รีวิวหนัง Kidnap - ล่าหยุดนรก

Kidnap (Luis Prieto / USA / 2017)

Halle Berry กลับมาอีกครั้งกับหนัง Thriller ไล่ล่าแก๊งลักพาตัวเด็ก ในบทของสาวเสิร์ฟหม้ายแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่หลังจากรู้ว่าอดีตสามีต้องการได้สิทธิ์ในการดูแลลูกไม่ทันไร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแสนรักของเธอก็ถูกลักพาตัวขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตาจากสวนสาธารณะกลางเมือง จิตวิญญาณความเป็นแม่นำพาเธอให้ขับรถไล่ตาม เพื่อจะช่วยลูกชายให้ปลอดภัยโดย และยิ่งเมื่อการรอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะไม่ทันการ เพราะทุกเสี้ยววินาทีคือความเป็นความตายของลูกชายสุดที่รักอันมีค่าที่สุดในชีวิต คุณแม่สายแกร่งจึงต้องลุยเดี่ยว และจัดการกับคนร้ายทุกคนที่จะทำร้ายลูกชายของเธอ

พล็อตเรื่องไปจนถึงรายละเอียดของบทหนังเองไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่  แต่การทิ้งคำถามว่าแม่สาวเสิร์ฟชีวิตซ้ำซากจำเจไม่ได้ร่ำรวย กับพ่อเด็กชีวิตดีมีเมียใหม่เป็นหมอตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของหนัง ให้คนดูได้คิดต่อเองก็น่าสนใจดี ถึงแม้ดูๆ ไปก็รู้สึกเหมือนปูเรื่องไว้ทำไม ในเมื่อตอนท้ายหนัง ไม่ได้นำพาสิ่งที่เหมือนจะเป็นความขัดแย้งในหนังนี้กลับมาให้ตัวละครเผชิญอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้กลมเกลาและสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วหนังกำลังชวนตอบคำถามว่าแม่แบบนางเอกนั้น เหมาะที่จะมีสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายคนนี้ต่อไปหรือเปล่า ในเมื่อเธอไม่มีความเพรียบพร้อมเท่าอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นพ่อของเด็กที่มีทั้งเงิน และมีทีท่าว่าสภาพแวดล้อมสังคม ไปจนถึงความเป็นอยู่นั้นก็น่าจะดีด้วยเช่นกัน

ความรักที่แม่มีต่อลูกถูกแสดงออกผ่านความเสียสละเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ ให้คนดูได้ประเมินเธอไปเรื่อยๆ ด้วยสายตาของผู้สังเกตการณ์ ในสถานการณ์ที่เปรียบเหมือนเป็นบททดสอบสัญชาตญาณ และความสามารถที่จะปกป้องลูกของเธอได้ โดยที่ไม่ต้องมีฉากขึ้นศาลให้ผู้พิพากษามานั่งตัดสินมันก็น่าสนใจดี ส่วนสถานการณ์ระทึกขวัญก็เดินไปตามแบบฉบับหนังแนวนี้ได้ไม่ขี้เหร่ แต่ถ้าหากหนังลดทอนส่วนของการไล่ล่า ที่ก็ไม่ได้มีชั้นเชิงพิเศษให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ แล้วเพิ่มความเป็นหนังคอร์ตรูมในห้องพิพากษาสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกเข้าไปด้วย ก็น่าจะทำให้หนังดูมีชั้นเชิงมากขึ้น อาจจะด้วยการตัดสลับเหตุการณ์การไล่ล่าบนถนน กับการพิพากษาในห้องพิจารณาคดี ก็น่าจะทำให้เนื้อหนังเด่นชัดมากขึ้นกว่านี้

ก็ไม่แน่ว่า ถึงแม้แม่จะเป็นฮีโร่ในสายตาประชาชนคนดูอย่างเราๆ แต่ในสายตาของศาลและข้อกฎหมาย ที่ต้องพิจารณาด้านอื่นๆ ประกอบด้วยแล้ว สุดท้ายเราจะยังเห็นว่านางเอกเหมาะสมที่จะเป็นผู้ปกครอง ดูแลชีวิตของลูกชายของเธอได้หรือเปล่า การที่ปล่อยปละละเลย คลาดสายตาจากลูกชาย จนต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งลักพาตัว น่าจะถูกมาใช้แย้งกับภาพซูเปอร์มัมได้น่าดุเดือดไม่น้อย และหนังจะโดดเด่นมากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องมาพยายามมองหาจุดน่าสนใจของมันเองแบบที่เป็นอยู่ ซึ่งทำให้มันกลายเป็นแค่หนังระทึกขวัญอีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านมาและผ่านไป ไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำสักเท่าไหร่นัก ถึงแม้ Halle Berry จะลุยเดี่ยวทุ่มแบบใส่เต็มก็ตาม