รีวิวหนัง Halloween Kills - ฮาโลวีนสังหาร

Halloween Kills ทุกอย่างที่สร้างสมมา พังพินาศในหนังภาคเดียว
ไมเคิล เมเออร์ ถือเป็นไอคอนของหนังเชือดยุค 80-90 คนนึงที่มีภาคต่อออกมามากมาย แต่ภาคหลัง ๆ ก็เรียกได้ว่าออกทะเลไปไกลโค จนทำให้ความนิยมของตัวละครนี้ในยุคหลัง ๆ ได้เสื่อมหายไปตามกาลเวลา จนกระทั่งได้มีการหยิบเอากลับมาทำเป็นภาคต่อ (จากภาคต้นฉบับ) เมื่อปี 2018 ในเชื่อ Halloween ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งในด้านรายได้และคะแนนรีวิว ทำให้การปลุกผีฆ่าตกร ไมเคิล เมเออร์ กลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้ง จนมาปีนี้ ภาคต่อของหนังปี 2018 ก็ได้กลับมาในชื่อ Halloween Kills

เรื่องราวในภาคนี้แทบจะต่อเนื่องจากหนังปี 2018 ที่ไมเคิล เมเออร์ได้ติดกับดักของ ลอรี่ สโตรด ในชั้นใต้ดินที่ออกแบบมาเพื่อขังและแก้แค้นที่ไมเคิลเคยทำกับลอรี่ บ้านหลังนั้นกำลังถูกไฟไหม้ แล้วนักดับเพลิงก็ได้เข้ามาดับไฟและได้เผลอทำไมเคิล หลุดออกมาไล่ฆ่าคนอีกมากมาย ในคืนฮาโลวีนนั้น ทุกคนในเมืองก็ได้ลุกฮือออกตามล่าเพื่อประหาร ไมเคิลให้ตายตกไปตามกัน ด้วยความเคียดแค้น

หลังดูจบต้องบอกเลยจริง ๆ ว่า ตัวหนังแทบจะเป็นคนละม้วนกับหนังภาคก่อน ทั้งวิธีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเน้นการปูเรื่องย้อนเวลาไปในหนังภาคต้นฉบับซะเยอะ และใส่ตัวละคนยิบย่อยจากหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับมามากมายแบบยัดเยียดบทมาก และเอามาใช้ได้ไร้ประโยชน์ที่สุด รวมไปถึงการตัดสินใจในการกระทำต่าง ๆ ในเรื่องของตัวละครหลักจากภาคก่อน ที่ภาคนี้ทำตัวเหมือนคนไร้สติ ไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไรให้รอบคอบ ซึ่งผลจากการตัดสินใจที่หุนหันหลันแล่น ทำให้พบกับหายนะ และนำพาภัยมาสู่ตัวเอง และคนรอบข้าง เรียกง่าย ๆ ว่าตัวละครในภาคนี้ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลัก หรือตัวประกอบนั้นใส่มาเพื่อเอามาเป็นเหยื่อให้ ไมเคิลมาฆ่าทิ้งไปแบบง่าย ๆ โดยเฉพาะองค์สุดท้ายของหนัง ที่เรียกได้ว่าปลุกปั้นให้ไมเคิลแทบจะกลายเป็น X-เม็น หรือคนที่มีพลังเหนือมนุษย์ไปแล้ว เพราะต่อให้เจอรุม 11 ต่อ 1 พี่แกก็ยังรอดอยู่ดี ถ้าภาคหน้าเขียนบทให้ตัวละครนี้เคยทำสัญญากับปีศาจ จนทำให้มีความอึดเกินมนุษย์ หรือเคยฉีดเซรุ่มเพิ่มพลังเหนือมนุษย์นี่ก็พร้อมจะเชื่อแล้ว ทำให้เสน่ห์และความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ที่ทำได้ในภาคก่อนหน้า มาภาคนี้หายหมดสิ้น และจากที่เคยจะลุ้นให้ตัวละครรอดจากการตามฆ่าของไมเคิล กลายเป็นเชียร์ให้ไมเคิลไล่ฆ่าไปให้จบ ๆ ซะทุกคนเลย ด้วยความโง่นี้

สรุปว่าแม้ว่าภาคก่อนหน้าจะทำออกมาดีเพียงใด แต่ด้วยความที่ค่ายหนังต้องการทำเป็นหนังไตรภาค ซึ่งยังเหลือภาคหน้าอีกภาคนึง ทำให้หนังในภาคล่าสุดนี้ เหมือนเป็นแค่โฆษณาคั่นเวลา ที่ไม่ได้เน้นที่ตัวบทที่น่าติดตาม แต่เต็มไปด้วยความพังพินาศของตัวละครในเรื่อง ไม่ได้ชวนเอาใจช่วยแต่อย่างใด และน่าผิดหวังมาก 5/10

[รีวิว] Halloween Kills - ฮาโลวีนสังหาร
--- 3.5/10 ---
พยายามเล่นท่ายากสร้างมิติให้บท แต่ออกมาโคตรน่าเบื่อ น่าผิดหวังมาก
ความดีงามภาคก่อนถูกพังทลายลงทุกอย่าง
แม้กระทั่งตัว Michael Myers เอง

นี่คือภาคต่อจากหนังภาคต่อฉบับรีบูท Halloween ในปี 2018 ที่เปิดตัวได้โคตรดูดี กลิ่นอายความยอดเยี่ยมของต้นฉบับ ความสนุก ระทึก ตื่นเต้น ทำได้ดีมาก พอมาภาคนี้เลยทำให้น่าติดตามว่าหนังจะเดินไปในทางไหน จะดูดีเท่ามั้ย แต่ผลปรากฏว่าภาคนี้น่าผิดหวังสุด ๆ 

ตัวหนังมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องรู้เรื่องราวต้นฉบับในปี 1978 และต้องดูภาคปี 2018 มาด้วย เพราะภาคนี้จะอิงเรื่องราวในภาค 1978 ช่งงรอยต่อก่อนจะมีภาค 2018 ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น และก็จำเป็นที่ต้องดู 2018 เพื่อประติดประต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นหากไม่เคยดูก็คงจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะหนังมีการกล่าวถึงและบอกเล่าให้คนดูได้รับรู้ด้วย แต่ถ้าดูมาก่อนจะอินและเข้าใจมากขึ้น

ปัญหาของภาคนี้คือมันพยายามเล่นยากจนเกินไป จากที่เป็นหนังไล่ล่าหนีเอาชีวิตรอดดี ๆ อยู่และ แต่หนังยังพยายามใส่ความมีมนุษยธรรม ความแบบเป็นคนดี ทำให้คนทั้งเมืองบ้า คลั่ง เป็นปีศาจเพราะผลจาก Michael อะไรทำนองนั้น

ที่สำคัญไอ้ความดีงาม การไล่ล่า ไล่ฆ่าของ Michael ในภาคแรกที่ดูน่ากลัว น่าเกรงขาม ภาคนี้ทำไม่ถึงเลย ฉากฆ่าอาจจะเยอะดูโหดก็จริง แต่มันดูไม่น่ากลัวไม่น่าเกรงขามแล้ว มันดูชัดเจน โจ่งแจ้งเกินไป ยิ่งมีฉากแบบ Michael บู๊กับคนเยอะ ๆ มันยิ่งดูแปลก แทนที่มันจะดูโหด มันกลับดูโคตรแปลกอย่างบอกไม่ถูก

ทางด้านนักแสดงนี่เล่นเกินเบอร์ทุกคนมาก แอ็คติ้งดูโคตรล้น แต่ละฉากเล่นใหญ่มาก ยังกะแสดงละครเวที ทุกคน ทุกตัวละคร ไม่ว่าจะตัวหลัก ตัวสมทบ ตัวประกอบล้นทุกตัว ส่วนนักแสดงนำอย่าง Jamie Lee Curtis ในบท Laurie Strode ภาคนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย เอาเธอมาแสดงทำไม มีออกมานิดเดียว และที่สำคัญเล่นล้นไม่ต่างจากนักแสดงคนอื่นเลย

สรุป มันกลายเป็นภาคที่น่าเบื่อมาก มันดูเลอะเทอะ เละเทะ เข้าใจว่าอยากทำให้แตกต่างจากภาคต่อ Halloween อันอื่น แต่บางทีไม่ต้องเล่นท่ายากอะไรขนาดนั้นก็ได้ แค่แฟน ๆ เห็น Michael มาไล่ล่า Laurie และฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าก็น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้มันทำให้กังวลเลยว่าภาคต่ออย่าง Halloween Ends จะออกมาเป็นยังไง