หนัง Fast And Furious Hobbs and Shaw หรือชื่อไทยว่า เร็ว แรงทะลุนรกฮ็อบส์ แอนด์ ชอว์ นับตั้งแต่ที่ ฮ็อบส์ เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายเจ้าของร่างล่ำบึ้ก (จอห์นสัน) ผู้จงรักภักดีต่อองค์กรหน่วยรักษาความปลอดภัยทางการทูตแห่งอเมริกาและชอว์ (สเตแธม) ชายนอกกฎหมาย อดีตเจ้าหน้าที่ทหารชั้นสูงของอังกฤษ ได้เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกใน Fast & Furious 7 ในปี 2015 ทั้งคู่ก็ได้ปะทะกันทั้งด้วยคารมและหมัดด้วยความมุ่งหมายที่จะโค่นอีกฝ่ายให้ได้ แต่เมื่อบริกซ์ตัน (ไอดริส เอลบา) ผู้ชื่นชอบในลัทธิอนาธิปไตย และได้รับการปรับแต่งทางพันธุกรรมให้มีความสามารถสูงขึ้น และมีอำนาจควบคุมภัยคุกคามร้ายกาจทางชีวะที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของมนุษยชาติไปตลอดกาล และมีชัยเหนือเจ้าหน้าที่เอ็มไอซิกส์ผู้ชาญฉลาดและปราศจากความกลัว (วาเนสซา เคอร์บี้จาก The Crown) ผู้บังเอิญเป็นน้องสาวของชอว์ ศัตรูคู่อาฆาตทั้งสองคนนี้ จึงจำเป็นต้องจับมือกันเพื่อโค่นล้มคนเพียงคนเดียวที่อาจจะร้ายกาจยิ่งกว่าพวกเขา Hobbs & Shaw เป็นการกระแทกเปิดประตูใหม่สู่จักรวาล Fast เมื่อแอ็กชั่นของมันพุ่งทะยานไปทั่วโลก จากลอสแองเจลิสสู่ลอนดอน และจากเมืองร้างที่เต็มไปด้วยสารพิษอย่างเชอร์โนบิล สู่ความงามที่เขียวชอุ่มของซามัว
A spinoff of The Fate of the Furious, focusing on Johnson's US Diplomatic Security Agent Luke Hobbs forming an unlikely alliance with Statham's Deckard Shaw.
ผู้ชมทั้งหมด
52,640 ครั้ง
|
เข้าฉาย
31 กรกฎาคม 2562
|
ออกโรงแล้ว |
6 สิงหาคม 2562 16:51:42 (IP 180.183.244.xxx)
|
||
[รีวิว] Fast and Furious: Hobbs And Shaw Hobbs And Shaw ถือว่าเป็นหนังหนึ่งในตระกูล Fast and Furious ที่ไม่รู้ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากกรณีบาดหมางกันของ The Rock กับ Vin Diesel หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ สองตัวละครนี้ขายได้แน่นอน จริงๆ มันเริ่มเห็นแววมาตั้งแต่ใน Fast 8 แล้วแหละ และมันคงเป็นอะไรที่สนุกดี ถ้าได้เห็นสองคนนี้มากัดกัน พร้อมฟัดศัตรูไปทั้งคู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการโคจรกลับมาพบกันของ Luke Hobbs และ Deckard Shaw ที่ต้องร่วมมือกันปกป้องไวรัสที่น้องของ Shaw อย่าง Hattie ได้ฉีดเข้าไปในตัวเอง ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว Brixton ที่ถูกวิวัฒนาการณ์จนมีพลังเหนือมนุษย์! ซึ่งในภาคนี้ ถือว่าเป็นภาคที่ให้อารมณ์ต่างจากภาคอื่นๆ ในแฟรนไชส์ของ Fast and Furious พอสมควร จริงๆ ก็เป็นการเปิดจักรวาลใหม่นั่นแหละ เพราะภาคนี้กลายเป็นหนังแอ็คชั่น โจรกรรมไปแล้ว ที่มีพล็อตและการดำเนินเรื่องที่เช๊ยเชย เดาทางง่ายไปซะหมด ความสนุกของมันอยู่ตรงที่คู่นักแสดงนำระหว่าง Hobbs กับ Shaw นี่แหละ เป็นจุดที่ชอบที่สุดละ กัดกันตลอดทั้งเรื่อง บทสนทนาฮาๆ ทั้งนั้น เป็นเหมือนเครื่องสร้างความบันเทิงชั้นดี (แต่บางฉากก็พล่ามเยอะไปก็ชวนหาวเหมือนกัน) ตามมาด้วยฉากแอ็คชั่นเนืองๆ ตลอดทั้งเรื่อง ที่ดูสนุกเพลิดเพลินใช้ได้ แต่ไม่ได้ดีและไม่เหมือนอย่างที่ผู้กำกับเคยทำมาในเรื่องก่อนๆ เลย เช่น John Wick, Deadpool 1-2, Atomic Blonde ดูดร๊อปลงไปพอสมควร โดยเฉพาะฉากท้ายๆ ที่น่าจะเป็นฉากที่มันส์ที่สุด พีคที่สุด แต่กลับกลายเป็นน่าเบื่อที่สุดซะงั้น รวมไปถึงตัวละครอย่าง Brixton รับบทโดย Idris Elba ที่ดูดีตอนต้นแต่แผ่วปลายยังไงชอบกล แต่ที่สำคัญ Hattie ที่รับบทโดย Vanessa Kirby คือสวยมว๊ากกกกกกก เสน่ห์ล้นสุดๆ ด้วยความที่เป็นหนังในจักรวาล Fast and Furious ก็ยังใส่ฉากขับรถไล่ล่าสุดมันเข้ามาให้ได้เชยชมอย่างพอหอมปากหอมคอด้วยนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยกเครดิตหลายๆ อย่างให้เพลงประกอบ เพราะเพลงประกอบในเรื่องนี้คือดีงามมาก มันช่วยทำให้หนังแต่ละฉากดูดีขึ้น เท่ขึ้น มันขึ้น อีกกว่า 50% เลยทีเดียว! สรุปแล้ว Hobbs And Shaw ก็เป็นหนังแอ็คชั่นที่ได้อารมณ์แปลกใหม่จากแฟรนไชส์ Fast and Furious พอควร และเหมือนเปิดเส้นทางให้เล่าเรื่องใหม่ได้อีก ถ้าใครไปดูมันก็ยังคงมีความสนุก ดูได้เพลินๆ แหละ แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ ปล. มีการ Cameo ของสองนักแสดงที่เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
6
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
7
|
||
31 กรกฎาคม 2562 21:16:13 (IP 184.22.103.xxx)
|
||
FAST & FURIOUS: HOBBS & SHAW " สองโล้นซ่า บ้าหลุดโลก (ไปแล้วววว) " 140 min | Action/Adventure | Directed by David Leitch Hobbs & Shaw หรือเป็น Fast 8.5 ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Luke Hobbs และ Deckard Shaw ที่ก่อนหน้านี้เจอกันทีไรร่างกายต้องมีปะทะ ฝีปากต้องมีประลองกันตลอด ต้องออกปฏิบัติภารกิจบางอย่างร่วมกัน เนื่องจากมีชายลึกลับนามว่า Brixton มนุษย์ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมให้กลายเป็นยอดมนุษย์ แข็งแกร่ง รวดเร็ว อึดอย่างกับ (Black) Superman ซึ่งเขากำลังตามไล่ล่า Hattie น้องสาวของ Deckard ที่ไปช่วงชิงของบางอย่างจาก Brixton มา ซึ่งของชิ้นนั้นคืออาวุธที่พร้อมจะทำลายโลกนี้ภายในไม่กี่อึดใจ ทำให้ 2 โล้นซ่าต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือน้องสาวและช่วยเหลือโลกใบนี้ไว้ให้ได้ !! ก่อนหน้านี้แอบดูหมิ่นไว้ประมาณนึงว่าแบบ โห จะเวอร์ไปได้ขนาดไหนมีซุปเปอร์ฮิวแมนแล้ว แต่พอมาดูเออก็โม้แหละ แต่เหตุผลรองรับอะไรต่างๆ มันก็แบบพอจะถูๆ ไถๆ ไปได้อยู่เหมือนกัน คือต้องยอมรับว่าพอ David Leitch แกขยับขึ้นมาจับหนังที่มีสเกลใหญ่ระดับ Big Blockbluster แล้วแกก็ใส่เต็ม เล่นใหญ่ จัดหนักจนถ้าเรายอมรับความโม้โคตรๆ ของหนังได้ (ที่เชื่อว่าถ้าเราผ่าน Fast 7-8 มาได้ก็รับได้ไม่ยากอยู่แล้ว) ตัวหนังถือว่าทำออกมาได้โคตรสนุกเลย คือเคมีคู่นี้มันก็มีความจิกกัดกันมาตั้งแต่ในเส้นเรื่องหลักอยู่แล้ว และคิดว่าหลายคนก็คงชอบตรงจุดนี้ เรื่องนี้เลยเหมือนดูคู่นี้กันแบบเต็มๆ แถมนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ก็ดูน่าสนใจอยู่แล้ว พอดูจบแล้วเลยรู้สึกชอบมากกกกก แต่ที่ต้องพูดถึงคือแม้ว่าจะยังอยู่ในตระกูล Fast แต่โทนหนังของเรื่องนี้แอบจะโดดมาจากแฟรนไชส์ซักหน่อย ซึ่งก็ถือว่าแปลกใหม่ดี มันทำให้หนังตระกูลนี้มีรสชาติใหม่ๆ บ้าง (ยิ่งไหนๆ จะเลิกแข่งรถแล้วมาแอ็กชั่นเต็มๆ แบบนี้ก็ยาวไปเลย) และไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับ Cameo ที่ออกมาเซอร์ไพรส์ในเรื่องที่ต้องบอกว่าโคตรขโมยซีน แล้วออกมาขโมยบ่อยจนเกือบจะขโมยหนังไปได้ทั้งเรื่องเลย ตรงจุดนี้คิดว่าใครที่ไปดูก็น่าจะชอบทั้งนั้น โดยรวมแล้ว Hobbs & Shaw คือหนังแอ็กชั่นที่โคตรเวอร์ แต่โคตรสนุก คือหนังมันทำมาเพื่อความมันส์ ความบันเทิงเต็มๆ อยู่แล้ว แถมเรื่องนี้ตัวเรื่องราวก็ดูมีเบาะแสที่น่าสนใจด้วย บทไม่กลวง ใครที่เป็นแฟนหนัง Fast ยิ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แนะนำให้ดูในระบบ IMAX เสียงรถ เสียงปืน เสียงโฟเล่มันแน่นหูจัดเต็มสุดๆ ห้ามพลาดเลยครับ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
8
|
||
31 กรกฎาคม 2562 16:24:48 (IP 171.101.213.xxx)
|
||
Fast & Furious Hobbs & Shaw ปฐมบทก่อนปิดไตรภาคสุดท้าย แฟรนไชส์เร็วแรงทะลุนรก เนื้อเรื่องในภาคนี้ ก็ดำเนินต่อจาก Fast 8 เลยก็ว่าได้ เรื่องเริ่มต้นด้วย MI6 ได้ทำภาระกิจชิง หัวเชื้อโรคสายพันธ์ใหม่ แต่แล้วก็โดนดักชิงโดย Brixton วายร้ายคนใหม่ทำให้ สายลับสาว MI6 อย่าง Hattie ต้องยอมสละชีวิตตัวเองฉีดไวรัสชนิดใหม่เข้าตัว เพื่อไม่ให้ใครเอาไปใช้ และเพื่อให้หลบหนีไปกบดานได้ง่ายๆ จนแล้วจนรอด รัฐบาลก็ต้องฟอร์มทีมขึ้นมาโดยดึง Hobbs และ Shaw มาทำภาระกิจช่วยเหลือ Hattie และหาทางดึงเอาไวรัสออกจากตัวเธอและส่งคืนให้รัฐบาลให้จงได้ เอาเข้าจริง เนื้อเรื่องแทบจะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่มีสิ่งนึงที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจคงหนีไม่พ้นพล๊อต และบทพูดที่ทั้งตัวละคร Hobbs และ Shaw ต้องจิกกัดกันไปมา ความไม่ลงรอยของทั้งคู่ทำให้เกิดฉากฮาๆออกมาหลายฉาก แถมท้ายตัว Cameo สุดเซอร์ไพร์ของตัวละครที่ไม่คิดว่าจะโผล่ในภาคนี้ รวมไปถึงฉากแอคชั่นที่ ยูเครน อันนี้คือมันส์จริง เวอร์จริง และเป็นฉากขี่รถของตัวร้ายที่เท่ห์โคตร เลยก็ว่าได้ อีกทั้งเป็นภาคที่พร้อมที่จะปูเรื่องสู่ Last Boss ของจักรวาล Fast ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายต่างๆนับตั้งแต่ Fast 4 เป็นต้นมา พร้อมที่จะไปบรรจบใน Fast 10 ที่ทางค่ายหมายมั่นไว้ว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของจักรวาลนี้ สรุปแล้วถึงแม้ว่าในเรื่องนี้ความเข้มข้นและกลมกล่อมอาจจะยังสู้ภาคหลักไม่ได้ แต่ใช่ว่าจะไม่สนุกซะทีเดียว แถมท้ายด้วยฉากช่วงเครดิต ที่เรียกได้ว่ามีเพียบ หนังจบแล้วอย่ารีบลุกไปไหน อยู่ดูกันยาวๆไปจนเครดิตขึ้นหมดให้เลย 8/10 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ