หนัง Fast And Furious 9 หรือชื่อไทยว่า เร็ว..แรงทะลุนรก 9 ดอม โทเร็ตโต ซึ่งรับบทโดย วิน ดีเซล ปลีกตัวออกไปใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับเล็ตตี้และไบรอันลูกชายตัวน้อย แต่พวกเขารู้ว่าแม้จะอยู่ในดินแดนสงบสุข ก็ยังมีอันตรายอยู่ คราวนี้ ดอมต้องเผชิญหน้ากับตราบาปในอดีตของเขา หากเขาต้องการจะปกป้องชีวิตของคนที่เขารักมากที่สุด ทีมนักซิ่งของเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อหยุดการทำลายล้างโลกโดยนักฆ่าและนักซิ่งฝีมือฉกาจซึ่งเขาคือเจคอบ น้องชายของดอม (จอห์น ซีนา จาก The Suicide Squad) จัสติน ลิน ผู้กำกับจากภาค 3, 4, 5 และ 6 ที่นำแฟรนไชส์ไปสู่การเป็นภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ กลับมากำกับ Fast & Furious 9 ในภาคนี้ แอ็คชั่นจะขยายไปทั่วโลก จากลอนดอนสู่โตเกียว จากอเมริกากลางสู่เอดินเบอระ จากหลุมหลบภัยลับในอาเซอร์ไบจาน สู่ถนนในทบิลิซี เพื่อนเก่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ศัตรูเก่าก็กลับมา ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยและความหมายที่แท้จริงของครอบครัวจะถูกทดสอบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นักแสดงที่กลับมาในภาคนี้ประกอบด้วยมิเชลล์ รอดดริเกซ, ไทริส กิ๊บสัน, คริส “ลูดาคริส” บริดเจส, จอร์ดานา บริวสเตอร์, นาตาลี เอมมานูเอล, ซง คัง, สองนักแสดงรางวัลออสการ์ เฮเลน มิร์เรน และชาร์ลิซ เธอรอน นอกจากนี้ ยังได้คาร์ดี บี ซุปเปอร์สตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่ มารับบท เลซ่า หญิงสาวผู้มีอดีตเชื่อมโยงกับดอม และโอซูนา ก็มาเป็นนักแสดงรับเชิญในภาคนี้ด้วย Fast & Furious 9 อำนวยการสร้างโดย นีล เอช.มอริทซ์, วิน ดีเซล, เจฟฟ์ เคอร์เชนบอม, โจ รอธ, จัสติน ลิน, เคลย์ตัน ทาวน์เซนต์, ซาแมนธา วินเซนต์
ผู้ชมทั้งหมด
48,858 ครั้ง
|
เข้าฉาย
21 ตุลาคม 2564
|
ออกโรงแล้ว |
24 ตุลาคม 2564 01:44:00 (IP 184.22.227.xxx)
|
||
[รีวิว] Fast and Furious 9: The Fast Saga ภาคนี้เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึง Dom ที่ได้ออกไปใช้ชีวิตกับลูก และ Letty แต่ความสงบก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อ Mr. Nobody ได้ขอความช่วยเหลือ เขาจึงต้องรวมทีมเพื่อไปออกไปปฏิบัติภารกิจกู้โลกในครั้งนี้ แต่ศัตรูที่เขาเผชิญคือคนในครอบครัว Jakob น้องชายคนสุดท้องของตระกูล Toretto ที่มีเรื่องบาดหมางกันตั้งแต่ในอดีต ไม่น่าเชื่อว่าหนังรถแข่ง ตำรวจแฝงตัวไปจับแก๊งซิ่ง จะเดินทางกลายมาเป็นหนังกู้โลกสุดเวอร์วังได้ และในภาค 9 นี้ยกระดับความเวอร์เข้าไปอีกครั้ง เวอร์แบบไม่บันยะบันยัง เวอร์ชิบหาย หลาย ๆ ฉากดูไปก็ต้องอุทานในใจว่า เชี้* แบบนี้ก็ได้หรอวะ Fast 9 รู้ตัวว่าคนดูติดตามเพราะอะไรและต้องการอะไร แนวทางการเล่าเรื่องมันเหมือนเดิมเลย ก็เพราะไอ้ความเวอร์ และเน้นขายแอ็คชันเนี่ยแหละ หนังยังคงจัดเต็มความเป็นหนังแอ็คชันรวมทีมกู้โลก ที่มีครบทั้งความมันและความฮา ที่ถ้าถามว่าสนุกไหม มันก็สนุกตามสไตล์หนัง Fast นั่นแหละ แต่มันก็ยังคงความน่าเบื่อตามสไตล์หนัง Fast กับพาร์ทดราม่า ที่จุดหักมันอ่อน มันเบา มันน่าเบื่อแหละ โคตรจะไม่อินเลย ต้องบอกว่าไม่เคยอินกับพาร์ทดราม่าของแฟรนไชส์นี้เลย (ยกเว้นของ Paul Walker นะ) หนึ่งสิ่งที่หลายคนคงจะอยากรู้และเฝ้ารอคำตอบจากในภาคนี้คือ "ทำไม Han ยังไม่ตาย" และเหตุผลในการหาเรื่องให้ Han กลับมาในภาคนี้มันก็ดู...จับยัดสุด ๆ ราวกับว่าแค่อยากเอากลับมาเพราะเซอร์วิสแฟน ๆ เท่านั้น เหมือนเรื่องราวมันถูกเขียนมาแค่ในภาคนี้แหละ ยังมีสิ่งที่น่าเสียดายและรู้สึกจับยัดไม่แพ้กันคือบทตัวละคร Jakob น้องของ Dom ที่รับบทโดย John Cena เนี่ยแหละ เราไม่ค่อยได้เห็นเขาปล่อยของอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้รับรู้ถึงความเก่งอะไรเลย และฉากปะทะกันกับ Dom น้อยมาก ถ้าเทียบกันกับ Dwayne Johnson แล้วนั้นถือว่าน้อยมากจริง ๆ ในทุกด้าน สรุปแล้ว ถอดสมอง ใครจะมาหาความสมเหตุสมผลในแฟรนไชส์นี้เลิกหวังไปเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ในจักราลนี้ ถ้าภาคสุดท้ายมันจะแถให้เหล่าพระเอกเป็นซูเปอร์ฮีโร่ หรือมันจะเดินทางไปดาวอื่น ย้อนเวลา หรือมีไคจูโผล่มา ก็ไม่แปลกใจอะไรเท่าไหร่ละ ถึงแม้มันจะไร้สาระ เลอะเทอะ เวอร์วังแค่ไหน แต่มันทำให้อยากดูต่อว่าไอ้จักรวาลนี้มันจะสิ้นสุดและไปได้ไกลแค่ไหนกันฟะ ปล. เรื่องน่าหงุดหงิดนอกเนื้อเรื่องหนังคือ ทำไมต้องโดนเก็บเพิ่มค่าตั๋ว 20 บาทนะ รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบยังไงก็ไม่รู้ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
5
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
6
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ