หนัง The Promise หรือชื่อไทยว่า เพื่อน..ที่ระลึก "เพื่อน..ที่ระลึก" เมื่อ "คำสัญญา" และ "เพื่อนรัก" จะกลับมาทำให้คุณระลึกและระทึกไปพร้อมกัน พ.ศ. 2540 ปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับฝันร้ายที่เรียกว่า "วิกฤตต้มยำกุ้ง" โศกนาฏกรรมทางการเงินครั้งสำคัญ ที่ทำให้ "นักธุรกิจร้อยล้าน" กลายเป็น "บุคคลล้มละลาย" ในชั่วข้ามคืน เช่นเดียวกับอิ๊บและบุ๋มที่ครอบครัวต้องพังไปพร้อมๆกัน เมื่อตึกคอนโดหรูใจกลางเมืองที่พ่อของพวกเธอลงทุนร่วมกัน ถูกระงับการก่อสร้างจากเศรษฐีกลายเป็นคนมีหนี้สินหลายร้อยล้าน บ้านที่เคยอยู่มาทั้งชีวิตก็ถูกยึดสมบัติในบ้านถูกนำมาเปิดท้ายขายของในราคาถูก อิ๊บและบุ๋มรับมือกับความล่มสลายของครอบครัวไม่ไหว จึงตัดสินใจจะฆ่าตัวตายพร้อมกัน บน "ตึก" ที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่คนที่ตายกลับเป็นแค่อิ๊บเพียงคนเดียว ผ่านไป 20 ปี บุ๋ม (บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เติบโตกลายเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และได้กลับไปที่ตึกนั้นอีกครั้ง พร้อมกับ เบล (ลิลลี่ อภิชญา ทองคำ) ลูกสาวผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ คืนนั้นหลังกลับจากตึกก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับเบล เมื่อบุ๋มตื่นขึ้นมาพบเบลนั่งคุยกับใครบางคน แม้จะอยู่ในความมืด บุ๋มก็รู้ว่าที่นั่งฝั่งตรงข้ามของเบลว่างเปล่า ไม่มีใครเลย... แล้วทุกคืนหลังจากนั้นก็กลายเป็นฝันร้ายของบุ๋ม เมื่อทุกครั้งที่หลับตานอน เบลจะตื่นขึ้นมาด้วยอาการละเมอที่หนักขึ้นเรื่อยๆ และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ เบลจะละเมอพูดหรือทำในสิ่งที่ทำให้บุ๋มระลึกถึง อิ๊บ เพื่อนเก่าที่เธอทิ้งให้รออยู่ที่ตึกอย่างโดดเดี่ยวมาเป็นเวลานาน นี่อาจเป็นการกลับมาทวงคำสัญญาสุดท้ายที่อิ๊บเคยขอไว้ก่อนจากโลกนี้ไป... "สัญญานะ ว่าแกจะไม่ปล่อยให้ฉันตายคนเดียว" พบผลงานเขย่าขวัญเรื่องใหม่จากผู้กำกับลัดดาแลนด์ กับภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณระลึกถึงความกลัวทุกครั้งเมื่อต้องหลับตานอน เพื่อน..ที่ระลึก 7 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
หนัง The Promise หรือชื่อไทยว่า เพื่อน..ที่ระลึก In 1997, the financial crash, known in Thailand as the Tom Yum Goong Crisis, was a disastrous event that crept over Asia and left millionaires bankrupt overnight. A bright future which two best friends, Boum and Ib, pictured together fell apart when they found out that their families were going bankrupt. All of their assets were seized to satisfy their debts. The construction of a premium luxury condominium, which their parents jointly invested in, had been suspended. Unable to accept the harsh truth, they decided to end their lives together at the unfinished tower, where they promised to be together forever. In the end, Ib died all alone. Twenty years later, Boum (Numthip Jongrachatawiboon) becomes a successful real estate entrepreneur. One day, she gets to visit the abandoned tower with her beloved daughter, Bell (Apichaya Thongkham). That night, however, Boum wakes up and finds Bell sleepwalking and talking to herself in the dark. Bell’s sleepwalking condition continues to worsen every night. What concerns Boum the most is that Bell’s action and words in her sleepwalking state frighteningly remind Boum of Ib. What measures will Boum take to release herself from the promise that binds her? "Promise me you won’t leave me."
ผู้ชมทั้งหมด
40,261 ครั้ง
|
เข้าฉาย
7 กันยายน 2560
|
ออกโรงแล้ว |
16 กันยายน 2560 06:11:42 (IP 118.175.232.xxx)
|
||
เพื่อน..ที่ระลึก (โสภณ ศักดาพิสิษฐ์ | Thailand | 2017) ตั้งแต่ประกาศว่าตึกร้างสาทรจะถูกนำมาผูกเรื่องราวสร้างเป็นหนังผีดราม่าของ GDH และได้ พี่จิม-โสภณ ผู้กำกับหนังที่สร้างทั้งชื่อเสียง รางวัล และรายได้ 100 กว่าล้าน อย่าง ลัดดาแลนด์ (2011) มานั่งแท่นกำกับและเขียนบทก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา การโปรโมทว่าตึกร้างชื่อดังจะมีบทบาทเป็นหนึ่งในตัวละครเอกของเรื่อง ก็ยิ่งทำให้อยากรู้อยากเห็นและเดาไปตามมุมมองต่าง ๆ นานาว่าหนังจะออกมาในรูปแบบใด และเมื่อเริ่มปล่อยโมชั่นโปสเตอร์ออกมาก็ยิ่งสร้างความหลอนและกระตุ้นต่อมอยากดูมากขึ้นไปอีก คนทั่วไปเริ่มแชร์และพูดถึงเพราะมันน่าดูมากขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ จนกระทั่งทางค่ายปล่อยตัวอย่างหนังออกมาครั้งแรก เรากลับรู้สึกว่าหนังไม่ได้มีพล็อตมีเรื่องราวที่แปลกใหม่น่าติดตามสักเท่าไหร่ ความอยากดูยังมีแต่ก็ลดลงไปมาก ผิดกับครั้งที่ได้ดูตัวอย่าง ฉลาดเกมส์โกง (นัฐวุฒิ ฑุนพิริยะ | 2017) หนังระทึกขวัญเมื่อช่วงต้นปีจากค่ายเดียวกัน ที่ถึงแม้จะไม่มีผีแต่กลับให้ความลุ้นระทึกได้มากกว่า ก็ได้แต่หวังว่าหนังจะมีเรื่องราวที่หยิบวิกฤตต้มยำกุ้งมาเล่าไปกับเส้นเรื่องผีได้คุ้มค่าและน่าติดตาม และพอได้ดูหนังแล้ว ก็โอเคตามมาตรฐานหนังของผู้กำกับและค่ายหนังเอง แต่ก็เสียดายหลาย ๆ อย่างที่น่าจะทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นและชวนดูมากกว่านี้ ความเสียดายอันดับแรกคือ ตึกสาทรที่โปรโมทบอกไว้ว่าจะเป็นพระเอกของเรื่องนั้น ไม่ได้ถูกใช้อย่างคุ้มค่าราคาที่ให้ไว้กับคนดู ทั้งการเล่นกับพื้นที่ภายในตึกให้พิเศษมากกว่านี้หน่อย และมิติที่เชื่อมโยงกับเมืองโดยรอบให้ได้บรรยากาศความรู้สึกร่วมของคนดู ในมุมที่มองว่าตึกร้างแห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการล้มครืนของสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลให้หลายชีวิตต้องหยุดชะงัก หรือสิ้นสุดลงนั้น น้อยเกินกว่าที่คาดว่าจะได้เห็น แต่รวม ๆ แล้วการถูกชดเชยด้วยความพยายามเป็นหนังผีที่ดีให้ได้ตามมาตรฐาน และยังเห็นความพยายามที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้หนังผีไทย โดยการตั้งใจไม่ให้เห็นผีจะๆ ตรง ๆ ก็น่ายินดี ทำให้ส่วนที่ไม่ได้รับจากหนังตามที่คาดไม่ได้เป็นที่น่าหัวเสียอะไร ถึงแม้ว่าบางมุกจะเวิร์กบ้าง อย่าง มุกลูกแก้ว ชอบฉากนี้มากที่สุด หรือบางมุกจะเฉิ่มบ้าง อย่าง มุกผ้าคลุม แต่รวม ๆ แล้วก็ยังน่าติดตามและดูไปได้เรื่อย ๆ ความเสียดายอีกอย่างคือ ความตั้งใจที่จะไม่ให้เห็นผีจะจะตรง ๆ ซึ่งลดความเป็นผีตุ้งแช่บันเทิงเสียงได้แต่ก็ยังมีมุกผีตุ้งแช่อยู่มากนั้น น่าเสียดายในการที่จะโชว์ความระทึกในรูปแบบอื่น ๆ เช่นการกำกับภาพบรรยากาศตึกร้างให้น่าขนลุกมากกว่านี้ นอกเหนือไปจากความระทึกด้วยมุกต่าง ๆ ที่มีมาตั้งแต่ในบท ซึ่งหลาย ๆ มุกก็ยังนึกถึงเรฟเฟอเรนซ์จากหนังดังหลาย ๆ เรื่องได้เช่นกัน ความเสียดายอย่างสุดท้ายคือ ในส่วนของบทหนังที่การสร้างเงื่อนไขของผีดูน่าสนใจ และชวนให้ลุ้นระทึกน่าติดตาม แต่ว่ามันไม่พยายามที่จะสื่อสารหรือตอบคำถามในความสงสัยของคนดูเท่าไหร่ ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เหมือนลดละส่วนที่ไม่อยากเล่าด้วยการพูดเป็นแค่ภาพที่เชื่อมกันไม่กี่ซีน แต่คนดูจำนวนไม่น้อยเข้าใจตามไม่ทัน จึงไม่แปลกที่จะได้ยินคนดูไม่น้อยบอกว่าไม่เข้าใจว่าผีทำไมต้องเลือกทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ ซึ่งทำให้คนดูเขวไปจากลำดับหนังที่ต้องการจะเล่า แต่มีฉากที่บอกความรู้สึกคลุ้มคลั่งของตัวละคร ในขณะที่ต้องรักษาภาพความเป็นแม่และผู้นำบริษัทได้น่าสนใจหลายอัน และส่วนตัวพอใจมาก ๆ ที่คนทำไม่ได้ทิ้งประเด็นวิกฤตทางการเงินต้มยำกุ้งเพื่อจบแต่เส้นเรื่องผี ซึ่งยิ่งพอเข้าใจว่าคนทำหนัง GDH ต้องพยายามหาจุดจบที่ประนีประนอมความเศร้าและสุขให้ได้กึ่งกลางที่สุด ก็ต้องขอชมว่าหาทางลงให้ตอนจบของหนังได้ดี ด้วยความตั้งใจที่จะไม่ให้จบแบบรุนแรงหรือโลกสวยงดงามจนน่าตามด่าไปเลย ซึ่งทิ้งมุมมองให้คนขบคิดกับชิวิตในวันข้างหน้าของตัวละครที่เว้นช่องว่างให้เชื่อมโยงกับคนดูได้ ในส่วนของการแสดง บี-น้ำทิพย์ แบกรับภาระที่ต้องรับผิดชอบหนังแทบทั้งเรื่องได้ดีเลย แต่ก็ต้องสารภาพว่าส่วนตัวยังติดลุคของนางเอกละครและลุคเมนเทอร์บีในรายการ The Face Thailand อยู่บ้าง ซึ่งเกี่ยวไปถึงความผูกพันระหว่างแม่กับลูกระหว่าง ลิลลี่-อภิชญา นั้นไม่ฉายออกมาให้รู้สึกได้มากนัก เช่นเดียวกันกับลิลลี่ที่บางฉากบางตอนยังรู้สึกว่าน้องยังไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ แต่รวม ๆ แล้วดีเลยล่ะ สำหรับหนังเรื่องแรกที่ต้องรับบทดราม่าหนัก ๆ แบบนี้ ซึ่งลิลลี่แสดงอารมณ์ในฉากดราม่าน้ำตาแตกได้ดีเลย และดีใจมากที่ได้เห็น เดือนเต็ม สาลิตุล บนจอหนังอีกครั้งหนึ่ง ที่ถึงแม้จะปรากฏตัวไม่มาก แต่ก็ดีพอในระดับที่ในปีซึ่งมีหนังไทยดี ๆ น้อย ๆ แบบนี้ เธอสามารถมีชื่อในนอมินีนักแสดงสมทบหญิงต้นปีหน้าได้ไม่ยากเลยล่ะ ยังไงก็แล้วแต่ "เพื่อน..ที่ระลึก" ก็เป็นหนึ่งในหนังไทยที่พูดได้เต็มปากว่าอยากให้ไปดูกัน และยิ่งควรไปดูโดยเฉพาะในโมงยามที่หนังไทยตลาด ๆ ดี ๆ ช่างหายากหาเย็นเสียเหลือเกิน สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
7.3
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ