หนัง Avatar The Way of Water หรือชื่อไทยว่า อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ ผ่านไปกว่า 10 ปี จากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก “อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ” เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวของครอบครัวซัลลี่ (เจค เนย์ทีรี่ และลูก ๆ ของพวกเขา) และปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ ทั้งการพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องสมาชิกในครอบครัว การต่อสู้เอาชีวิตรอด และโศกนาฏกรรมที่พวกเขาต้องพบเจอ กำกับโดยเจมส์ คาเมรอน แสดงโดย แซม เวิร์ธธิงตัน โซอี ซัลดานา ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ สตีเฟน แลง คลิฟ เคอร์ติส โจเอล เดวิด มัวร์ ซีซีเอส พาวเดอร์ เอดี้ ฟอลโก เจไมน์ คลีเมนท์ จิโอวานนี่ ริบิซี่ และ เคท วิทสเล็ท บทภาพยนตร์โดยเจมส์ คาเมรอน ริค แจฟฟา และ อแมนด้า ซิลเวอร์ เรื่องโดย เจมส์ คาเมรอน ริค แจฟฟา อแมนด้า ซิลเวอร์ จอร์จ ฟรีดแมน และ เชน ซาเลอร์โน่ อำนวยการสร้างโดย เจมส์ คาเมรอน และ จอห์น แลนเดา ร่วมด้วย เดวิด วัลเดส และ ริชาร์ด เบนแฮม ในฐานะผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 14 ธันวาคม 2565
Jake Sully lives with his newfound family formed on the planet of Pandora. Once a familiar threat returns to finish what was previously started, Jake must work with Neytiri and the army of the Na'vi race to protect their planet.
ผู้ชมทั้งหมด
51,057 ครั้ง
|
เข้าฉาย
14 ธันวาคม 2565
|
ออกโรงแล้ว |
15 ธันวาคม 2565 13:59:40 (IP 49.49.255.xxx)
|
||
[รีวิว] AVATAR: THE WAY OF WATER - อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ นับตั้งแต่ปี 2009 ได้ถือกำเนิดหนังเรื่องนึงที่มากไปด้วย CG อลังกาลงานสร้าง ผลงานการกำกับของ James Cameron ที่พาเราไปรู้จักโลกสุดอัศจรรย์ในนาม Pandora จนกลายมาเป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในโลก บัดนี้ผ่านมา 13 ปี ภาคต่อในนาม Avatar: The Way of Water ก็ได้คลอดออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน ที่สำคัญมันถูกวางแผนสร้างเอาไว้ถึงภาค 5 เลยทีเดียว แถมยังมีข่าวว่าจะได้เห็นชาวนาวีไปเยือนโลกอีกต่างหาก Avatar: The Way of Water เล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรก โดยมีความจำเป็นต้องดูภาคแรกมาก่อนมาก ๆ ถึงจะเข้าใจเรื่องราวหลาย ๆ อย่าง ในตอนแรกนึกไม่ออกเหมือนกันว่าตัวหนังภาคต่อนี้จะเล่าออกมาทางไหน แต่พอได้ดูแล้วถือว่าเป็นการเลือกเดินเส้นทางที่ถูกต้องที่ควรแล้วแหละ ซึ่งในภาคนี้ Jake และ Neytiri ก็ได้สร้างครอบครัวมีลูกด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนดาว Pandora แต่ความสุขนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อการรุกรานจากคนบนฟ้ากลับมาอีกครั้ง ในภาคแรกเราได้ตื่นเต้น ตะลึง กับการที่หนังพาไปยลโฉมพื้นที่ป่าของ Pandora ตะลึงกับท้องฟ้า ภูเขา ต้นไม้ใบหญ้า ในภาคนี้หนังก็ยังพาเราไปทึ่งอีกครั้งในโลกแห่งท้องทะเล มอบประสบการณ์ในการดูหนังอันยอดเยี่ยมให้เราอีกครั้ง เราจะได้เห็นโลกใต้น้ำและผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลที่งดงามตระกาลตาไม่แพ้กัน มีสัตว์แปลกตาใหม่ ๆ มาให้เชยชมมากกว่าที่เห็นในตัวอย่างเสียอีก คือคาดหวังไว้ในระดับนึงแล้วอะ แต่พอได้ดูนี่มันเกินความคาดหวังไปอีก ให้ความรู้สึกเหมือนเด็ก ๆ ที่เคยสัมผัสอะไรที่ไม่เคยเจอแล้วมีความสุขอะ รังสรรค์โลก Pandora ออกมาได้งดงามจริง ๆ เจากที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ James Cameron ที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นคนคลั่งไคล้โลกใต้ทะเลมาก พอมาเรื่องนี้รู้เลยว่าจริง! เพราะกว่า 90% ของเรื่องเราจะได้อยู่ในน้ำ แตะน้ำกันทั้งนั้น รู้กันอยู่แล้วว่า CG เป็นจุดเด่นของ Avatar และในภาคนี้งานภาพโคตรสวยไร้ที่ติจริง ๆ คือการได้เสพงานภาพในเรื่องนี้ถือว่าคุ้มมาก ๆ น่าเสียดายมากที่ไม่ได้ไปดู IMAX เพราะคนมันเยอะมาก เลยได้ดูในโรงธรรมดาเท่านั้น ถ้าใครมีโอกาสอยากแนะนำให้ดู IMAX จริง ๆ ย้ำอีกทีว่างานภาพไม่มีอะไรให้ติเลย เชื่อว่าในภาคต่อ ๆ ไปเราจะได้เห็นในอีกหลายแง่มุมความงามของดาว Pandora แน่นอน ทางด้านเนื้อเรื่อง ก็ต้องว่ากันตามตรงว่ามันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนชวนให้คิดนั่นคิดนี่ เข้าขั้นธรรมดาก็ว่าได้ ประเด็นบางเรื่องยังไม่หนักแน่นพอ ความหนักของเรื่องสู้ภาคแรกไม่ได้ หรืออาจจะเพราะเก็บไว้ภาคต่อไป และด้วยความที่ตัวละครเยอะขึ้นด้วย จึงต้องแบ่งมาเกลี่ยบท หนังมันจึงเหมือนเลือกจะโฟกัสที่การพัฒนาตัวละครมากขึ้นด้วย มันจึงหยอดปมให้ทุกตัวละครเลย เวลาเล่าก็ต้องบาลานซ์ระหว่างการพัฒนาตัวละคร และเซ็ทติ้งของโลกที่เต็มไปด้วยน้ำ มันจึงมีความขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้างทางด้านการเล่า บทตัวละครบางตัวก็โง่จนน่าหงุดหงิดรู้สึกว่าแบบ อีกละหรอ 555+ และมีจุดชวนเอ๊ะนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบเนื้อเรื่องมันนั้น แค่แอบคิดว่าบทมาไปไกลกว่านี่ได้น่า นั่นแหละมันคือภาค 2 เพราะมันยังต้องเก็บอะไรไว้เล่นในภาคต่อด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเล่าออกมาได้สนุกจริง ๆ ไม่มีจุดที่น่าเบื่อเลย มันสนุกทั้งเรื่องเลย หนังจะพาเราไปสลับการชื่นชมความงามถิ่นทะเลของดาว Pandora และสลับกับฉากแอ็คชันระทึกได้อย่างลงตัว บางฉากให้ความรู้สึกเหมือนดู Terminator และบางฉากราวกับดู Titanic ยังไงยังงั้น ถึงแม้หนังจะความยาว 3 ชั่วโมงกว่า แต่โดยส่วนตัวไม่รู้สึกว่ามันไม่ได้ยาวจนยืดแต่อย่างใด มันมีจุดให้ทึ่ง อึ้ง ตะลึงได้อยู่ตลอด ที่สำคัญมันมีบางจุดที่ยังรู้สึกว่าหนังรีบเล่าเกินไปด้วยซ้ำ และยังรู้สึกว่ายังอยากให้มีนั่นมีนี่อยู่เต็มไปหมดเลย สรุป Avatar: The Way of Water เป็นภาคต่อที่คุ้มค่าการรอคอย 13 ปีแบบสุด ๆ งานด้านภาพไร้ที่ติงดงามเหนือคำบรรยาย แนะนำและย้ำอีกครั้งว่าถ้ามีโอกาสและกำลังมากพอ จงไปดูเรื่องนี้ใน IMAX เถอะ ส่วนทางด้านเนื้อเรื่องอาจไม่ได้ลึก ออกจะค่อนข้างธรรมดา มีการหยอดเพื่อปูไปภาคต่ออยู่เยอะเหมือนกัน ถึงกระนั้นมันก็ยังบอกเล่าเรื่องราวได้สนุกไม่ใช่เล่นเลย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
9.5
กราฟฟิก
10
คะแนนเฉลี่ย
8.5
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ