หนัง The Ministry of Ungentlemanly Warfare เรื่องราวขององค์กรลับกับปฏิบัติการฝ่าดงนาซีสุดเหี้ยมที่ก่อตั้งโดย วินสตัน เชอร์ชิลล์ ซึ่งมีเหล่าทหารนอกรีตที่ไม่สนใจกฎพร้อมลูกบ้าเต็มพิกัดมารวมทีมในภารกิจโคตรอันตรายที่เดิมพันด้วยชีวิตเพื่อกำจัดผู้นำนาซี และทำลายความพยายามในการทำสงครามของเยอรมนี
The Ministry of Ungentlemanly Warfare In 1940, Winston Churchill and Ian Fleming form a clandestine combat organization for Britain's military that changes the course of World War II and prefigures the modern black ops unit through its unconventional and entirely ‘ungentlemanly’ fighting techniques against the Nazis.
ผู้ชมทั้งหมด
2,086 ครั้ง
|
เข้าฉาย
18 เมษายน 2567
|
ออกโรงแล้ว |
6 พฤษภาคม 2567 21:56:40 (IP 184.22.100.xxx)
|
||
ต่อเนื่องกันอีกเรื่องกับภาพยนตร์แอคชั่นอิงประวัติศาสตร์อย่าง The Ministry Of Ungentlemanly Warfare แสบจารชนคนพลิกโลก เรื่องราวของหน่วยรบพิเศษ ที่ไม่ขึ้นตรงกับใคร และไม่ทำตามคำสั่งโดยตรงแน่ ๆ เพื่อผลลัพท์ที่มั่นใจได้ว่าสำเร็จลุล่วงแน่นอน กับภารกิจเสี่ยงตายที่ต้องจมเรืออูของนาซีเพื่อตัดกำลังรบหลักให้ได้ ในด้านของเนื้อหา เค้าโครงแน่นอนว่าอิงมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ แน่นอนว่าเราอาจจะคาดเดาผลลัพธ์ของภารกิจในท้ายที่สุดได้อยู่แล้ว และในเรื่องของการดำเนินเรื่องนั้น ในช่วงแรกก็ถือว่าทำได้ดี ไม่น่าเบื่อ แต่ส่วนตัวรู้สึกเริ่มเอื่อย ๆ หลังจากเข้าช่วงภารกิจหลัก ไม่มีอะไรให้ลุ้นเท่าไร เหมือนขาดช่วงพีคที่สุดของกราฟไป ทำให้รู้สึกว่าดู ๆ ไปแล้วก็โอเคดี แต่ไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมหรือเอนจอยไปด้วยเท่าไร เหมือนมาดูสารคดีแบบราบเรียบมากกว่า ไม่ต้องคิดเยอะ ขายฉากแอคชั่นของพ่อหนุ่มกล้ามโต อลันต์ ริตช์สัน เสียมากกว่า ส่วนเฮนรี่ คาวิลล์ ก็ตามมาตรฐานแกเลย โชว์เท่ บทส่งเต็มที่ แต่ก็อย่างที่บอกเลยคือหนังเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ทำให้ตอนที่เราดูจบแล้วยังไม่รู้สึกเอนจอยอย่างเต็มที่เท่าไร แต่ก็ว่าไม่ได้เรื่องฉากแอคชั่นที่ใส่เข้ามาไม่ยั้งจริง ๆ ในส่วนนี้ก็ช่วยดึงให้เราเองไม่รู้สึกเบื่อไปก่อนได้อยู่ ว่ากันตรง ๆ ส่วนตัวตั้งแต่เห็นตัวอย่างภาพยนตร์ก็รู้สึกคาดหวังไม่น้อยว่าในเนื้อหาภาพยนตร์ที่ได้เค้าโครงอิงมาจากเรื่องจริงถึงสองชั่วโมง น่าจะมีอะไรให้รู้สึกลุ้นกว่านี้ ใจนึงพยายามคิดว่าอาจจะเป็นเพราะการปฏิบัติภารกิจนี้อาจจะจบไปได้ด้วยดีหรือไม่ จึงไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไร แต่ก็ไม่คิดว่าจะออกมาแล้วความรู้สึกเป็นเส้นตรงไปหมดขนาดนี้จริง ๆ ก็แอบรู้สึกเสียดายและก็ผิดหวังไปนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ชอบกลุ่มตัวเอกนะ รู้สึกปูคาแร็คเตอร์มาให้เทพดี เทพจนนาซีที่ว่าเก่ง น่ากลัวและเป็นตัวร้ายหลักของเรื่องดูไม่น่ากลัวไปเลย ก็ถือว่าไปดูฉากแอคชันมันส์ ๆ เอานี่ละ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.5
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ