รีวิวหนัง Eternals - ฮีโร่พลังเทพเจ้า

[รีวิว] Eternals - ฮีโร่พลังเทพเจ้า
--- 6.8/10 ---
แนวทางใหม่ที่ยังคงสไตล์ Marvel
CG อลังกาล แอ็คชันน้อยแต่เท่
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่สามารถซื้อใจให้อินกับตัวละครได้เหมือนเฟสเก่า

Eternals หนังเรื่องใหม่ล่าสุดของจักรวาล MCU ที่มีความน่าสนใจตั้งแต่เปิดตัว ทั้งทีมนักแสดง ไม่ว่าจะเป็น Richard Madden, Salma Hayek, Kit Harington, Kumail Nanjiani, Ma Dong-seok, Lauren Ridloff, Barry Keoghan, Gemma Chan และขุ่นแม่ Angelina Jolie อีกทั้งยังได้ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง

Chloé Zhao มานั่งแท่นผู้กำกับและเขียนบทด้วย นั่นคือวัตถุดิบที่โคตรรวมความน่าดู

แต่พอหนังเข้าฉายมันกลับมีกระแสแง่ลบ ได้มะเขือเน่าจาก Rotten Tomatoes ขึ้น ๆ ลง ๆ จนนะตอนนี้ก็น่าจะการันตีมะเขือเน่าไปแล้วจากฝั่งนักวิจารณ์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือคนดูกลับชอบ คะแนนสูงถึง 81% เลยทีเดียว

Eternals เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึง Arishem ผู้คุมจักรวาลที่ได้สร้างเหล่า Eternals มายังโลกมาทำภารกิจปกป้องเหล่ามนุษย์จากเหล่า Deviants และเฝ้าคอยดูวิวัฒนาการณ์ของมนุษย์ แต่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความบาดหมางของมนุษย์กันเอง พอถึงจุดนึงที่พวกเขาคิดว่าปราบ Deviants หมดไปจากโลก เหล่า Eternals ก็ได้แยกกันไปใช้ชีวิต รอวันเรียกกลับดาว แต่แล้ว Deviants ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้พวกเขาต้องกลับมารวมทีมในรอบหลายพันปีเพื่อปราบปรามพวกมัน

จริง ๆ หนังเรื่องนี้ก็ยังคงความเป็น Marvel อยู่ มันคือสูตรสำเร็จเลย เพียงแต่กลิ่น รสชาติ แนวทาง วิธีการมันอาจจะแตกต่างไปจากเรื่องอื่นสักหน่อย ตัวหนังมันจะค่อย ๆ เนือย ๆ เล่าเรื่อง ปูปูมหลังตัวละคร ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะมันจะทำให้คนดูรู้จักและเห็นแต่ละตัวละครเหล่านั้นมากขึ้น แต่ด้วยความที่ตัวละครมันเยอะไง มันเลยกินเวลาส่วนนี้เยอะและทำออกมาได้ค่อนข้างน่าเบื่อสักหน่อย ถ้ามันกระชับกว่านี้น่าจะดีมาก แต่ก็ทำไม่ได้หรอก เพราะเหตุผลว่าตัวละครมันเยอะนั่นแหละ แต่ก็ไอ้ความที่ตัวละครมันเยอะและใช้เวลากับมันเยอะ มันก็ทำให้คนดูจดจำสกิล ความสามารถต่าง ๆ ของตัวละครได้อย่างไม่ยากเย็น และหนังก็แบ่งบทตัวละครได้ดีพอสมควร ได้มีพื้นที่ให้แต่ละคนโชว์ทักษะความสามารถกันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่ามีซีนเท่ ๆ เฉพาะตัวให้พูดถึงกันทุกคนเลย ยังมีแต่อีก เพราะบางตัวละครก็โดนตัดบทไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ก็น่าแปลก ถึงปูเรื่องราวตัวละครเยอะขนาดนั้น แต่ละตัวละครมันดูไม่ค่อยมีเสน่ห์ยังไงก็ไม่รู้ มันเท่นะ ทั้ง Madden หรือคุณแม่ Jolie แต่มันยังทำให้เราอินหรือหลงรักตัวละครเหล่านั้นเท่ากับตัวอื่น ๆ ในเฟสที่ผ่านมาของ Marvel ไม่ได้เลย

หนังยังมีปมหรือปัญหาเยอะแยะไปหมด เรื่องราวความรัก, ความขัดแย้ง, Deviants, Arishem หรือการขัดอารมณ์ในซีนต่าง ๆ บางทีก็น่าหงุดหงิด เรียกได้ว่าค่อนข้างสะเปะสะปะ มีอะไรก็ยัดมาซะจนล้นเกิน 2 ชั่วโมง แต่ไอ้ฉาก Last Boss ท้ายเรื่องเราไม่ชอบเลยสักนิด มันหาทางลงทางออกง่ายไปไหมนั่น

ฉากแอ็คชันในหนังเรื่องนี้จัดว่าทำได้ดีทุกฉากเลย มันการโชว์เท่ของแต่ละตัว หรือฉากสู้กันในตอนจบก็ทำได้ยอดเยี่ยม CG ที่ยังคงความคุณภาพไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ

สรุปแล้ว นี่ก็ยังคงเป็นหนังสไตล์ Marvel ที่เล่าเรื่องแนวทางใหม่ แต่เหมือนจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ การเจาะลึกตัวละคร ดราม่าความขัดแย้งต่าง ๆ หากมันออกมาเป็นซีรีส์หรือหนังที่ยาวมีเวลามากกว่านี้ มันอาจจะออกมาดูดีกว่านี้ก็ได้ มันก็ไม่ได้แย่จนอยากปามะเขือเน่าเหมือนนักวิจารณ์ หากใครเป็นแฟน Marvel ก็คงต้องติดตาม หากใครเบื่อหนังฮีโร่วิธีการเล่าแบบเก่า ๆ ก็อาจจะชอบเรื่องนี้ก็เป็นได้ น่าเสียดายที่ตัวละครซื้อใจเราไม่ได้อยู่ดี

ปล. ฉาก Mid-Credit และ Post-Credit นับว่าน่าสนใจทั้งคู่ มีความกระตุ้นต่อมอยากรู้ว่าในอนาคต MCU จะเดินไปในทิศทางไหน

Marvel Studio's Eternals ฮีโร่ที่ฉีกแนวการเล่าเรื่องที่สุดของ MCU
นับตั้งแต่ปิดฉาก Inifity Saga ไปใน Avengers Endgame และเริ่ม Phase 4 เป็นต้นมา มาร์เวลมีความกล้าที่จะลองอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องของ วันด้า แมคซีมอร์ฟเป็นซีรีส์โทนซิทคอมย้อนยุค หรือการเปิดประเด็นหายนะระดับ Mutiverse ผ่านตัวร้ายขวัญใจแฟน ๆ ใน Loki การเปิดศักราชใหม่ด้วยฮีโร่ชาวเอเชียคนแรกใน Shang-Chi ตอนนี้ถึงเวลาที่เหล่าฮีโร่รุ่นแรกในจักรวาล MCU ถึงคราวเลิกเป็นไทเฉย ออกมาปกป้องโลกจากหายนะระดับจักรวาลซักที

เรื่องราวในเรื่องนี้ ว่าด้วยกลุ่มเอเลี่ยนนักสู้ผู้มีพลังวิเศษจากดาวโอลิมปัส ได้ถูกบัญชาการให้มาปกป้องโลกจากเหล่าเดเวียนส์สัตว์ประหลาดที่ออกมาฆ่าล้างบางมนุษย์ตั้งแต่บรรพกาล แต่ก็โดนสั่งห้ามไม่ให้แทรกแทรงใด ๆ ต่อสงคราม หรือกิจกรรมที่มนุษย์เป็นคนก่อ เหล่าอีเทอร์นอล ได้ตามปราบเหล่าเดเวียสจนหมดสิ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งใหม่จากบอสใหญ่อย่าง อริเชน แล้วเวลาล่วงเลยมากว่า 7000 ปี จู่ ๆ เดเวียนส์ก็กลับมาอีกครั้งทำให้อีเทอร์นอลต้องรวมพลเพื่อปกป้องมนุษย์โลกและรับรู้ความจริงที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเค้าไปตลอดกาล

จะว่ายังไงดีหลังดูจบครั้งแรก ยอมรับว่าด้วยความที่เรื่องนี้มีการแทบจะปูพื้นฐานตัวละคนใหม่ทั้งหมดเลย แต่มีเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 3 ชั่วโมงในการเล่า เรียบเรียงเพื่อนำพาคนดูให้อินไปกับตัวละคร ทำให้ฉากแอคชั่นที่หนัง MCU ทุกเรื่องแทบจะจัดหนักจัดเต็ม ในเรื่องนี้มีมาอย่างน้อยนิด และเต็มไปด้วยฉากคุยเยอะมาก เพื่อเป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง 10 ตัวละครหลักที่เป็นอีเทอร์นอล ซึ่งถ้าจะมองว่าเดินเรื่องช้า หรือเหนื่อยไป อันนี้ก็ว่าไม่ได้ เพราะตัวหนังเองก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ถ้าลองมองลึก ๆ ดูแล้ว ว่าทำไมผู้กำกับรางวัลออสการ์อย่าง โคลอี้ เจา ถึงได้เลือกที่จะถ่ายทอดหนังออกมาในสไตล์การเล่าเรื่องยาว ๆ เนือย ๆ แบบนี้ ก็เพราะว่าเธอต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละครที่เรียกได้ว่าแทบจะใหม่ทั้งหมด ไม่เคยมีคนรู้ภูมิหลังใด ๆ ในหนัง MCU เรื่องก่อน ๆ ซึ่งถ้าไม่มีการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละคร อาจจะส่งผลเสียกับ Point สำคัญท้ายเรื่อง หรือจุดพลิกผัน ที่ทำให้แต่ละตัวละครตัดสินใจทำในสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองเลือกจะทำ และก็ยอมรับจริง ๆ ว่าการที่มีการเล่าปูพื้นฐานตัวละครทำให้ฉากการต่อสู้ช่วงท้ายของเรื่อง มีความ Impact และทัชใจตัวผมเองเอามาก ๆ กลับกันถ้าตัวหนังไม่ให้ความสำคัญกับการปูแบคกราวตัวละครแบบนี้ องค์ที่สามของเรื่อง มันไม่น่าที่จะทำงานกับคนดูได้มากเท่านี้ ซึ่งเป็นการเสี่ยงมากจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เสียงแตกมากหลังชม คือถ้าไม่ชอบไปเลยก็จะยี้จะเกลียดไปเลย ด้วยความที่หนังมันฉีกแนวการเดินเรื่องจากหนัง MCU ทั้ง 25 เรื่องก่อนหน้าเอามาก ๆ 

โดยรวมแล้วสำหรับผม Eternals ถือเป็นแนวทางใหม่ที่มาร์เวล บ้า และกล้าที่จะฉีกแนวจากแนวทางเดิมๆของตัวเอง สร้างสรรค์หนังฮีโร่แนวใหม่ของค่ายตัวเอง ด้วยความที่มันค่อนข้างจะแปลก ๆ จนทำให้คนดูที่เป็นแฟนมาร์เวลาอาจจะหลงเป็นปลาช็อคน้ำไปบ้าง แต่หนังเองก็ไม่ได้แย่อย่างที่นักวิจารณ์หลายสำนักพยายามจะกดคะแนนกันสุด ๆ ถ้าจะให้เทียบง่าย ๆ เลย ถ้าคุณชอบดูหนังแนว ๆ Blade Runner 2049 / Dune  คุณจะชอบสไตล์การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณเน้นอยากเห็นฉากแอคชั่นเยอะ ๆ จัดหนักทุก ๆ 5 นาที เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์ของคุณซักเท่าไหร่ แต่สำหรับผมแล้ว ผมค่อนข้างชอบและคิดว่าคงไปดูในโรงซ้ำอีกแน่นอน 8/10