Major Cineplex
SF Cinema
Major Hollywood
SabuySmile
Thaiware Shop
จำหน่าย จัดหา ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ สำหรับองค์กร ฯลฯ
- เมนูหลัก
หนัง Lightyear หรือชื่อไทยว่า บัซ ไลท์เยียร์ Toy Story แอนิเมชั่นขวัญใจมหาชน จากสตูดิโอ Pixar ที่หยิบเอาเรื่องราวของเหล่าของเล่นมาเล่าให้กลายเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์สุดแสนประทับใจ นำทีมโดย นายอำเภอวู้ดดี้ และนักบินอวกาศ บัซ ไลท์เยียร์ เรื่องราวของพวกเขาผจญภัย หาความหมายของการเป็นของเล่น และเติมเต็มชีวิตวัยเด็กของพวกเรา ยาวนานต่อเนื่องมาถึง 4 ภาคด้วยกัน แม้ว่าเรื่องราวนั้นจะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะขยายมันออกมาอีกครั้ง เป็นเรื่องราวโดยเฉพาะของ บัส ไลท์เยียร์ บัซไลท์เยียร์ เป็นตัวละครของเล่นนักบินอวกาศที่อยู่ใน Toy Story และถือเป็นตัวละครหลักที่อยู่คู่กับแอนิเมชั่นชุดนี้มาตั้งแต่ต้น เขามีความสำคัญพอๆกับวู้ดดี้ ของเล่นคาวบอย โดยหากจำกันได้ถ้าย้อนกลับไปในภาคแรกของ Toy Story จะอินกับความเป็นนักบินอวกาศมากจนไม่รู้ตัวว่าเขาแท้จริงแล้วเป็นของเล่น หลายครั้งที่เขาสวมบทบาทคิดว่าตัวเองกางปีกเหินฟ้า ปล่อยแสงเลเซอร์ได้ จนมาพบความจริงอันหน้าผิดหวังว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเป็นเพียงของเล่น ในภาค 2 บัซกลายเป็นหัวหน้าภารกิจในการตามหาตัววู้ดดี้ที่ถูกลักพาตัวไปและในภาค 3 เขากลับถูกจับไปรีเซ็ตใหม่ให้กลายเป็นฝ่ายร้ายด้วย จะเห็นได้ว่าบัซไลท์เยียร์ ผ่านการเดินทางมาหลากหลายรูปแบบ บัซไลท์เยียร์ เตรียมกลับมาอีกครั้งใน Lightyear แอนิเมชั่นภาคแยกที่จะมุ่งความเป็นธีมอวกาศและตัวละครที่ไม่ใช่ของเล่น เรื่องราวตั้งแต่ที่บัซไลท์เยียร์ออกเดินทางสู่ห้วงอวกาศไปสู่ดวงดาวแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยภยันตราย รวมถึงคู่หูคนใหม่ของสตาร์เรนเจอร์ เป็นอีกการเดินทางสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น โดยในแอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังได้ คริส อีแวนส์ ผู้เคยรับบทกัปตันอเมริกามาเป็นคนให้เสียงพากย์ด้วย Disney and Pixar’s Lightyear ดิสนีย์และพิกซาร์ บัซ ไลท์เยียร์ Instagram: https://www.instagram.com/pixarslightyear/ Twitter: https://twitter.com/PixarsLightyear Facebook: https://www.facebook.com/PixarsLightyear Hashtag: #Lightyear วันฉาย: พฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2565 ผู้ให้เสียงพากย์: คริส อีแวนส์ เคเค พาล์มเมอร์ ปีเตอร์ ซอห์น ไทกา ไวทีที เดล ซูลส์ เจมส์ โบรลิน อูโซ อาดูบา แมรี แมคโดนัลด์ ลูอิส ไอเชีย วิทล็อก จูเนียร์ เอฟเรน รามิเรซ ผู้กำกับ: แองกัส แมคเลน ผู้อำนวยการสร้าง: เกลิน ซัสแมน เพลงประกอบ: ไมเคิล จิอาคคิโน SYNOPSIS/BOILERPLATE: การผจญภัยสุดตื่นเต้น และเรื่องราวในอดีตของบัซ ไลท์เยียร์ ฮีโร่ผู้เป็นแรงบันดาลใจของของเล่นที่คุณหลงรัก กำลังจะถูกเปิดเผย “บัซ ไลท์เยียร์” จะพาคุณออกเดินทางสู่กาแล็กซีอันแสนแสนกว้างใหญ่หลังจากเขาและทีมถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ดาวเคราะห์ร้าง ห่างจากโลกไป 4.2 ล้านปีแสง บัซ ไลท์เยียร์จึงพยายามหาวิธีเดินทางกลับสู่โลก โดยได้รับความช่วยเหลือจากหุ่นยนต์แมวเหมียวคู่ใจอย่าง ซ็อกส์ แต่ภารกิจของเขากลับซับซ้อนและยากยิ่งขึ้นเมื่อ เซิกร์ปรากฏตัว พร้อมแผนการลับ และกองทัพหุ่นยนต์สุดร้ายกาจ แอนิเมชันเรื่องนี้ให้เสียงพากย์โดย คริส อีแวนส์ เป็น บัซ ไลท์เยียร์ นักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่ อูโซ อาดูบา พากย์เสียงเป็นผู้บัญชาการของบัซไลท์เยียร์ และ อลิชา ฮอว์ธอร์น สหายรัก ปีเตอร์ ซอห์น เป็น ซ็อกส์ เคเค พาล์มเมอร์ ไทกา ไวทีที เดล ซูลส์ พากย์เสียงให้กับ สมาชิกทีม Junior Zap Patrol เป็น อิซซี่ ฮอว์ธอร์น โม มอร์ริสัน ดาร์บี้ สตีล ตามลำดับ และเราจะได้ยินเสียงของเจมส์ โบรลิน ในบทบาท เซิกร์ ผู้ลึกลับ ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ยังประกอบด้วยผู้ให้เสียงพากย์อีกมากมาย แมรี แมคโดนัลด์ ลูอิส เป็น I.V.A.N คอมพิวเตอร์ประจำทีม ไอเชีย วิทล็อก จูเนียร์ เป็นผู้บัญชาการเบิร์นไซด์ เอฟเรน รามิเรซ เป็น แอร์แมน ดิแอซ และ เคียรา แฮร์สตัน เป็น อิซซี่ในวัยเด็ก กำกับโดยแองกัส แมคเลน (ผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์แอนิเมชัน “Finding Dory”) อำนวยการผลิตโดยเกลิน ซัสแมน (จาก “Toy Story That Time Forgot”) และเพลงประกอบจากนักแต่งเพลงมือรางวัล ไมเคิล จิอาคคิโน (จาก “The Batman” และ “Up”) ดิสนีย์และพิกซาร์ บัซ ไลท์เยียร์ จะเริ่มฉายในโรงภาพยนตร์ พฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2565 ONE-LINER: ดิสนีย์และพิกซาร์ บัซ ไลท์เยียร์ — คือเรื่องราวในอดีตของบัซ ไลท์เยียร์ (ให้เสียงพากย์โดย คริส อีแวนส์) ฮีโร่ผู้เป็นแรงบันดาลใจของของเล่นที่ทุกคนหลงรัก พร้อมพาคุณออกเดินทางสู่กาแล็กซีอันแสนแสนกว้างใหญ่เพื่อเผชิญกับภารกิจไปพร้อมกัน NOTE: ผู้กำกับ แองกัส แมคเลน เคยรับหน้าที่ผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์แอนิเมชัน “Finding Dory” ในปี 2016 เขาเริ่มงานที่ Pixar Animation Studios เมื่อปี 1997 ในฐานะแอนิเมเตอร์ และยังเคยร่วมงานในแอนิเมชั่นเรื่องอื่น ๆ ทั้ง Toy Story 2, Monster Inc., The Incredibles ที่เคยได้รับรางวัลจากเวทีอะคาเดมีอวอร์ดส์, WALL•E และ Toy Story 3 แองกัสได้รับรางวัลแอนนี่อวอร์ดส์ครั้งแรก จากเรื่อง The Incredibles ด้วยความโดดเด่นในการออกแบบตัวละคร และครั้งที่สอง คือรางวัลแอนนี่อวอร์ดส์ในสาขาการกำกับ จากเรื่อง Toy Story OF TERROR! ซึ่งถือเป็นแอนิเมชันพิเศษเรื่องแรกของพิกซาร์ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์
[รีวิว] LIGHTYEAR - บัซ ไลท์เยียร์
--- 5.5/10 ---
บทตื้น แบนราบ จืดชืด ไร้เสน่ห์
ตัวละคร Buzz ไม่สามารถซื้อใจเราได้อีกแล้ว
ความดีงามที่สุดในเรื่องนี้คือเจ้าหุ่นแมว Sox
พูดได้ว่าคงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักตัวละครของเล่นมีชีวิตจากแฟรนไชส์ Toy Story อย่าง Buzz Lightyear ถึงไม่เคยดู ก็ต้องเคยเห็นและรู้จักมาบ้าง ครั้งสุดท้ายเราได้เห็นตัวละครนี้ใน Toy Story 4 (2019) จนการกลับมาอีกครั้งในปี 2022 นี้ แต่ไม่ใช่ในรูปแบบของเล่น หากแต่เป็นเรื่องราวการผจญภัยในห้วงอวกาศของ Buzz Lightyear ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเป็นของเล่นใน Toy Story เมื่อ Buzz และทีมต้องลงบนดาวเคราะห์ที่ห่างไกลโลก เขาจึงพยายามหาทางกลับสู่โลกโดยไว แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อความพยายามของ Buzz ได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง และมันพาเขาไปเผชิญหน้ากับ Zurg หุ่นสุดร้ายกาจ
แน่นอนว่าการได้เห็น Buzz Lightyear กลายเป็นหนังภาค Spin-off ออกมา แฟน ๆ หลายคนต่างเฝ้ารอ รวมถึงตัวเราด้วย ความทรงจำในวัยเด็ก ความชื่นชอบในตัวละครนี้ ย่อมทำให้เกิดความคาดหวัง แต่...หนังทำให้ผิดหวังมากจริง ๆ
หนังมีบทที่แบนราบ เรื่องราวเป็นไปอย่างราบเรียบ ดำเนินเรื่องได้อย่างจืดชืดน่าเบื่อมาก ปมเอยอะไรเอยก็น่าถอนหายใจ บางช่วงก็ช้าไป บางช่วงก็รีบเหลือเกิน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังไม่มีจุดไหนดึงอารมณ์ร่วมได้เลยสักนิด ภารกิจรวมทีมก็ไม่สนุก หนังพยายามสอดแทรกข้อคิด ไม่สิ ใช้คำว่าพยายามยัดเยียดที่เกินไปสักหน่อยจนน่ารำคาญไปเลย ตัวละครแต่ละตัวไร้มิติสุด ๆ ที่น่าเหลือเชื่อคือเสน่ห์ที่เราเคยชื่นชม Buzz จากใน Toy Story ภาคนี้ซื้อใจเราไม่ได้และขาดเสน่ห์สุด ๆ ไม่สามารถทำให้เราอินหรือทำให้เราชื่นชอบตัวละครนี้ได้เหมือนแต่ก่อนเลย แต่ถึงกระนั้นการมาให้เสียงพากย์ของ Chris Evans ก็ทำได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า Tim Allen สักเท่าไหร่
สิ่งดีงามในเรื่องนี้มีเพียงไม่กี่อย่าง อย่างแรกคืองานภาพที่ยังคงน่าชื่นชมเหมือนเดิมตามสไตล์ Pixar และอีกอย่างคือการมีอยู่ของ SOX ไอ้แมวหุ่นยนต์ ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวขโมยซีนแบบสุด ๆ ทั้งน่ารัก น่าเอ็นดู ปรากฏตัวทีไรเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยทุกครั้ง ต้องชื่นชมการพากย์เสียงของ Peter Sohn ด้วย ว่าทำได้ดีจริง ๆ มันดูไม่เข้ากันกับตัวละคร แต่ไอ้ความไม่เข้ากันนี่แหละที่เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี
สรุปแล้ว Buzz Lightyear เป็นหนังที่ดูง่าย ย่อยง่าย(มาก ๆ) เด็ก ๆ น่าจะเอ็นจอย แต่สำหรับเราแล้วดูไปหาวไป ถ้าไม่มี SOX นี่หลับแน่ ๆ
ปล. หนังมีฉากก่อน End Credit ตัวนึง และฉากหลัง End Credit สองตัว
ความคิดเห็น (0)