รีวิวหนัง In the Heart of the Sea - หัวใจเพชฌฆาตวาฬมหาสมุทร

In the heart of the sea เรื่องราวของเรือลำหนึ่งที่มีชื่อว่า "เอสเซกส์" กัปตันและลูกเรือได้ออกเรือมาเพื่อล่าปลาวาฬ แต่ดันต้องมาเผชิญกับปีศาจแห่งท้องทะเล ปลาวาฬหัวทุยขนาดยักษ์ มันได้เล่นงานเรือเอสเซกส์จนไม่เหลือชิ้นดี กัปตันและเหล่าลูกเรือต้องผจญกับสถานการณ์อันเลวร้าย รวมทั้งต้องหาทางเอาชีวิตรอดท่ามกลางความรุนแรงของโรคร้ายและความหิวโหย 

ตัวหนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ยันจบโดยการเล่าเรื่องของตัวละคร โดยเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่เรือเอสเซกส์ได้ออกเดินทางไปล่าปลาวาฬ ตัวหนังมีฉากแอคชั่นการล่าปลาวาฬที่น่าตื่นเต้นมาก และกราฟฟิกปลาวาฬทำออกมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ตัวหนังเน้นการดราม่าเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ ดูแล้วรู้สึกหดหู่เอามาๆ และแอบแฝงข้อคิดด้วย สำหรับนักแเสดงได้ Chris Hemsworth มารับบทนำของหนัง เรื่องฝีมือการแสดงคงไม่ต้องพูดถึง คริสถึงกับลดน้ำหนักลงเพื่อความสมจริงของหนัง สำหรับฉากที่ตัวเขาและลูกเรือคนอื่นๆ ล่องลอยอยู่กลางมหาสมุทรโดยไร้ซึ่งอาหารประทังชีวิต ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็เล่นได้ดีครับเขาถึงบทกันดูแล้วอินตามเลย ใครที่ชอบดูหนังแนวดราม่าๆ ผมแนะนำให้ดูเลยครับ สำหรับคะแนนผมให้ 8/10 ครับ

In the Heart of the Sea ดราม่าวาฬยักษ์

หลายคนอาจจะจำได้ว่า In the Heart of the Sea เดิมทีวางโปรแกรมฉายได้ต้นปีที่ผ่านมา แล้วหลังจากนั้นก็ถูกเลื่อนฉายมาเป็นปลายปีแบบสายฟ้าแลบ ซึ่งไม่ใช่เพราะเหตุผลอะไรที่เข้าใจยากนอกซะจาก ทางผู้สร้างเล็งเห็นว่าตัวหนังนั้นเหมาะสมที่จะฉายช่วงสิ้นปี (ซึ่งเป็นเทศกาลที่หนังหลายเรื่องเลือกฉายและมีเปอร์เซนต์ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆ มากกว่าหนังที่เข้าฉายช่วงต้นปีนั่นเอง)

ซึ่งตัวหนังจริงหลังจากที่ชม ในเรื่องตัววิธีการดำเนินเรื่องนั้นจะแบ่งเป็น 3 ช่วงชัดเจนคือ ช่วงแรก ท้าวความโดยให้ตัวละครที่ผ่านประสบการณ์ทั้งเรื่องมา เป็นคนเล่าให้ฟัง แรกๆ ก็มีการปูพื้นฐานของตัวละครหลักอยู่บ้าง จนกระทั่งออกเรื่อง ถึงจะเข้าสู่โหมดแอคชั่น ช่วงทีล่าวาฬอยู่นั้น เป็นอะไรที่ตื่นเต้นไม่ใช่น้อยๆ เพราะมีหนังน้อยมากที่จะตีแผ่วิธีการล่าวาฬได้ออกมาสนุก แต่ก็ไม่ได้สนุกจนคนดูไม่เห็นความโหดร้ายของมนุษย์ เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงแอคชั่นปนดราม่านิดๆ ตัวหนังก็จะดำเนินเรื่องไปถึงช่วงท้ายๆ ที่เน้นดราม่าเป็นหลัก ซึ่งเอาเข้าจริง ไม่สามารถที่จะขยี้คนดูให้รู้สึกกดดัน เอาใจช่วย หรือน้ำตาแตกได้ แถมแอบยืดหนังช่วงท้ายๆ อีกด้วย ถ้าทำให้กระชับกว่านี้น่าจะช่วยให้ตัวหนังดูสนุกขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่

ในงานด้านภาพสามมิติ ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของเรื่องนี้ เพราะใช้อัตราส่วนภาพแบบ 1.78:1 หรือ 16:9 ซึ่งถ้าชมในระบบ IMAX 3D เรียกได้ว่าภาพเต็มตา ดึงคนดูเข้าสู่ท้องทะเลสีครามได้เลยทีเดียว อีกทั้งยังมีระบบเสียงที่กระหึ่ม อัดแน่น ในแบบที่เรียกได้ว่าระบบปกติให้ความสะใจไม่ได้แน่ๆ ในด้านระบบ IMAX 3D ให้ 9/10 สำหรับระบบนี้

ส่วนตัวเนื้อเรื่อง วิธีการดำเนินเรื่องของ In the Heart of the Sea นั้นถือว่ายังสอบผ่านในด้านความบันเทิง แต่ในด้านแอคชั่น หรือดราม่านั้น ยังไปไม่สุดซักทาง ถ้าเป็นแฟนหนังที่ต้องการเสพความแอคชั่น คุณจะผิดหวังอย่างมาก เพราะแอคชั่นในเรื่องไม่ได้มีเยอะตลอดทั้งเรื่อง ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นบทของดราม่าซะมากกว่า ผมให้ 8/10 สำหรับเรื่องนี้