หนัง Killers of the Flower Moon หรือชื่อไทยว่า คิลเลอร์ส ออฟ เดอะ ฟลาวเวอร์ มูน เมื่อนํ้ามันถูกค้นพบในยุค 1920s ที่รัฐโอคลาโฮมา ในพื้นที่ของชาวพื้นเมืองโอเซจ ชาวโอเซจจึงถูกฆาตกรรมไปทีละคน — จนกระทั่งเอฟบีไอเข้ามาไขปริศนาดังกล่าว
Killers of the Flower Moon Members of the Osage tribe in the United States are murdered under mysterious circumstances in the 1920s, sparking a major F.B.I. investigation involving J. Edgar Hoover.
ผู้ชมทั้งหมด
4,235 ครั้ง
|
เข้าฉาย
19 ตุลาคม 2566
|
ออกโรงแล้ว |
25 ตุลาคม 2566 22:00:30 (IP 184.22.101.xxx)
|
||
Killer of the Flower moon ภาพยนตร์เต็งรางวัลจากผลงานกำกับของมาร์ติน สกอร์เซซี กับความยาวหนังกว่า 3 ชั่วโมง เรื่องราวของชนเผ่าโอเสจที่ค้นพบน้ำมันในพื้นที่โอคลาโฮม่าในช่วงปี 1920 ทำให้กลายเป็นชนเผ่าที่รวยขึ้นมาแบบน่าจับตามองจนคนผิวขาวเริ่มเข้ามาตั้งรกรากและใช้ชีวิตปะปนกับคนพื้นเมืองมากขึ้น รวมถึงเริ่มมีการแต่งงานเพื่อหวังผลประโยชน์จากคนพื้นเมืองสายเลือดแท้ จนกระทั่งเกิดเหตุมีการฆาตกรรมชาวโอเสจตายไปทีละคน ๆ โดยไม่มีการสืบสวนใด ๆ จนรัฐบาลกลางที่ได้รับการร้องเรียนจากชนเผ่าโอเสจที่เดินทางไปเข้าพบต้องส่งหน่วยสืบสวนเอฟบีไอเข้ามาไขปริศนาทั้งหมด ต้องบอกเลยว่าด้วยความยาวของหนังกว่า 3 ชั่วโมงนั้น เล่นเอาเมื่อยไปพอสมควร แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง สามารถดึงดูดตัวเราเองให้อยู่ดูจนจบได้เพลินมาก ๆ อีกทั้งยังรวมเหล่านักแสดงชั้นนำเอาไว้ทั้ง ลีโอนาโด ดิคาพริโอ (แสดงเป็น เออร์เนส เบิร์กฮาร์ท) โรเบิร์ต เดอ นี่โร (แสดงเป็น วิลเลียม เฮล) ที่สามารถแสดงออกมาได้ทรงพลังมาก เข้าถึงอารมณ์สุด ๆ ส่วนตัวรู้สึกได้รับความกดดันที่ตัวลีโอนาโด้แสดงออกมาจากบทบาทของเออร์เนส ที่ต้องแบกรับปัญหาเอาไว้จนเผลอเครียดตามไปเฉยเลย อินมาก ยิ่งฉากที่เออร์เนสเสียใจจนแทบใจจะขาดนี่เกือบจะร้องไห้ตาม ตัวหนังแสดงนำหญิงอย่าง ลิลลี่ แกลดสโตน (แสดงเป็นมอลลี่ เบิร์กฮาร์ท) ก็ทรงพลังมาก ๆ ฉากป่วยจัดจนเพ้อถึงขนาดตาลอยจนเชื่อไปเลย การเล่าเรื่องของตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างจะเล่าไปเรื่อย ๆ เพลิน แต่มีชั้นเชิงทำให้ไม่น่าเบื่อ เพลงประกอบเข้ากันกับยุคสมัย องค์ประกอบงานภาพ มุมกล้อง งานศิลป์ในเรื่องสวยงามมาก แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ามีบางช่วงที่แอบรู้สึกยืด ๆ ไปนิดหน่อย มีช่วงที่ทิ้งภาพไว้นาน ส่วนตัวรู้สึกแอบลุ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไร แค่ทิ้งภาพไว้เฉย ๆ เผลอคิดว่าบางฉากอาจจะมีสัญญะอะไรบางอย่างบ้างมั้ย แต่จริง ๆ ตัวหนังเล่าเรื่องค่อนข้างจะตรงไปตรงมา ตีแผ่เบื้องหลังการฆาตกรรมสังหารหมู่ชาวโอเสจออกมาได้เข้าใจง่ายดี โดยส่วนตัวคิดว่าหลายคนอาจจะกลัวด้วยคิดว่าเป็นหนังชิงรางวัลอาจจะดูอยากไหม ส่วนตัวคิดว่าดูไม่ยากเท่าไรนะ ไม่ได้ลึกมากขนาดนั้น ค่อนข้างจะตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ สำหรับเราถือว่าดูง่าย เพลิน ๆ เลยแหละ แต่หนังยาวมาก ต้องอดทนนิดนึง แถมไม่ค่อยโปรโมทหนักเท่าไร โรงฉายก็ค่อนข้างจำกัด มีโอกาสคิดว่าถ้าได้ไปดูในโรงจะดีมาก ๆ เลยแหละ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9.5
การดำเนินเรื่อง
9.5
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
9.5
คะแนนเฉลี่ย
9.4
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ