หนัง Moonfall หรือชื่อไทยว่า วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก โรแลนด์ เอ็มเมอริค เจ้าพ่อหนังหายนะภัยพิบัติผู้สร้าง Independence Day , The Day After Tomorrow, 2012 กับการกลับมาใน Moonfall เป็นหนังภัยพิบัติที่เกิดจากดวงจันทร์ที่วงโครของมันกำลังจะพุ่งเข้าหาโลก โดยมีนักบินอวกาศและนักทฤษฎีวิทยาศาสตร์ช่วยกันหาวิธีหยุดยั้งการพุ่งชนในครั้งนี้ ซึ่งพวกเขามีเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพื่อไม่ให้มันทำลายล้างโลก
In Moonfall, a mysterious force knocks the Moon from its orbit around Earth and sends it hurtling on a collision course with life as we know it. With mere weeks before impact and the world on the brink of annihilation, NASA executive and former astronaut Jo Fowler is convinced she has the key to saving us all - but only one astronaut from her past, Brian Harper and a conspiracy theorist K.C. Houseman believe her. These unlikely heroes will mount an impossible last-ditch mission into space, leaving behind everyone they love, only to find out that our Moon is not what we think it is.
ผู้ชมทั้งหมด
12,671 ครั้ง
|
เข้าฉาย
3 กุมภาพันธ์ 2565
|
ออกโรงแล้ว |
4 กุมภาพันธ์ 2565 14:35:42 (IP 184.22.218.xxx)
|
||
[รีวิว] MOONFALL - วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก การกลับมากำกับหนังของ Roland Emmerich เจ้าพ่อหนังภัยพิบัติหายนะล้างโลก ที่เคยฝากผลงานหนังภัยพิบัติเอาไว้มากมาย ทั้ง Independence Day (1996), The Day After Tomorrow (2004), 2012 (2009) รวมถึงหนังแนวอื่น ๆ อยาก Godzilla (1998), The Patriot (2000), White House Down (2013), Midway (2019) ซึ่งคราวนี้เค้าก็กลับมาทำหนังภัยพิบัติอีกครั้ง หนัง High-concept Big Idea อย่าง Moonfall กับเรื่องราวที่บอกเล่าถึงดวงจันทร์ที่วิถีการโคจรเปลี่ยนไปและมันกำลังจะพุ่งชนโลก เหล่านักวิทยาศาสตร์ นักบินอวกาศ นักทฤษฏี จึงต้องหาทางหยุดยั้งหายนะในครั้งนี้ก่อนที่จะสายเกินไป และทำให้พวกเขาล่วงรู้ความลับของสิ่งมีชีวิตลึกลับบนดวงจันทร์ นี่น่าจะเป็นหนังของ Roland Emmerich ที่เราชอบน้อยที่สุดแล้วจากทั้งหมดที่เคยดูมา มันมีความเป็นหนังภัยพิบัติเอาชีวิตรอด และเป็นหนัง Sci-fi High-concept ที่ไปไม่สุดสักทางเลย ความเป็น Big Idea ไม่ใช่ปัญหาของหนังเรื่องนี้ เพราะปัญหามันอยู่ที่วิธีการนำเสนอ ในแง่ของความเป็นหนังภัยพิบัติ หายนะที่เกิดขึ้นน้อยมากถ้าเทียบสัดส่วนกับหนังเรื่องก่อน ๆ อย่าง 2012 หรือ The Day After Tomorrow แถมการเอาชีวิตรอดก็จะไม่ค่อยมีฉากให้ลุ้นหรือตื่นเต้นสักเท่าไหร่ คือมีนะแต่น้อยมากจริง ๆ ส่วนทางด้านความเป็น Sci-fi เรื่องราวความลับของดวงจันทร์ก็น่าสนใจชวนสงสัย แต่แทนที่มันจะไปให้สุดล้ำ ๆ ไปเลย กลับเป็นเรื่องราวที่ธรรมดากว่าที่คิดถูกเฉลยเรื่องราวทั้งหมดออกมาผ่านซีนเดียว อยากให้เป็นเหมือนอย่าง Arrival หรือ Interstellar ไปเลย ครึ่งเรื่องแรกกับหลังเลยต่างกันราวฟ้ากับเหว ครึ่งเรื่องแรกก็ดำเนินเรื่องอืดอาดยืดยาดปูตัวละครกันไป ยิ่งพอถึงพาร์ทที่ขึ้นไปดวงจันทร์ยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่ ไม่สนุกเลยจริง ๆ มาทางด้านนักแสดง ไล่ไปทีละคนเลย เริ่มตั้งแต่ Patrick Wilson ในบทนักบินอวกาศ ที่ตัวละครไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรสักเท่าไหร่ การตัดสินใจแต่ละอย่างมักจะเป็นการคาดเดา ตามมาด้วย Halle Berry ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายอะไรสักอย่างของ Nasa แต่ตรรกะและวิธีการตัดสินใจอะไรหลายอย่างของเธอไม่ได้กลับดูไม่ใช่บุคคลที่น่าเชื่อถือหรือพึ่งได้เหมือนตัวละคร Wilson เช่นกัน สุดท้าย John Bradley เป็นตัวละครเดียวที่ทำให้หนังดูสนุก ด้วยมุกตลกยิ้มปนหัวเราะหึ ๆ แป้กบ้าง ฮาบ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวละครนี้แหละทำให้หนังมันดูสนุกจริง ๆ แต่บทก็ไม่สามารถนำพาคนดูอย่างเราอยากเอาใจช่วยแต่ละตัวละครเลยสักนิด พอถึงพาร์ทที่มันควรจะอินน้ำตาไหลมันเลยทำให้ความรู้สึกกลายเป็นเฉย ๆ ไปเลย ทางด้านกราฟิกก็ไม่ได้สวยหรืองดงามจนว้าว ก็มีจุดที่อลังอยู่ แต่บางจุดก็ยังดูลอย ๆ อยู่เหมือนกันโดยเฉพาะในช่วงต้นเรื่องและภัยพิบัติต่าง ๆ สรุปแล้ว Moonfall เหมือนจะเป็นหนังหายนะที่เกิดกับตัวหนังเองซะอย่างนั้น ใครอยากไปลุ้นระทึกหนี ๆ เอาตัวรอดเหมือนอย่าง 2012 คงจะต้องผิดหวังสักหน่อย และคาดหวังความ Sci-fi จริงจังวิทยาศาสตร์ก็ผิดหวังเช่นกัน ไม่สุดสักทางเลยจริง ๆ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
3
การดำเนินเรื่อง
3
ดนตรีประกอบ
5
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
4.6
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ