โปรแกรมหนัง เช็ครอบหนัง

Movie Showtime
เช็ครอบหนัง
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ รัชโยธินควอเทียร์ ซีเนอาร์ต บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์อีจีวี บิ๊กซี สมุทรปราการ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แครายเอสพลานาด รัชดาภิเษก ไอคอน ซีเนคอนิค ไอแมกซ์ เวสต์เกตซีนีเพล็กซ์ ไอแมกซ์ บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ไอแมกซ์ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้าไอแมกซ์ เลเซอร์ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ไอแมกซ์ เลเซอร์ เมกา ซีนีเพล็กซ์ ไอแมกซ์ เลเซอร์ เมเจอร์ รัชโยธิน ไอแมกซ์ เลเซอร์ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย ไอแมกซ์ เลเซอร์ ไอคอน ซีเนคอนิค กรุงศรี ไอแมกซ์ เลเซอร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ บิ๊กซี ติวานนท์เมเจอร์ บิ๊กซี อ้อมใหญ่ เมเจอร์ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เมเจอร์ ชาน แอท ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะเมเจอร์ บางแค เมเจอร์ บิ๊กซี ธัญบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี ปทุมธานี เมเจอร์ บิ๊กซี สุขสวัสดิ์ เมเจอร์ ปิ่นเกล้า เมเจอร์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เมเจอร์ รังสิต เมเจอร์ สามเสน เมเจอร์ สำโรง เมเจอร์ สุขุมวิท เมเจอร์ เกตเวย์ บางซื่อ เมเจอร์ เซ็นทรัล บางนา เมเจอร์ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมเจอร์ เซ็นทรัล พระราม 2 เมเจอร์ เซ็นทรัล พระราม 3 เมเจอร์ เพชรเกษม เมเจอร์ โรบินสัน ลาดกระบัง เมเจอร์ โรบินสัน สมุทรปราการ เมเจอร์ โลตัส นวนคร เมเจอร์ โลตัส บางกะดี เมเจอร์ โลตัส บางกะปิ เมเจอร์ โลตัส บางปะกอก เมเจอร์ โลตัส บางใหญ่ เมเจอร์ โลตัส พระราม 2 เมเจอร์ โลตัส ศรีนครินทร์ เมเจอร์ โลตัส ศาลายา เมเจอร์ โลตัสสมุทรปราการ แฟชั่น ไอส์แลนด์เมกา ซีนีเพล็กซ์พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์ ซีคอน ซีนีเพล็กซ์ เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์
ภาคกลาง
อยุธยาซิตี้พาร์ค ซีนีเพล็กซ์อีจีวี บิ๊กซี ท่าตะโกอีจีวี บิ๊กซี หนองบัวอีจีวี โลตัส ท่าทอง เมเจอร์ บิ๊กซี มหาชัย 2 เมเจอร์ บิ๊กซีสระบุรีเมเจอร์ โลตัส สระบุรี เมเจอร์ โลตัสนครนายก นครปฐม ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ ท็อปส์ พิจิตร เมเจอร์ บิ๊กซี กำแพงเพชร เมเจอร์ บิ๊กซี มหาชัย เมเจอร์ บิ๊กซี ลาดยาว เมเจอร์ บิ๊กซี วิเชียรบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี สุพรรณบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี สุโขทัย เมเจอร์ บิ๊กซี อยุธยา เมเจอร์ วี-สแควร์ นครสวรรค์ เมเจอร์ สุขอนันต์ปาร์ค สระบุรี เมเจอร์ เซ็นทรัล พิษณุโลก เมเจอร์ เดอะ สกาย อยุธยา เมเจอร์ โรบินสัน กำแพงเพชร เมเจอร์ โรบินสัน สระบุรี เมเจอร์ โลตัส กำแพงแสน เมเจอร์ โลตัส นครปฐม เมเจอร์ โลตัส นครสวรรค์ เมเจอร์ โลตัส พิจิตร เมเจอร์ โลตัส พิษณุโลก เมเจอร์ โลตัส สามพราน เมเจอร์ โลตัส สุพรรณบุรี เมเจอร์ โลตัส อู่ทอง เมเจอร์ โลตัส อ่างทอง เมเจอร์ โลตัส เพชรบูรณ์ เมเจอร์ โลตัส โคกสำโรง เมเจอร์ ไชยแสง สิงห์บุรี
ภาคเหนือ
อีจีวี บิ๊กซี ลำพูนอีจีวี โลตัส อุตรดิตถ์อีจีวี โลตัส แม่สอด ไอแมกซ์ เลเซอร์ เมเจอร์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เมเจอร์ มาร์คโฟร์ แพร่ เมเจอร์ โลตัสพะเยา บิ๊กซี น่าน เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เมเจอร์ บิ๊กซี ลำปาง เมเจอร์ บิ๊กซี เชียงราย เมเจอร์ พะเยา เมเจอร์ ศรีพงษ์พาร์ค อุตรดิตถ์ เมเจอร์ เซ็นทรัล เชียงราย เมเจอร์ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เมเจอร์ แจ่มฟ้า ลำพูน เมเจอร์ โลตัส จอมทอง
ภาคใต้
ไดอาน่า ซีนีเพล็กซ์ หาดใหญ่อีจีวี โลตัส นครศรีธรรมราชอีจีวี โลตัส สงขลาอีจีวี โลตัส สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เมเจอร์ บิ๊กซี ยะลา เมเจอร์ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ฉลอง ภูเก็ต เมเจอร์ โลตัสหาดใหญ่ เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย เมเจอร์ บิ๊กซี ปัตตานี เมเจอร์ บิ๊กซี พังงา เมเจอร์ บิ๊กซี ระนอง เมเจอร์ บิ๊กซี สิชล เมเจอร์ สหไทย ทุ่งสง เมเจอร์ สหไทย นครศรีธรรมราช เมเจอร์ สหไทย สุราษฎร์ธานี เมเจอร์ โลตัส จะนะ เมเจอร์ โลตัส ประจวบคีรีขันธ์ เมเจอร์ โลตัส พัทลุง เมเจอร์ โลตัส สตูล เมเจอร์ โอเชี่ยน ชุมพร โลตัส กระบี่ โลตัส สมุย
ภาคตะวันตก
บลูพอร์ต ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ ทีเอ็มเค กาญจนบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี ราชบุรี เมเจอร์ หัวหิน เมเจอร์ โรบินสัน เพชรบุรี เมเจอร์ โลตัส บ้านโป่ง เมเจอร์ โลตัส ราชบุรี
ภาคตะวันออก
จันทบุรี ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ บิ๊กซีบ่อวิน เซ็นทรัล ระยอง เมเจอร์ ฉะเชิงเทรา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ บิ๊กซี ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี จันทบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี ชลบุรี เมเจอร์ บิ๊กซี วังน้ำเย็น เมเจอร์ บิ๊กซี สัตหีบ เมเจอร์ พัทยา เมเจอร์ โลตัส มาบตาพุด เมเจอร์ โลตัส อมตะนคร เมเจอร์ โลตัส แกลง เมเจอร์ โลตัสบ้านสวน ศรีราชา ซีนีเพล็กซ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อีจีวี บิ๊กซี คำตากล้าอีจีวี บิ๊กซี น้ำยืนอีจีวี บิ๊กซี บ้านดุงอีจีวี บิ๊กซี อุดรธานีอีจีวี โลตัส พิมาย โคราช ซีนีเพล็กซ์ เมเจอร์ บิ๊กซี ปากช่องเมเจอร์ โลตัส ขอนแก่นเมเจอร์ ซีนีเพล็ก โลตัส นาดีเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ Major Lotus Det Udom เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ บิ๊กซี ชัยภูมิเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โลตัสขอนแก่น เมเจอร์ บิ๊กซี ด่านขุนทด เมเจอร์ บิ๊กซี นครพนม เมเจอร์ บิ๊กซี บุรีรัมย์ เมเจอร์ บิ๊กซี บ้านไผ่ เมเจอร์ บิ๊กซี พังโคน เมเจอร์ บิ๊กซี ร้อยเอ็ด เมเจอร์ บิ๊กซี สุวรรณภูมิ เมเจอร์ บิ๊กซี หนองกี่ เมเจอร์ บิ๊กซี โคราช 2 เมเจอร์ สุรินทร์ พลาซ่า เมเจอร์ อัศวรรณ หนองคาย เมเจอร์ เซ็นทรัล อุดรธานี เมเจอร์ เซ็นทรัล อุบลราชธานี เมเจอร์ แฟรี่ พลาซ่า ขอนแก่น เมเจอร์ โรบินสัน ชัยภูมิ เมเจอร์ โรบินสัน มุกดาหาร เมเจอร์ โรบินสัน ร้อยเอ็ด เมเจอร์ โรบินสัน สกลนคร เมเจอร์ โลตัส พยัคฆภูมิพิสัย เมเจอร์ โลตัส พล เมเจอร์ โลตัส พิบูลมังสาหาร เมเจอร์ โลตัส ยโสธร เมเจอร์ โลตัส ศรีสะเกษ เมเจอร์ โลตัส หนองบัวลำภู
ผู้ชมทั้งหมด
31,570 ครั้ง
ความยาวหนัง
115 นาที
ผู้กำกับ
ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล
ประเภทหนัง
หนังดราม่า

หนัง Maebia - แม่เบี้ย

YouTube Thumbnail
เรื่องย่อหนัง

หนัง Maebia หรือชื่อไทยว่า แม่เบี้ย แม่เบี้ย ภาพยนตร์จากบทประพันธ์ของวาณิช จรุงกิจอนันต์ บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชนะชล หนุ่มนักธุรกิจที่เดินทางมาทัวร์ชมบ้านทรงไทยริมน้ำที่จังหวัดสุพรรณบุรี จนมาพบกับ เมขลา ไกด์สาวและเจ้าของบ้านเรือนไทย นำมาสู่ความสัมพันธ์ต้องห้ามเพราะชนะชลมีครอบครัวอยู่แล้ว และความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในบ้านเรือนไทยนั้นคือ งูยักษ์ ที่คอยออกมาปรากฎกายทุกครั้งเพื่อเตือนเมขลาถึงความดำมืดแห่งราคะและไฟโลกีย์

เข้าฉาย
17 กันยายน 2558
ออกโรงแล้ว

รีวิววิจารณ์หนัง

23 กันยายน 2558 13:47:35

แม่เบี้ย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล / Thailand / 2015)

ยอมนั่งรอ 2 ชั่วโมงเพื่อจะดูหนัง  พลางหยิบ Starpics เล่มล่าสุดที่มีบทสัมภาษณ์ของหม่อมน้อยขึ้นมาอ่านรอ  ความอยากดูหนังเพิ่มมากขึ้นทวีคูณตั้งแต่อ่านบทสัมภาษณ์ได้เพียงย่อหน้าแรกที่ผู้กำกับบอกเล่าถึงการตีความใหม่ในมุมมองที่ไม่มีใครเคยเอื้อมหยิบมาถ่ายทอดซึ่งน่าสนใจทั้งในเชิงประเด็น  วิธีการใหม่ๆ  และความย้อนแย้งหลายๆ อย่างที่ตามมาในบทสัมภาษณ์ช่วงท้ายๆ  ทำให้ตลอดการดูหนังสนุกมากขึ้น  เมื่อเกิดการเทียบเคียงบทสัมภาษณ์กับหลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนที่เป็นผลลัพธ์ปรากฏให้ได้เห็น บนจอหนัง  จากหนังดราม่า  อีโรติก  งูยักษ์สะเทือนขวัญ?!! ก็กลายเป็นหนังที่ดูแล้วอมยิ้มไปทั้งเรื่องได้อย่างร้ายกาจ  เครื่องมือที่เลือกมาเล่าหลายๆ อย่างก็แปลกไปจากหนังเรื่องก่อนๆ ของหม่อมน้อยที่เคยดูมา  กลายเป็นส่วนผสมที่แปลกตาจนทำให้รู้สึกว่า แม่เบี้ย 2015 นี้  มันอินดี้ยิ่งกว่า หนัง ฟรีแลนซ์  ห้ามป่วย...ห้ามพัก...ห้ามรักหมอ  ของ เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เสียอีก  เพราะมีเครื่องมือหลายอย่างในแม่เบี้ยที่รู้สึกว่าหม่อมเพิ่มเติมจากขนบเดิมของหนังตัวเอง  ซึ่งพอมันไม่ค่อยเข้ากันมันก็รู้สึกเหมือนว่าหม่อมทำหนังไปตามอารมณ์และความนึกคิดส่วนตัว  ตั้งแต่การตีความให้งูเป็นงูยักษ์ให้มีทั้งความน่ากลัวและน่ารักแล้วล่ะ  ทั้งที่ก็คงรู้ว่าเงินไม่เอื้อให้ได้งูยักษ์ที่สมจริงไปมากกว่าจะได้ผลตอบรับจากคนดูที่ได้ยินขณะนั่งดูอย่างเสียงดังชัดถ้อยชัดคำว่า "งูเหมือนหมาจัง" พร้อมกับเสียงหัวเราะของผู้ชมอื่นๆ ตามมา  กลิ่นของความอินดี้ไม่สนใครก็เลยแผ่ซ่านมากๆ  แต่น่าเวทนาที่ความพยายามไม่เป็นผลดี  ขณะที่หนังฟรีแลนซ์ฯนั้นนวพลพยายามบาลานซ์เข้าหาคนดูกระแสหลักมากกว่า

ตั้งแต่การใช้ Inter Title บอกซีเควนซ์ไล่เรียงวันเวลา  และการใช้ฟอนต์ที่ดูขัดกับหนังบอกเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ (พอมีอยู่ในหนังของหม่อมน้อยแล้วอาจจะไม่คุ้นชินเอง) ส่วนเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าหนังมันเชื่องช้ามากขึ้นซึ่งในช่วงหนึ่งมันดีในความรู้สึกของเรา  คล้ายกับนับย้อนหลังบอกวันเวลาที่ผ่านไปของชีวิตไม่กี่วันสุดท้ายของชนะชล  และนำพามาถึงฉากบอกเล่าความสำเร็จของพ่อลูกใจบาปบนดาดฟ้าในเวลา 18.00  ถ้าช่วยแถไปอีกคือมันช่วยให้ความรู้สึกว่าเวลามันคืบคลานอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเหมือนกับการคืบคลานของงูที่เป็นตัวตัดสินความเป็นความตายของคนบาปทุกคนในหนังเรื่องนี้  แต่พอเวลาผ่านไปมันเหมือนมีมาเพื่อเสริมความไม่มีอะไรของเนื้อหนังให้มีอะไรก็เท่านั้น  การใช้ตากล้องโฆษณา  ถ่ายกล้องแฮนด์เฮลด์ในฉากออฟฟิศเพื่อให้ดูเป็นบรรยากาศสมัยปัจจุบัน(ตามจุดประสงค์ที่อ่านจากบทสัมภาษณ์)  ก็น่าเศร้าที่ผลลัพธ์กลับเหลือแค่ความรู้สึกที่ว่าคนทำหนังไม่ปรานีตกับฉากนี้เพราะมันไม่ได้ดูจะขับเน้นความทันสมัยหรือเพิ่มอารมณ์บรรยากาศอะไรให้ดีงามเลย  จากฉากในออฟฟิศหรูหรากลายเป็นฉากเดินข้ามสะพานลอยได้อย่างน่าทึ่ง  ความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาให้พาตลกคือหม่อมอาจจะเจียดเงินไปทำงูยักษ์จนไม่พอจ้างสเตดี้แคมก็เป็นได้  จุดนี้ทำให้เราต้องหัวเราะออกมาขณะที่เหลือบมองคนดูข้างๆ ที่นั่งขมวดคิ้ว  ความอินดี้ของหม่อมก็มีอยู่ประมาณนี้แล...

ถึงหม่อมน้อยจะดูอินดี้มากขึ้น(ในความหมายคือความพยายามลองอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคย(ไม่ค่อย)ได้ทำจากขนบของหนังตัวเอง)  แต่ลายเซ็นหลายๆ อย่างก็ยังอยู่อย่างครบถ้วน   แฟนหนังของหม่อมที่โปรดปรานสุนทรียภาพแบบหม่อมๆ คงไม่ผิดหวัง  ทั้งเซ็กส์ซีนหวือหวาท่วงท่าอย่างม้าคึกที่แอบซ่อนรายละเอียดความงามอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้อย่างมิดชิด  ภาพสโลว์โมชั่นเส้นกระตุกซึ่งเกินครึ่งของที่มีอยู่ในหนังนั้นก็ไม่รู้ว่าจะสโลว์ไปทำไม  ภาพแตกๆ ที่พอมาเห็นในเรื่องนี้ซ้ำจากครั้งก่อนอย่างใน แผลเก่า (2014) ก็เริ่มคิดบ้างแล้วว่าบางทีหม่อมอาจจะตั้งใจใช้ก็เป็นได้  แต่เพื่ออะไร?!!  การมีนักแสดงรับเชิญมากหน้าหลายตาเหมือนเดิมจนไม่แน่ใจว่าใครคือ Cameo ตัวจริงที่ตั้งใจมีมาเพื่อขับเน้นพลังในโมเมนต์นั้นๆ ของหนัง  สำหรับเรื่องนี้นักแสดงที่ชวนเซอร์ไพรส์เล็กๆ ก็มีทั้ง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต  นักแสดงเด็กปั้นที่ปั้นจนแข็งเป็นซีเมนต์  ซึ่งคนที่เห็นได้ชัดที่สุดในเรื่องนี้คือ ฮัท-จิรวิชญ์ พงไพจิตร หนุ่มจากบ้าน The Star สถาบันในเครือโรงเรียนหม่อมกับบท ภาคภูมิ ตัวละครสมทบที่เป็นตัวสำคัญมากในเรื่อง  ที่พ่วงด้วยตำแหน่งนักร้องเพลงประกอบซึ่งก็ถ่ายทอดได้แข็งทื่อพอกัน  รวมถึง เนตรดาว-ภัทรนันท์ รวมชัย ที่ดูเนียนเป็นหญิงแท้มาตลอดจากเรื่องก่อนๆ ของหม่อมน้อย  จนเราแยกไม่ออกและมารู้ขณะเขียนนี้เองว่าเธอเคยประกวดมิสทิฟฟานี่มาก่อน  โดยเฉพาะในเรื่องนี้ที่เธอรับบทเป็น ไหมแก้ว เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของพระเอก  เป็นหญิงแท้มีลูกมีผัวซึ่งพอยู่เฉยแล้วน่าดูชมไม่เบา  แต่ด้วยวิธีการแสดงที่ดูไม่เป็นธรรมชาติทำให้ไม่รอดพ้นกรอบพยายามปั้นของผู้กำกับ  และ อ้อม-กานต์พิสชา เกตุมณี  ในบทบาท เมขลา พลับพลา นางเอกของเรื่องที่ถึงแม้อดีตรองนางสาวไทยคนนี้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกและเสน่ห์ดึงดูดตามตัวละครอย่างเหมาะเจาะ  แต่ก็เป็นบทบาทที่ต้องอาศัยทักษะการแสดงสูงลิ่วซึ่งยังดีไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดเมขลาให้น่าเชื่อและน่าหลงใหลได้อย่างเป็นธรรมชาติมนุษย์  นอกจากนั้นยังรวมไปถึงนักแสดงสมทบกับบทเล็กๆ ที่ไม่เข้ากับบทบาท  ที่เห็นได้ชัดในเรื่องนี้คือลูกน้องที่ถูกใช้ให้ไปฆ่างู  ซึ่งหน้าตาหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาของหนุ่ม ตั้ม และ อ้น The Star ที่มารองรับบทนี้ได้ลดทอนความน่าเชื่อไปหมดสิ้น  ส่วนรุ่นใหญ่รับเชิญอย่าง  รัดเกล้า อามระดิษ และ เกรียงไกร อุณหนันทน์  ก็ยังไม่รอด  เพราะนอกจากจะเล่นใหญ่แบบรัชดาลัยเสิร์ฟถึงที่แล้ว  วิธีการกำกับการเลือกเล่าด้วยภาพของหม่อมน้อยโดยเฉพาะช็อตตกใจช็อตนั้นยังมากล้นด้วยพลานุภาพชนิดที่สามารถส่งตรงการแสดงอันใหญ่ยิ่งไปไกลถึงดาวพลูโตโดยไม่ต้องส่งผ่านดาวเทียม  สำหรับ แจ๊บ-เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล ก็ให้การแสดงที่ไม่มากไม่น้อยแต่ก็เรียบนิ่งไปหน่อยจนขาดมิติ  และดูเลวร้ายพอกันเมื่อถูกจับมาโกรกผมขาวแต่งแก่ดึงดันให้เข้ากับบทบาท  ราวกับหลุดมาจากหนังนักศึกษาที่เอาเพื่อนมาเล่นเป็นพ่อแม่ลูกลุงป้าน้าอากันเองโดยไม่ได้ใส่ใจความสมจริงใดๆ ซึ่งน่าให้อาจารย์จับตีก้นเป็นที่สุด

ที่พอเหลือรอดมาได้ก็มีเพียง ชาคริต แย้มนาม พระเอกที่ดูมีเลือดเนื้อธรรมชาติซึ่งบทบาทก็ไม่ได้เอื้อให้ทำอะไรที่หนีไปจากคาแร็กเตอร์ตัวเองนอกเสียไปจากการนิ่งขรึมตลอดเรื่อง  แต่ก็เอาตัวรอดได้ด้วยการแสดงออกทางสายตาที่บ่งบอกอารมณ์  และ แม็กกี้-อาภา ภาวิไล ที่เล่นเป็นแม่นางเอกเมขลาที่มาทั้งในพาร์ตของหญิงลึกลับในฝันพระเอกและผีสาวสวยที่ยังคงวนเวียนอยู่  ถึงบางช็อตบางฉากจะออกอาการประหลาดอยู่บ้าง  แต่แม็กกี้ก็สร้างแรงดึงดูดให้น่ามองน่าชมได้ตลอด  นี่ยังไม่นับกับการลงทุนอวดยอดปทุมถันซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ได้จ้องดูชมกันนะ  การแสดงที่ดีงามที่สุดในหนังตกมาอยู่ที่นักแสดงสมทบกับบทเล็กๆ แต่เปี่ยมความเป็นมนุษย์ปุถุชนได้อย่างน่าจดจำ เน็ต-กานดา วิทยานุภาพยืนยง นักแสดงสาวกับบทเมียผู้แสนดีและเข้าใจโลกของพจน์ (ต๊อบ-ชัยวัฒน์ ทองแสง) ซึ่งเธอปรากฏตัวเพียง 2-3 ฉาก  เป็นตัวละครเดียวในห่วงโซ่กามสัมพันธ์นี้ที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยให้เห็นมุมบาป  ทำให้เอ๊ะ!! ขึ้นมาว่า...หรืออาจจะเป็นไดเรคชั่นของหม่อมน้อยเองที่ออกแบบให้ตัวละครคนบาปอื่นทั้งหลายดูไม่ธรรมชาติไม่เป็นคนกันนะ  ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

ส่วนตัวยังไม่เคยอ่านแม่เบี้ย  แต่ก็เป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่หลายๆ คนแนะนำให้อ่าน  เคยดูหนังเวอร์ชั่นขูดมะพร้าวนมทะลักแต่ก็จำเนื้อหาสาระไม่ค่อยได้แล้ว  จำได้จนเป็นภาพติดหัวเลยก็คือฉากคอขาด  ก็จะขอพูดถึงประเด็นเนื้อหาเฉพาะแค่ที่ได้เห็นจากหนังของหม่อมน้อยนี้เลยแล้วกัน  รวมถึงพิจารณาควบคู่ไปกับบทสัมภาษณ์ที่ได้อ่านมา  หม่อมน้อยให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นโลกของวัตถุและโลกของจิตใจ  เก่าและใหม่  การลืมรากกเหง้า  แต่พอตัวละครพระเอก-นางเอกมันถูกให้เหตุผลอธิบายความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วว่าเป็นเพราะความผูกพันเกี่ยวข้องแต่นานเนาหรือผลบาปกรรมที่บรรพบุรุษเคยร่วมก่อกันมา  ผ่านปรากฏการณ์เดจาวู(Déjà vu) ทำให้เรื่องราวมันมีมิติทางความคิดและอารมณ์ความรู้สึกน้อยลง  กลายเป็นการสร้าง Execution (หรือประมาณว่าสถานการณ์หรือการกระทำที่นำมาเล่าขยายอารมณ์ ความรู้สึก บรรยากาศของลักษณะตัวละครและเหตุการณ์)  ที่ลดทอนความใกล้ชิดระหว่างคนดูกับตัวละครที่จะค่อยๆ รู้จักและเข้าถึงผ่านพัฒนาการตัวละครที่เกิดจากการตั้งคำถาม  การดีเบต  และการดิ้นรนต่างๆ นานา  มีแต่นมและบั้นเอวอันโดดเด่นที่ดึงดูดตัวละครให้เพรียกหารากเหง้า  ทั้งหมดที่เห็นไม่ได้มีพลังสร้างความน่าหลงใหลใคร่ติดตามได้มากเท่าที่เรื่องราวมันสามารถนำพาไปสู้ความรู้สึกใกล้ชิดนั้นได้  ยิ่งรวมกับสไตล์การเล่าแบบหม่อมน้อยนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าคนดูจะสามารถเข้าอกเข้าใจตัวละครระดับลึกซึ้งได้หรือไม่  แทนที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดทัศนคติและจิตใจของตัวละครไปตามสถานการณ์แวดล้อมให้เราได้รู้สึกตามแต่ส่วนเหล่านี้กลับถูกกำกับด้วยการปลดล็อคความคิดความรู้สึกผ่านเดจาวู  ล้ำมั้ยล่ะ!!?  ทำให้ทุกสัดส่วนของ Execution นั้นดูประดักประเดิด คลิเชและน่าเบื่อโดยอัตโนมัติ  อย่างเช่น เอะอะก็แก้วแตก  เอะอะก็จะเอาๆ นั่นแหละ  และบางอย่างก็หลงทางกับธีมเรื่อง อย่าง บรรยากาศห้องหุ่นหลอนๆ ที่ให้ความหมายความรู้สึกไปในทางลบมากกว่าจะรู้สึกว่าผู้กำกับกำลังเล่าถึงรากเหง้าอันดีงามน่าค้นหาของความเป็นไทยซึ่งทำให้สับสนได้  โดยรวมทั้งเรื่องมันก็ยิ่งเหมือนกับบั้งไฟวี้ดปั้งน่ะ(น่าจะเรียกถูกนะ)  ที่ตอนจุดก็ซู่ๆๆๆ มีแต่ควัน  พอติดดินปืนแล้วก็พุ่งแหวกอากาศวี้ดดดดดด!!ขึ้นไปให้เสียงแสบแก้วหูก่อนจะแตกปั้ง!!ในไคลแม็กซ์  แต่ไปปั้งบนฟ้าซะไกลเลยมันก็เอื้อมตามไม่ถึงแล้วได้แต่อยู่ห่างๆ  สุดท้ายก็ทิ้งไว้แต่เสียงวิ้งในหูจากเสียงวี้ดดดดด!!ที่มันดังให้รำคาญ

***ย่อหน้านี้สปอยล์***  แล้วพอถึงจุดเปลี่ยนสำคัญท้ายเรื่องในซีเควนซ์ฉากไคลแม็กซ์ก็ดูสองแง่สองง่ามในการเข้าใจความคิดของตัวละครเมื่อพระเอกชนะชลถูกไหมแก้วเมียในสมรสประชดจี้ใจดำขึ้นเตียงกับภาคภูมิลูกน้องคนสนิท  แต่ในเมื่อชนะชลไม่แคร์เมียที่บ้านเป็นทุนเดิมมันก็เลยเกิดการไม่เข้าใจว่ามันจะเศร้าเสียใจกระทั่งตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่ออะไร  หรือถ้าแคร์นางเอกมากๆ เหตุการณ์ที่เห็นนี้ก็น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีในการตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับเมียได้ง่ายขึ้น  แล้วหันกลับไปอธิบายตามง้อนางเอกที่หลงใหลได้ปลื้มได้โดยไม่มีพันธะอะไรหลงเหลืออยู่กับเมียเก่า   คือมันก็สามารถไปทางจุดจบอย่างที่หนังเป็นก็ได้แหละ  แต่พอมันขาดการดีเบตนึกคิดของตัวละครแล้วมันเกิดช่องโหว่ให้เราคิดหนทางที่ดีกว่าให้ตัวละครได้ไม่ใช่แค่ให้มีจุดจบอย่างที่ธีมหนังตั้งเป้าซึ่งก็ดูเหมือนจะหลงทาง  แล้วจะเอาอะไรกับฉากเล็กๆ ที่ชนะชลบอกกับเมขลาว่าแต่เดิมตนเองชื่อพินิจ(ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่า)  แต่พ่อกับแม่ตั้งให้ใหม่เป็น ชนะชล เพื่อแก้เคล็ดหลังเหตุการณ์จมน้ำตอนที่ชนะชลเพิ่งจะ 2 ขวบได้  คือในเมื่อมีคำยืนยันจากปาก ลุงทิม (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) ว่าเด็กที่จมน้ำในวันนั้นหายสาบสูญ  นั่นก็แสดงว่าแหล่งข้อมูลที่จะรู้ชื่อเดิมของชนะชลได้คือลุงทิมนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเด็กมันรอดตาย  แล้วพ่อกับแม่ใหม่ที่ช่วยชีวิตชนะชลขึ้นมาจากน้ำจะรู้จักชื่อเดิมของชนะชลได้ยังไง

ส่วนประเด็นการเมืองจิกกัดมันก็ดูแปลกความรู้สึกไปจากที่เคยดูมาในหนังของหม่อมน้อยนะ  ซึ่งคราวนี้เครื่องมือที่จับใส่เข้ามาเล่าเรื่องราวมันจะชวนให้เราหลงทางได้ง่ายๆ เลย  โดยเฉพาะซีนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเมืองอย่างชัดเจนที่มีเพลง วันพรุ่งนี้ (ที่เนื้อท่อนแรกร้องว่าจำได้ไหม ตายายยังจำได้ไหม...แล้วปิดท้ายด้วยเพลงสามัคคีชุมนุมน่ะ) ในยุค ค.ส.ช. ปัจจุบัน คลอตลอดซีน  แถมยังเป็นซีนเดี่ยวของตัวละครสมทบหลักบาปหนาอย่างพจน์ที่เป็นลูกชายนักการเมืองที่เพิ่งประกาศว่ากำลังจะลงสมัครเลือกตั้ง  แต่ชีวิตส่วนตัวนั้นติดอยู่ในกลกามเมขลา  และเป็นคนไร้ความรับผิดชอบต่อการกระทำและหน้าที่  พูดง่ายๆ ก็คือเลวนั่นแหละ  สุดท้ายถูกปิดฉากด้วยการโดนงูรัดตายอย่างอนาจ  ถึงจะค่อนข้างมั่นใจว่าหม่อมน้อยใส่เพลงนี้มาเพื่อเป็นแบ็กกราวด์เล่ายุคสมัยปัจจุบันก็แค่นั้น  แต่ฟังก์ชั่นทางอ้อมที่เกิดขึ้นขณะดูซีนนั้นๆ มันย้อนแย้งมากๆ  เมื่อทำให้เรารู้สึกแต่แรกว่าหม่อมจะเล่าว่าพจน์และพรรคการเมืองชูไทยนี้อยู่ฝั่งค.ส.ช.  ซึ่งสมควรที่จะมีจุดจบแบบนั้น!!! ประหลาดมาก!!!  หรืออีกมุมหนึ่งคือหม่อมน้อยก็ไม่ได้จะโปรการเลือกตั้งอะไรหรอก  พรรคชูไทยก็คือเพื่อไทยนี่แหละ  แต่มีเพลงในยุคค.ส.ชเพื่อบอกว่าเราทำตามสัญญาแล้วนะ  จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วนะ(นี่มันหนังยูโทเปียนี่!!!)  แล้วพจน์คือตัวแทนนักการเมืองเลวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ค.ส.ช.หลีกทางให้มีการเลือกตั้งและการตายของพจน์ก็คือตัวอย่างของความสมควรหรือไม่สมควรตาย  สมควรจะได้รับการเลือกตั้งหรือไม่สมควร  นักการเมืองบาปที่ถูกความดีงามซึ่งแทนด้วยงูยักษ์ที่มักจะปรากฏตัวออกมาเมื่อเกิดกิจกามารมณ์ผิดศีลธรรม  และท้ายที่สุดความดีงามอย่างงูยักษ์ก็ไม่กลืนกินนักการเมืองชั่วอย่างพจน์  พอได้คิดไปๆ มาๆ ก็น่าจะเป็นอันหลังมากกว่าซะแล้วมั้ง  แค่คงลืมว่างูแม่งลอกคราบได้!! โอเคปกติเหมือนเดิมแล้ว

อย่างที่หม่อมน้อยผู้กำกับได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า  “แม่เบี้ย ไม่ใช่นิยายธรรมดาที่พูดเรื่องความรักของตัวละคร  คุณวาณิชเอาความอีโรติก  ความลับของงู  ความลึกลับของเรือนไทยมาเป็นเปลือกนอก”  หนังของหม่อมก็เช่นกัน  แต่กล่าวคนละนัยคือ  แม่เบี้ย ไม่ใช่หนังธรรมดาที่พูดเรื่องความรักของตัวละคร  หม่อมน้อยเอาความอีโรติก  ความลับของงู  ความลึกลับของเรือนไทยมาเป็นเปลือกนอก  และนอกจากนั้นก็แทบไม่มีเนื้อหนังอะไรเพิ่มมาจากต้นทุนวรรณกรรมเดิมเลย  แถมกระพี้ปี้ปล้ำอะไรก็ไม่ได้งดงามด้วยน่ะสิ  คำพูดของตัวละครลุงทิมที่พูดประมาณว่า  ถ้าเชื่อว่ามันมีจริงมันก็จริง  ถ้าเชื่อว่ามันไม่จริงมันก็ไม่จริง เป็นธีมโควตที่ใช้บอกการมีอยู่ของเนื้อหนังได้เป็นอย่างดีที่สุดแล้ว

รอดูว่าข้างหลังภาพ  และ บัลลังก์เมฆ ที่แอบหยอดผ่านเพลงเข้ามาในหนังจะเป็นวรรณกรรมที่หม่อมน้อยจะหยิบมากระทำชำเราเป็นเรื่องถัดไปหรือเปล่า

บทหนัง
3
การดำเนินเรื่อง
2.5
ดนตรีประกอบ
2
ฝีมือนักแสดง
5.5
กราฟฟิก
3
คะแนนเฉลี่ย
3.2
21 กันยายน 2558 23:12:59

แม้หน้าหนังจะพยายามขายความร้อนแรงและความลุ่มหลงในกามารมณ์ แต่เอาเข้าจริงแล้วแม่เบี้ยเวอร์ชั่น2015 ในมุมมองของม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล จะตีความเน้นลงไปที่การสืบหารากเหง้าทางอัตลักษณ์ของตัวละครเอกอย่างชนะชล หนุ่มนักธุรกิจที่ผ่านการไปชุบตัวให้ศิวิไลซ์ทั้งในแง่การศึกษาที่มีดีกรีจบนอก และการันตีชีวิตชนชั้นสูงบนห่วงโซ่ลำดับชั้นของระบอบทุนนิยมด้วยการเป็นนักธุรกิจใหญ่นั่งแท่นบริหารบริษัทยักษ์ใจกลางเมืองหลวง มีบ้านหรูตกแต่งด้วยสุนทรียะรสนิยมแบบตะวันตก มีลูกและภรรยา ชีวิตราวกับเพียบพร้อมแต่กลับรู้สึกขาดหายเว้าแหว่งอะไรบางอย่าง ชีวิตที่มีแต่องค์ประกอบร่วมสมัยในเมืองกรุงและเมืองนอกกลับโหยหาอะไรบางอย่างกับความเป็นไทยโบราณ เมื่อเขาอยากได้บ้านทรงไทยสักหลัง

การอยากเป็นเจ้าของบ้านไทยโบราณสักหลัง บ้านไทยโบราณในแบบที่เป็นบ้านจริงๆ ในแง่ที่มีอายุอานาม ผ่านการอยู่อาศัยมาหลายชั่วชีวิตและหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณความเป็นไทยบางอย่าง ทำให้ชนะชลได้พบกับเมขลา หญิงสาวสวยความสามารถพอตัวที่ทำธุรกิจทัวร์เที่ยวชมบ้านเรือนไทยโบราณซึ่งก็คือการพาลูกทัวร์ไปชมบ้านไทยโบราณของเธอจริงๆที่มีคุณลักษณะตรงตามที่ชนะชลปราถนาลึกๆ ทุกประการ ในขณะที่ชนะพลตกอยู่ในอำนาจของความลุ่มหลงทางกามารมณ์ในตัวเมขลา ทว่าความปราถนาลึกๆ ที่เย้ายวนและทำให้เขาหยุดไปเยือนบ้านไทยโบราณของเมขลาไม่ได้สักที กับเป็นความรู้สึกพิเศษพิศดารบางอย่างที่ทำให้เขาผูกพันกับบ้านหลังนั้น บุคคลในภาพถ่ายติดผนัง เขาบอกว่าบ้านหลังนั้นช่างทำให้เขาสบายใจจนอยากกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

และนี่คือสิ่งที่ทำให้หนังแม่เบี้ยเวอร์ชั่นนี้มีกามารมณ์เป็นเพียงตัวหลอกล่อเอาเงินคนดูเสียยิ่งกว่าตัวอย่างแมสของหนังที่ไม่เห็นจะแมสเลยอย่างฟรีแลนซ์ เพราะเอาเข้าจริงฉากรักทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ล้วนเต็มไปด้วยความแข็งทื่อทางอารมณ์ และทำเหมือนแค่ให้มันมีและผ่านๆ ไป ตัวละครไม่ได้มีความลุ่มหลงต่อเซ็กซ์เท่ากับความกระเหี้ยนกระหือรืออยากตามหารากตัวเองฉันใด แพสชั่นของตัวผกก.ก็แห้งแล้งฉันนั้น ในที่นี่ไม่ได้หมายถึงสารที่ผกก.พยายามจะสื่อนั้นเป็นสารที่ใช้ไม่ได้ หากแต่มันช่างแยกขาดจากบริบทของหนังที่ชูคอแผ่แม่เบี้ยว่าข้าคือหนังอีโรติก ที่เราจะคาดหวังว่าในความละเมียดละไมเชิงกามารมณ์จะสามารถล้อไปกับแก่นที่เรื่องอยากจะเล่าได้อย่างกลมกล่อมเพียงใด

ท้ายที่สุดสิ่งที่คงไม่เขียนถึงไม่ได้คือสิ่งมีชีวิตที่แผ่แม่เบี้ยในหนังที่แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าเราจะสามารถเห็นได้ในโรงภาพยนตร์สำหรับหนังที่สร้างในปี2015 งูเห่าหรือ "คุณ" ในหนังล้มเหลวโดยสิ้นเชิงทั้งสุนทรียะความเป็นซีจีละครช่องเจ็ด และในแง่สัญลักษณ์ที่ให้ความเป็นญาติผู้ใหญ๋ที่แสะงออกทางอารมณ์ความรู้สึกที่เกินงามและประดักประเดิด แสนจะไม่นำพาเหลือเกิน เฉกเช่นเดียวกับฉากเซ็กซ์แข็งๆ นักแสดงหน้าตาดีบางคนที่เล่นแข็งๆ สิ่งดีงามที่สุุดอย่างเดียวในหนังเรื่องนี้อาจเป็นความงามสะกด(ที่แม่อาร์ตไดเร็กชั่นจะรีเจนซี่เหลือเกิน)ของคุณโกสุม แม็กกี้ อาภา ที่น่าเสียดายเหลือเกินเช่นกันที่เธอถูกใช้อย่างค่อนข้างจะเสียของ

บทหนัง
4
การดำเนินเรื่อง
4
ดนตรีประกอบ
4
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
1
คะแนนเฉลี่ย
4

ความคิดเห็น (1)

ตอบกลับ

หนังภาพยนตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง