่อย มีพัก บาดแผล จนเรารู้สึกอยากเอาใจช่วย

ฉากแอ็คชั่นในภาคนี้ต้องบอกว่าดีไซน์ออกมาได้ดีมาก ทั้งความสวยงามของฉาก แสง สี ที่มีความจัดจ้าน ทั้งความมันส์ในฉากบู๊ คือมันทั้งสวยงาม และเมามันส์ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ตอนเปิดเรื่องนี่ชอบที่สุดในหนังและ ทั้งโหด ดิบ เถื่อน แต่พอมาการต่อสู้ช่วงหลังๆ รู้สึกว่ามันนานมาก นานเกินไปจริงๆ ไม่ได้ชวนว้าว สะใจเหมือนครึ่งแรกแล้ว จากมันส์ๆ กลายเป็นคิดว่าเมื่อไหร่มันจะสู้กันเสร็จฟะ ตอนหลังๆ มันเหมือนเกมส์ไปซะแล้ว เพราะหนังจะให้ตัว John Wick ค่อยๆ สู้กับลูกน้องไปทีละคนสองคนและไปเจอ Boss อะไรทำนองนั้น ซึ่งมันดูธรรมดามากเหมือนหมดมุกยังไงยังงั้น 

ในด้านการแสดงของ Keanu Reeves ไม่ต้องพูดถึงเลย คนติดภาพ John Wick ของเขาไปซะแล้ว เขาแสดงได้ดีจริงๆ ดูแล้วรู้เลยว่าทุ่มเทมาก (และเหนื่อยมากจริงๆ) ทางด้านของ Halle Berry ในบท Sofia ต้องบอกว่าเธอเล่นคิวบู๊ได้ไม่เลวเลย อาจจะไม่ดูแพรวพราวหรือหวือหวาเท่ากับ Keanu Reeves แต่ก็ดูได้เพลินตาเหมือนกัน น่าเสียดายที่การต่อสู้ร่วมกับหมาของเธอไม่ค่อยดูว้าวสักเท่าไหร่ มันไม่มีอะไรนอกจากปล่อยหมาไปกัดเท่านั้นเอง 

ทางด้านเนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจมาก ไม่ค่อยเปิดเผยอะไรเพิ่มเติมจากภาค 2 เท่าไหร่นัก คือจากภาค 2 มา การได้รับรู้โลกขององค์กรนักฆ่ามันดูว้าวมาก แต่ภาคนี้ไม่มีอะไรเลย แค่มาตามไล่ล่า John Wick มีบางอย่างมาให้น่าสนใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เล่าไรเพิ่มเติม แถมหลายๆ ฉาก ยังถูกบทถ่ายทอดออกมาให้ยืดเยื้อเกินความจำเป็น แถมการกระทำของ John Wick บางอย่างก็ดูไม่สมเหตุสมผล และไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไมเหมือนกัน คือหนังอาจจะพยายามทำให้มันยาวขึ้นเพราะไม่งั้นมันจะกลายเป็นหนังแอ็คชั่นที่ไม่มีบทอะไรเลย หนังผูกประเด็นไว้เยอะเช่นกัน รวมถึงเปิดเรื่องให้สร้างภาคต่ออีกด้วย และด้วยความที่ภาคนี้เป็นหนังแอ็คชั่นจ๋าเลยก็ว่าได้ มันจึงมีมุกตลกร้ายหลายๆ อย่างในฉากบู๊ ที่เรียกเสียงหัวเราะและเสียงฮาได้ดี แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนตัวคิดว่ามันเยอะไปสักหน่อย ซึ่งขัดอารมณ์จากภาคก่อนๆ พอสมควร 

สรุปแล้ว John Wick: Chapter 3 - Parabellum ถูกใจคอหนังสายบู๊แน่ๆ เพราะคุณจะเต็มอิ่มและเมามันส์ไปกับฉากแอ็คชั่นตลอดทั้งเรื่องแน่นอน ถ้าถามโดยส่วนตัวแล้วเราใน 3 ภาค เราชอบภาค 2 ที่สุดนะ มันดูลงตัวที่สุดแล้ว ทั้งด้านบทและฉากแอ็คชั่น มันดูกลมกล่อมมากกว่า ถึงแม้ภาค 3 นี้จะยังจบไม่ลง และคงจะดำเนินไปอีก เราก็ยังคงอยากดูอยู่ดีว่าบทสรุปของ “การฆ่าหมา” มันจะลงเอยยังไง