หนัง The Greatest Showman หรือชื่อไทยว่า โชว์แมนบันลือโลก ภาพยนตร์เรื่อง “The Greatest Showman” เป็นผลงานมิวสิคัลที่มีความโดดเด่นและแปลกใหม่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองจุดเริ่มต้นแห่งธุรกิจโชว์ และความรู้สึกมหัศจรรย์ที่เราสัมผัสได้เวลาความฝันเป็นจริงขึ้นมา ภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นและจินตนาการของ พี.ที. บาร์นัม โดยถ่ายทอดเรื่องราวของคนช่างฝันที่มาจากศูนย์ และได้สร้างการแสดงอันชวนตะลึงจนสร้างความตื่นเต้นไปทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่อง “The Greatest Showman” กำกับฯ โดย ไมเคิล กราซีย์ ผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่ที่มาสร้างความตื่นเต้น พร้อมด้วยบทเพลงจากเจ้าของรางวัล Academy Award เบ็น พาเซค และ จัสติน พอล (“La La Land”) นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน ผู้เข้าชิงรางวัล Academy Award ร่วมด้วยผู้เข้าชิงรางวัล Academy Award มิเชล วิลเลียมส์, เซนดายา, แซค แอฟรอน และ รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน
The Greatest Showman Inspired by the imagination of P.T. Barnum, The Greatest Showman is an original musical that celebrates the birth of show business and tells of a visionary who rose from nothing to create a spectacle that became a worldwide sensation.
ผู้ชมทั้งหมด
12,389 ครั้ง
|
เข้าฉาย
28 ธันวาคม 2560
|
ออกโรงแล้ว |
30 ธันวาคม 2560 17:36:17 (IP 184.22.215.xxx)
|
||
The Greatest Showman - โชว์แมนบันลือโลก 105 min | Drama/Musical | Directed by Michael Gracey "ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 3 รางวัล รวมไปถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" สร้างจากเรื่องจริงของ พี.ที.บาร์นัมส์ เจ้าของโชว์คณะละครสัตว์เดอะบาร์นัมส์และไบลี่ย์ โดยหนังเล่าถึงบาร์นัมส์ตั้งแต่สมัยเด็กซึ่งเขาก็พบกับรักแท้ที่แม้จะพลัดพรากจากกันเพราะบาร์นัมส์ก็เป็นเด็กยากจนและหลังจากสูญเสียพ่อไปทำให้เขาต้องเร่ร่อน จนจับพลัดจับผลูกลับมาเจอกันอีกครั้ง และได้แต่งงานกับคนที่เขารัก ออกไปใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเล็กๆ ในเมืองนิวยอร์ค ชีวิตดูเหมือนจะดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบาร์นัมส์ถูกไล่ออกจากงาน เขาจึงดิ้นรนด้วยการเปิดกิจการพิพิธภัณฑ์ แม้จะไม่รุ่งแต่เขาก็หาทางดิ้นรนด้วยไอเดียสุดบรรเจิดนั่นก็คือ รวมคนที่ไม่ปกติมาทำโชว์เพื่อมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้ชม จะบอกว่านี่เป็นการเข้าชิงหนังยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำที่น่าผิดหวังมากครั้งนึงเลยก็ว่าได้ เพราะตัวหนังเองมีจุดที่เป็นปัญหาค่อนข้างที่จะเยอะมาก ทั้งการเล่าเรื่องและการสร้างซีนที่มีมาตรฐานไม่คงที่มากนัก บางซีนสวยงามยอดเยี่ยม แต่บางซีนก็ดูจะประดักประเดิด และการใช้ music driven ที่แม้ว่าตัวเพลงประกอบทั้งหมดจะทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าชื่นชม แต่หนังกลับหยิบมาใช้แบบทื่อๆ และไม่มีลูกเล่น pacing ของหนังจึงดูแปลกๆ ตลอดทั้งเรื่อง ให้ความรู้สึกประหนึ่งคุณกำลังนั่งดู mv เพลง 11/12 เพลง โดยมีเนื้อเรื่องที่ต่อกันแค่นั้น (ถ้าจะไม่ให้พูดเกินไป บาง mv ของศิลปินบางคนที่ทำเนื้อเรื่องหลายเพลงต่อกันอาจดูปะติดปะต่อกว่านี้ด้วยซ้ำ) ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้จึงดูเป็น nominee ที่ต่ำกว่ามาตรฐานมากสำหรับผม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเพลงประกอบภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก คือเพราะและมีเนื้อหาที่ดีทุกเพลงเลย โดยเฉพาะ This is Me ที่เพราะมาก ป็อปฟังง่าย กินใจ นักแสดงในเรื่อง ทั้งฮิวจ์ แจ็คแมน, แซค เอฟรอน, เซนดายา และ มิเชล วิลเลียมส์ ต่างก็ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว น่าเสียดายแทน ที่หนังเรื่องนี้กลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ materials ของหนังเรื่องนี้นั้นมีพร้อม คือมันก็ไม่ได้ถึงกับน่าเบื่อหรือย่ำแย่มากนัก พอดูได้เพลินๆ และอาจรู้สึกแปร่งๆ กับบางส่วนของหนังบ้างก็ตาม ทำให้เราแอบมาคิดเลยว่าถ้าหนังไม่ได้เข้าชิงรางวัล อาจจะไม่มีปัญหาขนาดนี้หรือเปล่า? เพราะยอมรับเลยว่าการเป็น Golden Globes nominee ก็สร้างความคาดหวังให้เราประมาณนึงเลย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
5.5
การดำเนินเรื่อง
4.5
ดนตรีประกอบ
9.5
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
5.5
คะแนนเฉลี่ย
6.7
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ