หนัง Happy Old Year เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งต้องการจะรีโนเวทบ้าน และโละของที่ไม่จำเป็นทิ้ง แต่เมื่อเธอเจอของบางอย่างที่เป็นของแฟนเก่าเธอ เธอจึงพบว่าการจะทิ้งอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถึงแม้มันจะไม่มีประโยชน์ แต่มันมีเรื่องราวให้นึกถึง เธอต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับของแฟนเก่าดี ถึงจะเป็นการทิ้งที่สมบูรณ์ที่สุด
ผู้ชมทั้งหมด
26,606 ครั้ง
|
เข้าฉาย
26 ธันวาคม 2562
|
ออกโรงแล้ว |
25 มกราคม 2563 16:07:36 (IP 223.24.170.xxx)
|
||
กลางๆ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
6.9
|
||
3 มกราคม 2563 12:53:31 (IP 180.183.244.xxx)
|
||
[รีวิว] ฮาวทูทิ้ง...ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ต้องบอกตั้งแต่ย่อหน้าแรกเลยว่า จริงๆ แล้วเราไม่ค่อยอินและไม่ค่อยชอบผลงานของพี่เต๋อสักเท่าไหร่ ไล่ตั้งแต่ที่รู้จักใน Mary is happy, Mary is happy จนมาถึงผลงานสุดท้ายของเต๋อที่เราได้ดูคือ ฟรีแลนซ์ เราก็ยังเฉยๆ กับผลงานเหล่านั้นอยู่ดี คิดไปคิดมาเราอาจแค่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเขาแหละ และพอหนังเรื่อง ฮาวทูทิ้งเข้า ก็น่าสนใจ (เอาจริงๆ เพราะนักแสดง ตัวน้องออกแบบเนี่ยแหละที่ทำให้เราอยากไปดู 555) และหลังดูจบกลายเป็นว่า เรื่อง ฮาวทูทิ้ง คือผลงานของพี่เต๋อที่เราโอเคกว่าเรื่องอื่นๆ แหะ ฮาวทูทิ้ง เป็นเรื่องราวของสาวคนหนึ่ง ที่อยากจะจัดบ้านสไตล์ Minimal แต่ต้องขัดแย้งกับผู้เป็นแม่ รวมถึงจัดไปจัดมายังเจอของของแฟนเก่าอีก จะทิ้งไปก็รู้สึก เธอจึงต้องตัดสินใจว่า จะทำอย่างไรถึงจะเป็นการทิ้งที่สมบูรณ์แบบที่สุด เราขอพูดถึงเรื่องแรกก่อนเลยคือเรื่องอัตราส่วนภาพ ที่เรื่องนี้จะเป็น 3:2 คือเอาจริงๆ เราอยากเห็นขนาดกว้างๆ มากกว่า แต่เข้าใจสิ่งที่ทำแบบนี้นะ เข้าใจว่าหนังต้องการสื่อ เข้าใจว่าต้องการวางเฟรมแบบนี้ให้สัมพันธ์กับตัวละคร กับความรกๆ พื้นที่จำกัดในบ้านของเต็มไปหมดอะไรทำนองนี้ มันเลยกลายเป็นผลดี การจัดวางเฟรมในการถ่ายทำต่างๆ เรียกได้ว่าสวยจริงๆ หนังเรื่องนี้เราว่าถ่ายทำดีมาก เริ่มตั้งแต่การเคลื่อนกล้อง ที่ไม่ได้พยายามหวือหวาเล่นใหญ่ เปลี่ยนฉากง่ายๆ แต่เนียนตา มุมกล้องที่ถูกคิดและออกแบบมาเป็นอย่างดี การทิ้งเฟรม องค์ประกอบภาพ ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มาถึงจุดที่เราชอบมากๆ เลยคือประเด็นหลักของเรื่องเกี่ยวกับการ “ทิ้ง” เนี่ยแหละ มันมีทั้งประเด็นเรื่องการทิ้งของจัดบ้านใหม่ ประเด็นครอบครัว ประเด็นความรัก คือประเด็นแต่ละอย่างที่หนังเล่าเราว่ามัน “ชัด” มาก ชัดจนหลายๆ ฉากเราคิดในใจบ่อยมากว่า “เออจริงว่ะ” และซีนอารมณ์ช่วงท้ายๆ เรื่องเราว่าทำออกมาได้ดีเลยแหละ หนังมีการดำเนินเรื่องแบบเนิบๆ เรื่อยๆ จะเรียกว่าช้าก็ไม่ผิดเลยแหละ หนังค่อยๆ slow burn ให้เราสัมผัสกับความรู้สึกต่างๆ ของตัวละครไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนให้เรารู้สึกสัมผัสกับของสิ่งหนึ่ง (ฉากนั้น) ก่อนที่จะทิ้งไป (เปลี่ยนฉาก) ซึ่งมันก็ดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน บางทีก็รู้สึกว่าแช่นานไปเกินความจำเป็น ดนตรีประกอบในเรื่องนี้ทำได้ดีเกินคาด ลงตัว เข้ากัน จังหวะแม่นมาก คือเทียบกับเรื่องสุดท้ายของพี่เต๋อที่เราดูคือ ฟรีแลนซ์ คนละเรื่องเลย เรื่องนั้นนี้เงียบกริ๊บ เรื่องนี้ดนตรีประกอบโอเคมากๆ เอาจริงๆ เรื่องนี้ดนตรีประกอบเยอะจริงๆ แต่โอเคหมดเลย ไม่ขัดสักฉาก ทางด้านนักแสดง เราว่า ออกแบบ-ชุติมณฑน์ เธอคือนักแสดงที่เก่งคนนึงเลยแหละ แสดงดีมากๆ เอาอยู่จริงๆ คือเราต้องเห็นตัวเธอทั้งเรื่อง และเธอเอาอยู่ ไม่ว่าจะซีนไหนๆ รวมถึงซีนอารมณ์เธอก็สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติจริงๆ แถมด้วยการถ่ายทำมุมกล้องสวยๆ รับกับหน้าเก๋ๆ ของน้องออกแบบสุดๆ แคปมาเป็นซีนสวยๆ ได้เลยอะ และที่เรารู้สึกว่าแสดงดีมากๆ อีกคน แบบ มาน้อยแต่มากสุดๆ คือบทแม่ ของ คุณอาภาศิริ โหยยย เล่นดีมาก ดีแบบดีโคตรๆ ออกมาแต่ละฉากคือขนลุก แสดงดีเกิ๊น แต่ทางด้านซันนี่นั้น จริงๆ เราว่าเขาเป็นนักแสดงมีความสามารถนะ แต่ในเรื่องนี้เอาจริงๆ เขาไม่ค่อยได้โชว์ความสามารถในการแสดงออกมาได้เท่าไหร่เลย บทจะนิ่งๆ ยืนพูดๆ ไม่ได้มีซีนอารมณ์อะไรสักเท่าไหร่ โอเคแหละมันหลุดจากคาแรคเตอร์ที่เขาเป็น แต่มันก็เฉยๆ อยู่ดี บทของษริกา ยังได้โชว์ความสามารถมากกว่า แถมยังมีซีนอารมณ์ให้ได้ดูด้วย มาถึงสิ่งที่เราไม่ชอบบ้าง คือทุกอย่างในเรื่องมันดูสโลโมชั่นหมดเลย แล้วตัวละครแต่ละตัวดูเหมือนคนป่วย- - ทั้งการพูดการจา การแต่งหน้าต่างๆ บวกกับเกรดดิ้งสีออกมาแบบนั้นด้วย มันก็สวยนะ แต่พอรวมๆ กันแล้วเหมือนตัวละครทุกตัวกำลังป่วยยังไงไม่รู้ 555 คำพูดบางฉาก บางคำพูดเหมือนเอาบทยัดใส่ปากตัวละครยังไงไม่รู้ ประมาณว่าเป็นปกติคนเค้าไม่พูดอะไรกันแบบนั้นอะ มันเหมือนพวกคำคมใน FB หรือใน Twitter หรือไม่ก็จงใจให้คนจำไปโพสต์ในแห่งนั้นแหละ เดาว่าต้องมีบ้างแหละ “..... - ฮาวทูทิ้ง” อะไรทำนองนี้ 555 มันก็คมแหละ แต่มันแค่รู้สึกขัดๆ อะ แต่ถึงประเด็นหลักมันจะชัดเจนแค่ไหน มันยังมีบางเรื่องที่ยังคลุมเครือและยังไม่ชัดเจน เช่นประเด็นของแม่ ประเด็นของพ่อ ประเด็นเรื่องบ้าน ประเด็นเรื่องของ (พิมพ์มากไม่ได้เดี๋ยวสปอยล์) สรุปแล้ว ฮาวทูทิ้ง...ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เป็นหนังของพี่เต๋อที่เราโอเคที่สุดและ ภาพสวย น้องออกแบบแสดงดี ประเด็นหลักเล่าชัดเจนมาก ทัชสุดๆ ดูจริงและเข้าถึง แถมหลายๆ เหตุการณ์เราอาจจะเคยเจอบ้าง และรู้สึกกับมันไม่ต่างจากในหนังเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของการ move on มันก็ไม่ได้แบบหน่วงหรือจุกอะไรขนาดนั้น จริงๆ ดูแล้วรู้สึกอยากลุกมาจัดบ้านมากกว่า สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
7.9
|
||
26 ธันวาคม 2562 00:56:24 (IP 184.22.103.xxx)
|
||
ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ " เมื่อสิ่งของเป็นภาชนะกักเก็บความทรงจำรูปแบบหนึ่ง! " 115 min | Drama | Directed by Nawapol Thamrongrattanarit เรื่องราวของ จีน หญิงสาวคนหนึ่งที่มีแนวคิดต้องการรีโนเวทบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอล โล่งๆ สะอาดๆ แต่บ้านเดิมๆ ของเธอกลับเต็มไปด้วยสิ่งของมากมายที่ถูกเก็บสะสมมาตั้งแต่ยังเด็ก ภารกิจการเคลียบ้านครั้งใหญ่จึงเริ่มต้นขึ้น แต่มันก็ไม่ง่ายเลยเมื่อสิ่งของแต่ละชิ้นล้วนเคยมีเจ้าของ มีเรื่องราว และความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับมัน หนังสุดยอดมาก มันคือการยกระดับอีกขั้นจาก ฟรีแลนซ์ ที่คราวนี้เรื่องราวมันดูมินิมอลขึ้น หยิบจับและสัมผัสกับหนังได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้แมสขึ้นนะ หนังยังคงมีความเป็นเต๋อ นวพล อย่างเต็มที่ แต่ไอเดียการสำรวจตัวเองของตัวละครในเรื่องกับธีมการจัดบ้านนี่เป็นอะไรที่น่าสนใจและถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม การดีไซน์ การเซ็ตไดอะล็อก ท่าทางตัวละครเป็นอะไรที่เราสามารถเห็นได้จากหนังพี่เต๋ออยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าลายเซ็นตรงนี้จะเป็นกำแพงมากั้นผู้ชมทั่วไป อย่างที่บอกไปครับ เราอินกับมันได้ง่ายมาก การแสดงของนักแสดงในเรื่องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทุกคนถ่ายทอดอารมณ์อะไรหลายๆ ที่หนังต้องการจะสื่อได้เต็ม 100% อย่างถ้าใครได้ดูตัวอย่างคงได้เห็นซีนที่ ออกแบบ ทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ร้องไห้เสียใจในเวลาเดียวกัน เราได้เห็นความยอดเยี่ยมแบบนั้นตลอดทั้งเรื่อง ออกแบบทำได้ดีมากจริงๆครับ ต่อยอดจากฉลาดเกมโกงได้สุดมาก แต่ที่เกินคาดคือพี่ซันนี่ มาไม่เยอะแต่อิมแพ็คกับหนังเลย ไหนจะตัวละครสมทบอีก มันดูไม่ค่อยเยอะแต่ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีมากจริงๆ นี่อาจเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่เข้าขั้นว่า ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องนึงในปีนี้เลยก็ว่าได้ หากคุณเป็นคนที่อยู่ในช่วงปรับเปลี่ยน โหยหาอดีต หรือกำลังจะมูฟออนจากจุดไหนจุดนึง เรื่องนี้มันคงเหมือนลูกศรยิงมาปักกลางอก กลางหัวเลย เจ็บจี๊ด โดนจี๊ดๆ แน่นอน สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
9.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
8.8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ