หนัง Artchaya Game หรือชื่อไทยว่า อาชญาเกม ในโลกของเกม ‘แรงค์’ กลายเป็นสิ่งกำหนดคุณค่าของผู้เล่น จึงเกิดกลุ่มเกมเมอร์จึงรวมตัวกันใช้ทักษะของตนมารับจ้างปั๊มแรงค์ แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎเกมอย่างร้ายแรง แต่ในเมื่อไม่ผิดกฎหมาย มันจึงกลายเป็นช่องโหว่ที่พวกเขาใช้หาเงินจากมัน ยู เด็กหนุ่มมีพรสวรรค์ในการเล่นเกม แต่มักถูกคนรอบตัวมองว่าไม่มีอนาคต วันหนึ่งเขาได้รับข้อเสนอจาก โฮม มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมรับจ้างปั๊มแรงค์ที่ชื่อ The Up Rank ร่วมกับ พีท อดีตโปรเพลเยอร์ และ ทอย สตีมเมอร์สาวสวยที่เป็นแฟนกับพีท เมื่อกิจการไปได้ดี โฮมเริ่มคิดการใหญ่ขยายจำนวนทีมเพื่อรับจ้างปั๊มแรงค์ให้ได้มากขึ้น แต่สวนทางกับความรู้สึกของยู พีทและทอย ที่เริ่มไม่เห็นด้วยกับแผนของโฮม และเริ่มมองหาหนทางไปของตัวเอง โฮมจึงตัดสินใจโจมตีจุดอ่อนของแต่ละคน เพื่อบังคับให้ทั้งหมดยังทำงานปั๊มแรงค์กับตนต่อ ซึ่งนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้ง 4 คนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ผู้ชมทั้งหมด
11,249 ครั้ง
|
เข้าฉาย
1 กันยายน 2565
|
ออกโรงแล้ว |
30 สิงหาคม 2565 18:25:45 (IP 49.228.105.xxx)
|
||
[รีวิว] The Up Rank - อาชญาเกม The Up Rank - อาชญาเกม เป็นผลงานการกำกับของ 2 ผู้กำกับ กัลป์ กัลย์จาฤก และ วทัญญู อิงควิวัฒน์ กับเรื่องราวที่บอกเล่าถึง ยู เด็กหนุ่มที่เล่นเกมไปวัน ๆ ดูเหมือนไม่มีอนาคต แต่เขามีพรสวรรค์ ความสามารถของเขาก็ไปเตะตา โฮม และผองเพื่อน พีทกับทอย จึงได้ชักชวน ยู มาร่วมทำงานที่ "ผิดกฎเกมแต่ไม่ผิดกฎหมาย" อย่างการรับจ้าง "ปั้มแรงค์" แรกเริ่มก็เป็นงานที่หาเงินได้ง่าย กิจการไปได้ดี แต่ด้วยความโลภ และปัญหาต่าง ๆ ที่ถาโถม ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้ง 4 ต้องสั่นคลอน ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าคนที่ไม่เล่นเกมก็สามารถดูหนังเรื่องนี้ได้อย่างเข้าใจ เพราะเกมมันเป็นแค่วัตถุดิบนึงที่เอามาใช้ขับเคลื่อนเรื่องราว มันไม่ได้ลงลึกถึงศัพท์ในเกม การเล่น วิธีการเล่นอะไรแบบนั้น อาจจะต้องเข้าใจก่อนนิดนึงว่า แรงค์คืออะไร การปั้มแรงค์คืออะไร เท่านั้นเลย เพราะฉะนั้นสามารถดูได้หมดเลย เพราะจริง ๆ มันคือนังดราม่า ที่มีความ coming-of-age เสียมากกว่า (อ่านมาถึงตรงนี้ ย่อหน้านี้อาจไม่เกี่ยวกับรีวิวเท่าไหร่แต่อยากพูดถึงสักหน่อย ถ้าใครอยากอ่านรีวิวข้ามไปย่อหน้าต่อไปได้เลยครับ) ซึ่งในตอนรอบกาล่า เราชอบประโยคนึงที่ กิต Three Man Down พูดมากเลย เขาพูดเกี่ยวกับประเด็นนี้แหละ คนไม่เล่นเกมจะดูรู้เรื่องไหม ? เจ้าตัวตอบว่า "ถ้าเป็นหนังเกี่ยวกับอย่างอื่น คนจะไม่ถามประโยคนี้" "ดูหนังนักสืบเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสืบ" เค้าพูดเยอะกว่านี้ แต่ประมาณนี้แหละ คือมันก็จริงของเขานะ พอเป็นหนังเกี่ยวกับเกมมันเลยเหมือนถูกลดทอน ลดคุณค่า เหมือนตั้งแง่กับเรื่องนี้ไว้ก่อนเสมอ ดูซีรีส์หมอ ก็ไม่เคยเห็นมีใครถามว่าว่าต้องเป็นหมอมั้ยถึงจะเข้าใจ The Up Rank - อาชญาเกม มีตัวบทโครงเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ยิ่งพอมาเป็นหนังไทย เราไม่ค่อยเห็นหนังไทยแนวนี้เท่าไหร่ และต้องยอมรับเลยว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี สนุกกว่าที่คิดเยอะเลย ดำเนินเรื่องเร็ว ไม่น่าเบื่อ มันเป็นอีกแง่มุมนึงของการเล่นเกมที่ถูกจับมาถ่ายทอดออกมาให้ดราม่าได้ และก็ตรงจุดจริง ๆ มีการผูกเรื่องราวให้เกิดแก๊งรับจ้างปั้มแรงค์ ที่แต่ละตัวละครก็มีปม มีปัญหาในชีวิตของตัวเองทั้งนั้น บทมันเลยมีมิติ และสมเหตุสมผลที่แต่ละคนเลือกที่จะทำอะไรแบบนี้ ทั้งเรื่องมันเลยมีจุดที่ดึงอารมณ์ดราม่ามาได้อยู่ตลอดเวลา จริง ๆ เราแอบอยากเห็นว่าไอ้กลุ่มตัวละครหลักเนี่ยมันเก่งแค่ไหน ถึงทำธุรกิจนี้รุ่ง น่าเสียดายที่หนังมันก็ไม่ได้มีซีนโชว์เทพของเหล่าตัวละครสักเท่าไหร่ คือให้เราเข้าใจกันไปเองตามบริบทของหนังว่าพวกเขาเก่งมาก ๆ หนังมันจะค่อย ๆ ดำดิ่งให้เห็นความชิบหาย เห็นปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในหลากหลายเรื่อง หลากหลายตัวละคร แต่แอบน่าเสียดาย เพราะบทมันราบเรียบเกินไป มันไม่ลงลึกสักเท่าไหร่ ทั้งกับเรื่องการปั้มแรงค์นี่แหละ "ผิดกฎเกมแต่ไม่ผิดกฎหมาย" มันน่าจะดำดิ่ง ลงลึกไปได้มากกว่านี้ ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีต่อวงการเกมนะ ผู้เล่นที่เจอคนเก่ง ๆ มาปั้มแรงค์ก็ไม่แฟร์กับผู้เล่นใหม่ ๆ เหมือนกัน และการยิงประเด็นคุณค่าของแรงค์กับคนที่อยากสัมผัสจุดที่ตัวเองอยากอยู่สูงกว่าที่ตัวเองควรจะอยู่ มันก็ยังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้จริง ๆ มันยังอ่อนไปนิด ตัวหนังก็ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์หรือจุดให้ลุ้นมากเท่าที่ควร กับอีกเรื่อง ด้วยความที่หนังดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว บางเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเร็ว ผ่านไปเร็ว คลี่คลายเร็ว ความสัมพันธ์ตัวละครบางทีก็เบาบางไปหน่อย รวมถึงภูมิหลังของแต่ละคนก็ยังไม่ได้มีเวลาบอกเล่าอะไรเท่าไหร่ มีเพียงแค่ไม่กี่ฉากเท่านั้น ยิ่งช่วงหลัง ๆ หลายอย่างดูหาทางลงกับมันเร็วมาก จนมันดูง่ายไปสักหน่อยในทุกบทสรุปของตัวละคร มันสามารถเดาออกได้เลยว่ามันต้องเป็นยังไง สิ่งที่น่าชื่นชมสุด ๆ ในเรื่องนี้คือทีมนักแสดง ต้องบอกเลยว่าเลือกนักแสดงมาได้ถูกต้องและถูกบทบาทสุด ๆ คือมองแต่ละคนแล้วนึกออกเลยว่าต้องเป็นบทที่พวกเขาได้รับ จะให้มาสลับบทกันไม่ได้เลยจริง ๆ ขอเริ่มจาก กิต Three Man Down ในบท ยู ก่อนเลย ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่การแสดงเรื่องแรกของเจ้าตัว เราคยเห็นการแสดงของเขามาแล้ว ไม่ว่าจะใน MV ของวง Three Man Down เอง และก็ผลงานหนัง 2 เรื่องอย่าง Deep โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย และเทอมสองสยองขวัญ ซึ่งทั้งสองเรื่อง กิต ก็ไม่ได้รับบทเป็นนักแสดงนำ และการแสดงก็ไม่ได้โดดเด่นจนน่าชื่นชมสักเท่าไหร่ อาจเพราะด้วยบทที่ไม่เข้า และไม่ได้เอื้อให้เขาได้โชว์ฝีมือ แต่ในบทนำครั้งแรกเต็มตัวจาก The Up Rank - อาชญาเกม รู้สึกว่ากิตแสดงได้ดีมาก เข้ากับคาแรคเตอร์และบทบาทมาก บทพูดก็เข้าปาก ชอบการแสดงสีหน้าแววตา หลายซีนดูว่างเปล่า ดูเครียด ดูกังวลอะ รู้สึกบทแบบนี้เหมาะกับกิตกว่าเรื่องที่ผ่านมามาก ๆ ตามมาด้วย เอม ในบทโฮม ก็เข้ามากไม่แพ้กัน ด้วยคาแรคเตอร์แบบ Mastermind จอมบงการ จอมวางแผน ดูร้าย แบบนิ่ง ๆ การคอนโทรเสียงในบทพูดต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนใบหน้าอารมณ์น่าชื่นชมสุด ๆ, ต่อกันที่แจ็คในบทพีท เป็นตัวละครที่เอเนอร์จี้เยอะ การแสดงสีหน้าท่าทางของเขาก็ทำได้ดีเหมาะสมกับตัวละครที่ได้รับ และสุดท้าย มีน กับบททอย ที่ดูทั้งสวย เซ็กซี่และน่ารักในคน ๆ เดียว รับผิดชอบในบทของตัวเองได้ดีมาก ๆ รวมถึงนักแสดงอื่น ๆ อย่าง เฟิด Slot Machine ถึงแม้จะมาน้อย แต่ก็ดูร้ายและเหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับดี หรือพี่ดู๋ สัญญา ในบทพ่อของยูก็ทำได้ดี ซึ่งทุกตัวละครต่อบทกันได้ลื่นไหลมาก บทดูเข้าปากทุกคนเลย คาแรคเตอร์ชัดมาก ๆ แสดงกันได้ดีจริงอย่างน่าชื่นชมจริง ๆ งานด้านภาพก็ถ่ายทำออกมาได้ดี การจัดแสงสีงดงาม ในหลาย ๆ มุมกล้องก็ช่วงเพิ่มมิติในการเล่าเรื่อง การซูมเข้าหน้าสื่อถึงความกดดันของตัวละคร การวางเฟรม การทิ้งกล้องถอยเฟรมกว้างให้เห็นถึงความโดดเดี่ยว และหลาย ๆ อย่างมันช่วยส่งเสริมอารมณ์ในแต่ละซีนได้เป็นอย่างดี หลายฉากหลายมุมก็ถูกเซ็ทออกมาได้สวยเหมาะกับเรื่องราวอีกด้วย สรุปแล้ว The Up Rank - อาชญาเกม เป็นหนังไทยที่น่าชื่นชมมากเรื่องนึงของปีนี้เลย มันดูสนุกกว่าที่คาดไว้มาก ๆ ตัวบทก็ทำได้ดีหากตบ ๆ ในจุดนั้นจุดนี้อีกหน่อย เราจะได้เห็นว่าเกมมันมีมิติอื่นที่นอกเหนือจากการเล่นเกม ถึงแม้หนังจะไม่ได้ลงลึกจุดนี้ แต่มันก็เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวความดราม่าของหนังได้เป็นอย่างดี ฉากสวย มุมกล้องดี และที่สำคัญแคสติ้งนักแสดงมาได้ดีทุกคนเลยจริง ๆ ลองไปสัมผัสกันด้วยตัวเองได้เลย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ