รีวิวหนัง อีเรียมซิ่ง - E Riam Sing

อีเรียม+ซิง+วิ่ง = อีเรียมซิ่ง

เป็นหนังไทยม้ามืดเรื่องแรกหลัง ล็อคดาวน์ โควิด-19 เลยก็ว่าได้ ใครจะไปคิดว่าหนังตลกแบบไร้สาระแบบเรื่องนี้ จะกลายเป็นหนังทำเงินเกิน 100 ล้านเรื่องแรกของปี 2020 ที่กระแสปากต่อปากทำงานมาก โดยเฉพาะต่างจังหวัดยังคงแรงอย่างต่อเนื่องติดๆกันจนตอนนี้เตรียมมุ่งสู่ 150 ล้านบาทแล้ว

เรื่องราวว่าด้วย หนองน้ำกร่อย มีสองสาวพี่น้อง ที่นิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง คนพี่ชื่ออีแรม มีนิสัยเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ กับน้องสาวที่ชื่ออีเรียม ผู้มีความแก่น ความโก๊ะ มุทะลุ ขี้อิจฉาพี่สาวเป็นอย่างมาก อยู่มาวันนึ่งได้มีโจรมาที่หมู่บ้าน เพื่อตามหาอีเรียม เพื่อเอาไปเป็นเมีย แต่แล้วก็ไม่เจออีเรียม เลยได้จับเอาแม่และพี่สาวไปเป็นตัวประกัน อีเรียมต้องเอาตัวเองไปแลกกับครอบครัวก่อนฝนแรกจะมาถึงไม่งั้นพวกโจรจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว อีเรียมจึงต้องฟอร์มทีมเพื่อไปพาตัวแม่ น้องและน้า กลับมาให้ได้

เอาเข้าจริงแล้วพล๊อตหนังของเรื่องนี้ก็แทบไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือโดดเด่นแต่อย่างใด แต่ที่ทำให้คนดูบันเทิงคือความไรสาระของมุขต่างๆ ที่นักแสดงแต่ละตนส่งไปมา โบ๊ะบะกัน ตลอดทั้งเรื่องจริงๆ ยิ่งเป็นฉากที่ไร้สาระเท่าไหร่ เรื่องนี้ทำออกมาได้เรียกได้ว่า ฮาน้ำตาเล็ดเลยก็ว่าได้ แต่พอตัวหนังปรับเข้าโหมดจริงจัง กลับเปลี่ยนฟิลหนังให้น่าดูเฉยๆ ซ้ำซากน่าเบื่อหน่ายเอาไม่น่อย (แต่ยังดีที่พาร์ทนี้มีไม่เคยเยอะ จึงไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อตัวหนังทั้งหมดเท่าไหร่) และแถมท้ายด้วยCameo ตัวละครลับช่วงท้ายที่ทำเอาคนดูวี๊ดดดด กันทั้งโรงจริงๆ ถือว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ช่วยให้คนไทยได้หายเครียดได้ในช่วงนี้ 7.5/10

อีเรียมซิ่ง E-Riam Sing

" ความฮาเซอร์เรียลที่ย่อยง่าย เหมาะกับการผ่อนคลายเป็นที่สุด "

108 min | Adventure/Comedy | Directed by Prueksa Amaruji

     เรื่องราวของ อีเรียม หญิงสาวสุดห้าวผิดยุคผิดสมัย ที่มีพี่สาวชื่อแรม มีนิสัยเรียบร้อย เป็นแม่ศรีเรือนตรงข้ามกับเรียมแทบทุกอย่าง แต่แม้ว่าจะห้าวหรือกระโดกกระเดกแค่ไหนแต่เรียมก็อยากจะออกเรือนไม่แพ้กับหญิงคนอื่นทำให้เกิดความรู้สึกอิจฉาในใจ แต่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อเรียมถูกตามล่าโดยกองโจร ทำให้สาวแกร่งสุดรั่วคนนี้ต้องออกซิ่งพร้อมกับก๊วนลุงสุดป่วน

     ต้องบอกตามตรงว่าหากคุณหาความซับซ้อน ความสมจริงอะไรก็ตามกับหนังเรื่องนี้มันจะไม่ตอบโจทย์คุณแน่ แต่นั่นไม่ใช่คำติหรืออะไรเพราะผมมองว่าฟอร์มหนังตั้งใจเขียนมายั่วล้อกับความเป็นหนังพีเรียดแค่กึ่งเดียวแล้วเน้นสอดแทรกความฮาโบ๊ะบ๊ะจากเสน่ห์ของดาราและตัวละครที่เขียนมามากกว่า ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าคุณเห็นดาราที่มาร่วมแสดงอย่าง น้าค่อม พี่เบิร์ต พี่บอล พี่โอ๊ต แพท ก็อาจจะพอเดาเคมีได้อยู่แล้วและหากคุณชอบพวกเขาผมแนะนำให้ไปชมเพราะคุณจะสนุก ตลกและมีความสุขไปกับพวกเขาได้สบายแน่นอนเพราะเขาเขียนตัวละครมาได้ตอบโจทย์ความตลกเบาสมองย่อยง่ายที่ดูไปจะอมยิ้มตามไป (แถมทำให้หายคิดถึงพี่เบิร์ตด้วย)

     ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้มาถูกช่วงเวลาและทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างครบถ้วนมาก เพราะแม้ว่าผมจะเส้นลึกมากแต่ก็ต้องยอมรับว่าความเซอของหนัง เคมีของตัวละครมันก็ทำให้เราได้ยิ้มอยู่ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปสุดทางของ เบลล่า ที่เล่นลืมบทบาทนางเอกของตัวเองไปอย่างน่าตกใจ แถมมันยังไม่ได้ดูฝืนเท่าไหร่ เพราะพื้นฐานของตัวละครมีความอิงมาจากบุพเพอยู่แค่บวกความปั่น ฮาเพิ่มอีก 2-3 เท่า น่ารักดีและเป็นตัวช่วยเปิดใจผู้ชมให้เพลินไปกับหนังได้เรื่อยๆ

     โดยรวมแล้วอาจจะไม่ได้ถึงกับชอบมากก แต่ยอมรับเลยว่าเอนจอยกับความน่ารักความซื่อของหนังไปเรื่อยๆ ได้จนจบเหมือนกัน แถมอย่างที่บอกไปหนังมีแผล มีอะไรเยอะแยะที่อาจจะติดขัดนิดหน่อยแต่พอเรามองข้ามผ่านไปด้วยความเข้าใจว่าหนังจะมาแนวปั่นขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนจะชอบ สนุกได้ไม่ยากเพราะหนังทำมาพร้อมเข้าถึงทุกคนได้ง่ายจริงๆ ครับ