รีวิวหนัง Jack Reacher 2 - ยอดคนสืบระหํ่า 2

Reacher ภาคซีรี่ย์ ทำดีมากๆ มี 8ตอน

 รีชเชอร์ ยอดคนสืบระห่ำ เมื่ออดีตสารวัตรทหาร แจ็ค รีชเชอร์ได้ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมที่เขาไม่ได้ก่อ เขาได้ตกไปอยู่ท่ามกลางแผนร้ายที่เกี่ยวพันกับตำรวจจอมคดโกง นักธุรกิจที่มีเงื่อนงำ และนักการเมืองคิดไม่ซื่อ เขามีเพียงสติปัญญาเป็นอาวุธ และเขาต้องหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นในมาร์เกรฟ รัฐจอร์เจีย รีชเชอร์ ซีซันแรกนั้นสร้างมาจากหนังสือขายดีระดับนานาชาติ เดอะ คิลลิง ฟลอร์ โดย ลี ไชลด์ เข้าไปดูหนังออนไลน์ฟรีที่ FM2PLAY ซีรี่ย์บู๊แอคชั่นสุดมันส์ เมื่ออดีตสารวัตรทหาร แจ็ค รีชเชอร์ได้ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมที่เขาไม่ได้ก่อ เขาได้ตกไปอยู่ท่ามกลางแผนร้ายที่เกี่ยวพันกับตำรวจจอมคดโกง

Jack Reacher Never go Back ระห่ำขึ้น บนความซ้ำซาก

อีกครั้งทีเฮียทอมครูซ กลับมารับเล่นบทเดิม ในหนังที่(ไม่คิดว่าจะมีภาคต่อแล้ว) อย่างเรื่อง Jack Reacher ที่ภาคแรกเข้าฉายไปเมื่อปี 2012 กับคำวิจารณ์และรายรับที่ พอถูไถไปได้ ไม่ขาดทุน

ซึ่งเอาจริงๆเรื่องนี้ปิดข่าวในการถ่ายทำไว้อย่างมาก แม้กระทั่งรูปหลุดจากกองถ่าย หรือ Stills ภาพจากหนัง ในช่วงก่อนที่เข้าฉาย ทางค่ายหนังปล่อยออกมายั่วน้ำลายน้อยมาก เรียกได้ว่า แทบไม่มีการคลายพล็อตออกมาเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงตัวอย่างหนังเองก็ไม่บอกพล๊อตอะไรเลย

พอได้เข้าไปชมจริงในโรง ตัวหนังโดยรวมถือได้ว่า มีเซอร์ไพร์เรื่องพล๊อต เยอะมากอยู่พอสมควร แต่! เนื้อเรื่องนั้น ซ้ำซากจำเจ คาดเดาได้ง่ายไปหมด ซึ่งภาพยนตร์แนวสายลับเรื่องอื่นๆ เค้าก็ทำกันไปหมดแล้ว Jack Reacher Never go Back ก็เรียกได้ว่า จับเอาของเรื่องนั้น ผสมเรื่องนี้ นำมาใส่ความดิบ ความสมจริง ความเถื่อนเพิ่มเข้าไป จนออกมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้

ผลที่ได้หลังจากการรับชมก็เรียกได้ว่า จบแล้วจบกันไป ไมได้มีอะไรน่าจดจำแต่อย่างใด ทอม ครูซก็ยังคงเป็นทอม ครูซ ในหนังแอคชั่นทุกเรื่องคือ มีการแสดงออก หรือลักษณะตัวละครที่เหมือนๆกันไปหมด นี่ก็แอบหลุดคิดไปว่า เรามาดูภาคย่อยของ Mission Impossible 5.1 หรือเปล่าเสียด้วยซ้ำไป

สรุปได้ว่า Jack Reacher Never go Back ถ้าใครมองหาหนังแอคชั่นมันส์ๆระห่ำๆ ชมในช่วงนี้ ถือว่าเป็นตัวเลือกทีดีใช้ได้ แต่ถ้าใครเป็นแฟนหนังสืบสวนสอบสวน ใช้สมองคิดตามตัวละครเยอะๆ ขอไม่แนะนำอย่างแรงงครับ

          ความแตกต่างอันเป็นจุดแข็งของนิยาย/หนังชุด Jack Reacher คือรายละเอียดอันสมจริงสมจังของฉากแอ็คชั่น ที่ทำให้เราค่อนข้างเชื่อว่า แจ๊ค รีชเชอร์ ไม่ใช่ตัวละครสุดคูลที่เกินจริงเกินไป รายละเอียดแวดล้อมอย่างพล็อตเรื่อง การสืบสวนสอบสวน การที่ตัวละครเอาตัวรอดจากสถานการณ์สุดโหดหิน ล้วนแล้วแต่ดูไม่โกงหลักฟิสิกส์พื้นฐานจนเกินไป และที่แน่นอนคือเสน่ห์สุดคูลของตัวละคร แจ๊ค รีชเชอร์ อดีตนายทหารชั้นยอด ที่ลาออกมาเป็นนักเดินทาง ไม่ยึดโยงกับระบบใดๆ นักสืบอิสระ มีหลักการทางศีลธรรม ฉลาดเป็นกรด เป็นยอดฝีมือทั้งการใช้อาวุธและมือเปล่า เต็มไปด้วยความบ้าระห่ำ

         ภาคนี้ แจ๊ค รีชเชอร์ ได้พบกันทั้งคู่ปรับและคู่หูที่น่าสนใจ เมื่อ เทอร์เนอร์ ผู้บังคับบัญชาสาว ถูกจับตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ แจ๊ค รีชเชอร์ โดดมาสืบคดีนี้และพาเทอร์เนอร์หนีออกมา จนเขากับเทอร์เนอร์ต้องถูกนักฆ่ารับจ้างลึกลับ ที่มีฝีมือทัดเที่ยมกันตามล่า เทอร์เนอร์ กลายมาเป็นคู่หูนายทหารหญิงแกร่ง ที่ทำให้ แจ๊ค รีชเชอร์ ผู้ถนัดบู๊เดี่ยว และสั่งการคนอื่น ไม่ได้เป็นผู้นำในทุกสถานการณ์อีกต่อไป

          พล็อตเรื่องดำเนินเริ่มต้นได้อย่างสนุก น่าติดตาม ตัวละครมีเคมีที่น่าสนใจ ก่อนจะค่อยๆ คลี่คลายปมปริศนาที่น่าเสียดายว่า ทุกอย่างดูถูกลดทอนความซับซ้อนและความน่าสนใจลงไป มากไปกว่านั้น คือการที่บทบาทของตัวละคร เทอร์เนอร์ หญิงแกร่งที่เปิดตัวมาได้น่าสนใจมากๆ ว่าเธอจะแย่งซีนกับ แจ๊ค รีชเชอร์ ได้เข้มข้นขนาดไหน กลับกลายเป็นตัวละครที่อ่อนจางลงไปเรื่อยๆ จนแทบไม่มีผลอะไรกับไคล์แมกซ์ บทยังวนเวียนอยู่กับตัวละคร แจ๊ค รีชเชอร์ มากเกินไป

          ที่สุดแล้ว หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นหนังแอ็คชั่น/สืบสวนสอบสวน ที่โอเคอยู่ในระดับหนึ่ง อาจไม่ได้รสแอ็คชั่นวินาศสันตะโร หรือบทที่สนุกเป็นที่จดจำอะไรมากมายนัก แต่ถ้าคาดหวังว่าจะได้เห็นเสน่ห์คูลๆ แบบฉบับตัวละคร แจ๊ค รีชเชอร์ ก็คงไม่ผิดหวัง เพราะทุกองค์ประกอบในหนังเรื่องนี้ ล้วนส่งพระเอกคนนี้ให้ฉายแสงแต่เพียงผู้เดียวซะเหลือเกิน