หนัง John Wick Chapter 4 หรือชื่อไทยว่า จอห์น วิค แรงกว่านรก 4 John Wick Chapter 4 พาผู้ชมไปสู่จักรวาลนักฆ่าที่ถูกขยายขอบเขตยิ่งกว่าเดิม หลักจากที่ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) เอาตัวรอดจากนักฆ่าและการตามล่าจากสภาสูงมาได้ เขาได้ค้นพบว่าหนทางรอดเดียวที่จะทำให้ชีวิตเขาเป็นอิสระ คือการต้องกลับมาเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รอเขาอยู่และเป้าหมายเดียวคือต้องโค่นสภาสูงให้สำเร็จ โดยครั้งนี้เขาต้องรับมือกับศัตรูอำมหิตรายใหม่ที่มีอิทธิพลกว้างขวางไปทั่ววงศ์วานนักฆ่าทั้งโลก ผู้พร้อมจะเปลี่ยนมิตรให้กลายเป็นศัตรู เปลี่ยนลมหายใจให้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ เปิดฉากการตามล่าครั้งใหม่ที่กินอาณาเขตแค้นไปถึง 3 ทวีป ทั้งในนิวยอร์ก ปารีส เบอร์ลิน และโอซาก้า ใน John Wick Chapter 4 นอกจากจะได้ทีมนักแสดงคุณภาพชุดเดิม อย่าง คีอานู รีฟส์, ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น และ เอียน แม็คเชน กลับมาสานต่อเรื่องราวสุดเข้มข้นแล้ว ยังระดมทีมนักแสดงแอ็กชันสตาร์ชุดใหม่มาบันดาลความมันส์ขีดสุดให้กับจักรวาลนักฆ่าครั้งนี้ นำโดย ดอนนี่ เยน จาก ยิปมัน, บิล ซาร์สการ์ด จาก IT ร่วมด้วย ฮิโรยูกิ ซานาดะ จาก Bullet Train ครั้งนี้มันจะเป็น “จุดจบ หรือ จุดเปลี่ยน” ของชะตานักฆ่าอันดับหนึ่งอย่าง จอห์น วิค ถึงเวลานับถอยหลังสู่วันชี้ชะตาพร้อมกัน กับ John Wick Chapter 4 – 23 มีนาคม 2023 ในโรงภาพยนตร์
John Wick (Keanu Reeves) takes on his most lethal adversaries yet in the upcoming fourth installment of the series. With the price on his head ever increasing, Wick takes his fight against the High Table global as he seeks out the most powerful players in the underworld, from New York to Paris to Osaka to Berlin. Lionsgate presents, a Thunder Road Films / 87eleven production.
ผู้ชมทั้งหมด
31,189 ครั้ง
|
เข้าฉาย
22 มีนาคม 2566
|
ออกโรงแล้ว |
22 มีนาคม 2566 18:45:02 (IP 49.49.255.xxx)
|
||
[รีวิว] JOHN WICK: CHAPTER 4 ไม่น่าเชื่อว่าหนังแอ็คชันทวงแค้นให้หมาอย่าง John Wick (2014) จะเดินทางมาถึงภาคที่ 4 แถมมีแผนจะขยายเป็นภาคแยกในซีรีส์อีกต่างหาก แต่ละภาคที่ผ่านมาหนังค่อย ๆ ยกระดับเรื่องราวโลกของสภานักฆ่าให้มันกว้างขึ้น ลึกขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้น ที่สำคัญยกระดับแอ็คชันบู๊ระห่ำขึ้นทุกภาค และในภาคนี้ต้องบอกเลยว่าสุดจริง ๆ ถึงแม้หนังมันจะมีระยะเวลาประมาณ 9 ปีจนถึงภาคปัจจุบัน แต่เรื่องราวจริง ๆ ในหนังกินระยะเวลาไปประมาณ 7-8 เดือนเท่านั้น ซึ่งในภาคนี้ก็บอกเล่าเรื่องราวต่อจากภาคที่แล้วประมาณ 6 เดือน หลังจากที่ John Wick โดนยิงตกตึกไป ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Bowery King และนั่นเขาก็พร้อมกลับมาทวงแค้นไล่ฆ่าสภาสูงเพื่อจะได้ไปมีชีวิตอย่างสงบสุขเสียที โดยส่วนตัวสำหรับผม John Wick: Chapter 3 - Parabellum เป็นภาคที่ผมชอบน้อยที่สุดในแฟรนไชส์ เพราะถึงแม้ว่ามันจะจัดหนักแอ็คชันมากแค่ไหน แต่มันมากไป บางฉากก็แอ็คชันนานเกินไป เนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไร แทบไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมไปจากภาค 2 สักเท่าไหร่เลย แต่ในภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบที่สุดในแฟรนไชส์เลยก็ว่าได้ เป็นภาคที่รู้สึกครบสมบูรณ์ในความเป็น John Wick เลยแหละ เพราะหนังเหมือนเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากภาคที่แล้ว และเติมเต็มเรื่องราว เพิ่มมิติ เพิ่มตัวละครยกระดับเนื้อเรื่องให้มันกลมขึ้น รวมถึงยังยกระดับจุดขายอย่างฉากแอ็คชันที่ทำได้ดีมาก ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก เรามาพูดถึงเนื้อเรื่องกันก่อน คือด้วยความที่มันเริ่มจากการเป็นหนังทวงแค้นให้หมาและรถ พอภาคต่อ ๆ มา เราก็ได้รู้ถึงโลกของเหล่านักฆ่า กฏต่าง ๆ รวมถึงเหล่าสภาผู้รันวงการนี้ ในภาคนี้มันได้หยิบวัตถุดิบเหล่านั้นมาใช้ในการเล่าเรื่องแบบไม่ต้องเสียเวลาปูเยอะเพราะภาคก่อน ๆ ได้พูดภาพรวมของสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว ถึงแม้หลายจุดมันจะแบบมีเพื่อให้เรื่องมันเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกสะดุดกับการเล่าเรื่องแต่อย่างใด แถมในภาคนี้บทพูดแต่ละซีนในเรื่องของหลากหลายตัวละครมันเท่จริง ๆ การคุยกันของ John Wick กับตัวละครอื่น ๆ, บทพูดของ Winston กับ Marquis และอีกมากมาย จังหวะการเล่า วิธีเล่า คือหลายช็อตหลายซีนมันถูกวางเอาไว้ให้คนดูประทับใจ ประทับใจแบบหลายฉากคนต้องเฮและปรบมือเลยทีเดียว ซึ่งภาคก่อนมันก็มีแบบ แต่ภาคนี้มันถูกจังหวะจริง ๆ มาทางด้านฉากแอ็คชัน ที่มันไต่ระดับมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ภาคแรก มาในภาคนี้มันก็ยังคงยกระดับขึ้นไปอีก ที่ยังคงความเป็น John Wick ที่เราคุ้นเคย คือมีความแอ็คชันแบบถึงเนื้อถึงตัว เต็มเม็ดเต็มหน่วย คือมันดูจริงแบบไม่ต้องมีมุมกล้องเวอร์ ๆ หรือทำสโลว์ให้ดูตื่นเต้น คือซัดกันดิบ ๆ มุมกล้องกว้าง ๆ เนี่ยแหละ ดูแล้วแบบเหนื่อยตามเฮีย Keanu Reeves เลยจริง ๆ มีซีนเท่ ๆ มีลูกล่อลูกชน มีมุกไว้เรียกเสียงฮา เสียงเฮ เสียงซี๊ดปากด้วยความหวาดเสียวอยู่เต็มไปหมด คือแอ็คชันมันส์มาก เมาหมัด เมาตีน เมากระสุนกันเลย ดีไซน์ฉากแอ็คชันออกมาได้ไร้ที่ติจริง ๆ คือถ้าตัดความไม่สมเหตุสมผลในการเปลี่ยนกระสุนปืนแต่ละแม็คออกไป หรือการที่หนังเลือกใช้เสื้อสูทกันกระสุนมันดูทำให้ตัวละครคงกระพันเกินไปหน่อย นอกเหนือจากนั้นก็จัดได้ว่ามันส์พะยะค่ะ สิ่งที่โดดเด่นควบคู่กันไปต้องยกให้งานโปรดักชัน ภาคนี้ถือว่างานภาพสวยมาก โลเคชันเอย การจัดแสงเงาเอย บล็อคกิ้งตัวละครเอย คือมันเนี้ยบ มันเป๊ะ และสวยมาก หลายฉากนี่ still ภาพแล้วเอาเป็น Wallpaper สวย ๆ ได้เลย เพราะมันสวยจริง ๆ มันช่วยยกระดับเรื่องราวได้ดีเลย และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือนักแสดง เริ่มตั้งแต่ Keanu Reeves ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่ภาคแรก ที่เห็นชัด ๆ คือมีอาการเหนื่อยหอบอย่างชัดเจน แน่ล่ะ คนดูยังเหนื่อยขนาดนี้ แสดงเองจะเหนื่อยขนาดไหน แต่ยอมรับในความอึดถึกทนของเฮียแกจริง ๆ และในภาคนี้เราได้เห็น Ian McShane ในบทบาทของ Winston ที่มากขึ้น ได้เห็นการพูดจา การสนทนามากกว่าภาคอื่น ๆ ที่ผ่านมา และก็ดูเก๋าคงคาแรคเตอร์ได้อย่างดี ที่น่าสนใจคือตัวละครที่เพิ่มมาในภาคนี้อย่าง Donnie Yen ในบท Caine โอ้โหคุณ พูดเลยว่านี่คืออีกหนึ่งตัวละครที่จะกลายเป็นไอค่อนของแฟรนไชส์นี้ เพราะแต่ละซีนที่โผล่มาคือเท่สั* เท่ชิบหา* เท่เหี้* เป็นหนึ่งตัวละครที่โคตรน่าจดจำ ตามมาด้วย Shamier Anderson ในบทนักแกะรอยมาพร้อมหมาคู่ใจที่แย่งซีนไม่ใช่เล่น และการแสดงของ Bill Skarsgård ในบท Marquis ที่เรามองว่าโคตรเท่เลย การออกท่าทาง การพูด การเล่นหูเล่นตา กริยาต่าง ๆ คือดูร้าย ดูเท่ สรุปแล้ว John Wick: Chapter 4 เป็นภาคต่อที่สมบูรณ์ในความเป็น John Wick ได้ทั้งซึ้ง ได้ทั้งเฮ ได้ทั้งเท่ ได้ทั้งมันส์ เนื้อหาลงตัวเหมาะสม ฉากแอ็คชันจัดเต็มสูบ หนังความยาว 2 ชั่วโมง 49 นาที คุ้มค่าทุกวินาที แบบไม่ควรพลาดเลย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
9.5
กราฟฟิก
9.5
คะแนนเฉลี่ย
9
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ