หนัง Ant-Man 2 หรือชื่อไทยว่า แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ ควันหลงจาก กัปตัน อเมริกา: ซีวิล วอร์, สก็อตต์ แลงก์ ต้องรับมือกับผลลัพธ์ในสิ่งที่เขาเลือกทั้งในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ และความเป็นพ่อ ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ต้องพยายามสร้างสมดุลของชีวิตที่ครอบครัวและหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะ แอนท์-แมน เขาต้องร่วมมือกับ โฮป แวน ไดน์ และดร. แฮงค์ พิม ในภารกิจใหม่สุดเร่งด่วน สก็อตต์ต้องกลับมาสวมชุดใหม่อีกครั้ง และเรียนรู้ที่จะต่อสู้เป็นทีมไปพร้อมกับเดอะ วอส์พ เพื่อหาคำตอบในอดีตที่เป็นปริศนาของพวกเขา
As Scott Lang balances being both a Super Hero and a father, Hope van Dyne and Dr. Hank Pym present an urgent new mission that finds the Ant-Man fighting alongside The Wasp to uncover secrets from their past.
ผู้ชมทั้งหมด
45,691 ครั้ง
|
เข้าฉาย
4 กรกฎาคม 2561
|
ออกโรงแล้ว |
18 กรกฎาคม 2561 13:35:25 (IP 101.108.106.xxx)
|
||
Ant-Man and the Wasp จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่หายไปช่วงอเวนเจอร์ส 3 หลายคนคงสงสัยว่า แอนท์-แมนหายไปไหนในอเวนเจอร์สภาคล่าสุด ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ทำไมพี่แกไม่ไปช่วยคนอื่นๆ ซึ่งนี่เป็นโจทย์ที่ท้าทายจริงๆ สำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เนื่องมาจากความพีคของจักรวาลมาร์เวล มันดำเนินมาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอเวนเจอร์ มหาสงครามล้างจักรวาล ที่ได้ชมกันไปตอนเดือน เมษาแล้ว ทุกคนรู้จุดจบของภาคนั้นอยู่แล้ว จะทำหนังเดี่ยวยังไงที่ใช้ช่วงเหตุการณ์ ก่อนในอเวนเจอร์ เนื้อเรื่องภาคนี้ก็ดำเนินตามตัวอย่างที่ปล่อยออกมาให้ชมกันนั่นก็คือ เป็นเหตุการณ์หลังจาก Captain America Civil War เมื่อแอนท์-แมนได้ช่วยกัปตันอเมริกาหลบหนีการจับกุม จนทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก ติดทัณฑ์บน ต้องอยู่ภายในบ้านของตัวเองให้ครบกำหนด ไม่งั้นจะโดนจับขังคุก แต่เรื่องราวยุ่งๆ ต่างๆ ก็ดันมาเกิดช่วงปลายๆ ของทัณฑ์บนนี้ แอนท์-แมนเลยต้องใช้กลเม็ดต่างๆ ในการหลอกล่อให้ไม่ถูกจับได้ว่าหนีออกจากบ้าน นอกจากปมของแอนท์-แมนที่เป็นผลกระทบมาจาก CivilWar แล้วประเด็นหลักๆ ของภาคนี้ยังคงดึงประเด็นของครอบครัวของแฮงค์พิม ที่ต้องสูญเสียเจนเน็ต ภรรยาอันเป็นที่รัก (เดอะวอส์ป) คนแรก ไปในภาระกิจลับเมื่อปี 1996 จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจนเน็ต ยังไม่ตาย และได้พยายามติดต่อให้ทุกคนไปช่วยเหลือเธอออกจากมิติควอนตั้ม ต้องยอมรับจริงๆ ว่าภาคนี้เป็นหนังที่เนื้อเรื่องจะเป็นตัวของตัวเองโดดๆ ไม่ได้มีฮีโร่คนอื่นๆ มาช่วย หรือมาเอี่ยวด้วยแต่อย่างใด เป็นหนังภาคแยกภาคเดี่ยวที่ดำเนินเรื่องสนุกใช้ได้ เต็มไปด้วยฉากแอคชั่นตลอดทั้งเรื่อง แถมมาด้วยมุขฮาๆ และเสน่ห์จากภาคแรกก็ไม่ได้หายไป พร้อมทั้งปิดฉากเรื่องด้วย Mid-cradit ที่ทำให้ต้องชวนว้าว และอยากดูต่อไวๆ เลยทีเดียว เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่เคยดูภาคแรก และ Civilwar มาก่อนเท่านั้นจริงๆ ไม่งั้นคงจะเก็บประเด็นต่างๆ ในเรื่องได้ไม่ครบ ส่วนตัวผมเองชอบในการกระจายบนให้แต่ละตัวละคร และการตัดต่อ มากกว่าอเวนเจอร์ส์ 3 ซะด้วยซ้ำไป (เรื่องนั้นเหมือนกับการตัดฉากต่างๆ มาแปะๆ ให้ครบๆเป็นเรื่องราวยาวแค่นั้นจริงๆ) ผมให้ 8/10 ไปเลยสำหรับเรื่องนี้ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
8
|
||
17 กรกฎาคม 2561 23:38:48 (IP 171.5.251.xxx)
|
||
แอนท์แมน คือ หนังตลก....พูดเลย ฮามากแต่ไม่เกรียนเท่าเดดพูลและ The Gardian Of The Galaxy มีลูกเล่นสนุกๆ แพรวพราวเหนือความคาดหมาย ได้อารมณ์หนังแอคชั่นมันส์ๆ ผสมๆ กับหนังครอบครัวฮาๆ สักเรื่องหนึ่งเลย... รู้สึกได้ถึงความเอนเตอร์เทนมากๆ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับมิติควอนตัมมากกว่าเรื่องอื่นๆ... ควรดูภาคแรกมาก่อนไม่งั้นไม่ฮา ไม่รู้เรื่องแน่ๆ... ส่วนมุกไหนที่เป็น Gimmick เป็นมุกเด็ดๆ ก็ยังคงมีอยู่ให้หายคิดถึง ซีจีไม่ตกมาตรฐานมาเวลเลย ทำได้ดีมากๆ การดำเนินเนื้อเรื่องก็ชวนติดตามไม่ตกมาตรฐานเช่นกัน งานสร้างก็อลังการใช้ได้อยู่แม้ไม่เท่าอินฟินิตี้วอร์หรือแบล็กแพนเตอร์แต่ก็อยู่ในมาตรฐานที่รับได้ของมาเวลอยู่แล้ว ด้วยความเป็นหนังภาคต่อ ความสมบูรณ์หรือความประทับใจมักเป็นรองหนังภาคแรกอยู่ประมาณนึงเลย แต่เป็นหนังที่ตลกและสนุกๆ เรื่องหนึ่งเลย - เด็กเดินตั๋ว - ป.ล. มี End Credit สองครั้งนะ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.7
|
||
13 กรกฎาคม 2561 22:19:00 (IP 134.196.241.xxx)
|
||
Ant-Man and the Waspหนังมนุษย์มด ที่ยังคุมโทนหนังด้วยอารมณ์ขัน ครอบครัว และความแสบของกลุ่มพระเอก ที่ทำให้หนังเต็มไปด้วยความสนุกและความอบอุ่น และส่วนตัวผมเองผมชอบภาคนี้นะ มีฉากตลกที่แบบหยุดขำไม่ได้เลย มีฉากแอคชั่นที่ดี CG เนียนกริบมากๆ และระบบ IMAX3D ที่ดีสุดๆ ไปเลย บทหนัง เนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาคนี้จะมีตัวละครที่เด่นขึ้นมาอีกตัวนั่นก็คือคู่หูของ Ant Man หรือว่า The Wasp นั่นเอง โดยมี Evangeline Lilly เป็นผู้แสดง จะบอกว่าแสดงบทบู๊ได้เก่งสุดๆ ไปเลย เท่มากๆ เอาใจไปเลยครับ และอีกตัวละครที่ชอบมาตั้งแต่ภาคที่แล้วก็คือ Luis นำแสดงโดย Micheai Pena คือแสดงได้ตลกมากๆ ภาคแรกฮาเท่าไร ภาคนี้ก็ไม่แพ้กันอาจจะฮามากกว่าด้วยซ้ำ อีกอย่างคือชอบเนื้อเรื่องของตัวร้ายในภาคนี้ มันไม่ได้ร้ายมากมายอะไรแต่แบบมีเส้นเรื่องประกอบการแสดงทำให้เรารู้สึกชอบมากๆ คุณภาพของภาพและเสียง ด้านดี ด้านแย่ สรุป จะบอกว่าผมรักหนังเรื่องนี้มากๆเลยนะ ดูง่าย สนุก ตื่นเต้น น่ารัก อบอุ่น และตลกมากกกกกก!!! มันครบรสในหนังเรื่องนี้ อีกอย่าง CG ก็เนียนกริบ 3D ก็เทพ ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นหนังฮีโร่ของ MARVEL อีกเรื่องที่จะดูซ้ำอีกหลายๆ ครั้งครับ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
10
คะแนนเฉลี่ย
8.9
|
||
13 กรกฎาคม 2561 10:14:37 (IP 184.22.229.xxx)
|
||
Ant-Man and the Wasp " ฮีโร่ที่ดีต้องมีคู่หู " 118 min | Action/Sci-fi | Directed by Peyton Reed เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ? หลังจากที่ทุกคนต้องพบกับจุดพลิกผันครั้งยิ่งใหญ่ใน Avengers: Infinity War หลายคนคงสงสัยว่าฮีโร่บางคนนั้นหายไปไหน โดยเฉพาะมนุษย์มดอย่าง Ant-Man ที่หายไปเลยหลังจากเหตุการณ์ใน Civil War ซึ่งในภาคต่อนี้จะเล่าเรื่องราวของสก๊อต แลง หลังผ่านเหตุการณ์ใน Civil War มาเลยทันที เพราะเขาเลือกที่จะรับโทษและโดนกักบริเวณเพื่อที่จะได้ล้างโทษและใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาว แต่เรื่องราวก็ไม่จบง่ายขนาดนั้น เมื่อแฮงค์ พิม ค้นพบวิธีที่จะช่วยภรรยาของเค้าที่ติดอยู่ในมิติควอนตัม และสก๊อต แลงก็เป็นกุญแจสำคัญในภารกิจครั้งนี้ ทำให้ Ant-Man ต้องกลับมาทำภารกิจอีกครั้ง ความรู้สึกแรกหลังดูจบ.. จากที่คิดว่านี่อาจเป็นหนังคั่นเวลาธรรมดาๆ เรื่องนึง แต่กลับกลายเป็นว่าหนังดูสนุกมากกว่าที่คิด ด้วยความที่หนังสลัดความก้ำกึ่งระหว่างผู้กำกับใหม่ และ สิ่งที่เอ็ดการ์ ไรท์ เคยสร้างไว้ ทำให้ภาคที่ 2 นี้กลายเป็นหนังภารกิจโจรกรรมที่มีส่วนผสมของความตลกขบขันอยู่ด้วย สิ่งที่น่าชื่นชม สิ่งที่ชอบมากที่สุดเห็นทีจะเป็นความที่นี่คือหนังมาร์เวลที่ไม่เน้นภารกิจกู้โลกใหญ่โต แต่เป็นการเปิดศึกแย่งชิงเทคโนโลยี (หรือโจรกรรมสิ่งของกัน) จากหลายฝ่าย ทำให้หนังมีความซับซ้อนและน่าติดตามมากยิ่งขึ้นกว่าภาคแรก และนอกจากนี้ ตัวละครต่างๆ ในเรื่องก็ดูจะมีมิติมากขึ้น พอลล์ รัดด์ ดูมีความสุขมากในการแสดงเป็นสก๊อต แลง เขาใส่ความฮา ความทะเล้นเข้าไปแบบจัดเต็ม หลายจุดที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นก็มาจากเค้า และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือพวกแก๊งลูอิส และชาวคณะ ที่ภาคนี้ก็ยังฮาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจังหวะเล่นมุกที่เฉียบและดูสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อีกจุดที่เสริมขึ้นมาและช่วยให้หนังน่าสนใจยิ่งขึ้นคือเน้นในเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัวของ แฮงค์ พิม และ โฮป แวน ไดจ์ มากยิ่งขึ้น ทำให้ Ant-Man and the Wasp เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างหนังโจรกรรม ฮีโร่ ตลก และครอบครัวได้อย่างลงตัว สรุป Ant-Man and the Wasp เป็นมากกว่าหนังที่ขั้นเวลาก่อนดู Avengers 4 เพราะมีจิ๊กซอว์ต่างๆ ที่สาวกมาร์เวลต้องมาตามเก็บตามดูกันมากมาย แถมถ้ามองเป็นหนังที่เป็นเอกเทศน์เรื่องนึง ก็ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างดูได้อย่างเพลิดเพลิน และสนุกกว่าที่คาดไว้มาก เป็นอีก 1 เรื่องที่ชาวมาร์เวลไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง และแน่นอนว่า ฉากหลังเอนด์เครดิตนั้นเกี่ยวข้องกับ Avengers อย่างแน่นอน สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
7.7
|
||
9 กรกฎาคม 2561 18:28:13 (IP 119.46.186.xxx)
|
||
Ant-Man and the Wasp นี่ก็เป็นครั้งที่ 3 ที่เราได้เห็นฮีโร่ตัวนี้ปรากฏตัวขึ้นมา นับตั้งแต่ครั้งแรกใน Ant-Man (2015) จนครั้งต่อมาใน Captain America: Civil War (2016) และล่าสุดกับภาคต่ออย่างเป็นทางการของ Ant-Man ในชื่อเรื่องที่ว่า Ant-Man and the Wasp โดยมีชื่อแปลไทยอย่างง่ายๆ ว่า แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ (ทั้งๆ ที่ภาคแรกตั้งชื่อซะเท่เลย “มนุษย์มดมหากาฬ” เงี้ย) ถือว่าทิ้งช่วงมา 3 ปีให้เราได้กลับมาพบกับตัวละครตัวนี้อีกครั้ง แต่ในภาคนี้ได้มีคู่หูคู่ใจมาอีก 1 นั่นก็คือ The Wasp ที่ทั่งสวย เก่ง และเท่ ในแบบฉบับสาวบู๊ หนังในจักรวาล MCU แต่ละเรื่องล้วนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และแน่นอนว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่บอกมาตั้งแต่ภาคแรกๆ แล้วว่า “เราสายฮานะ” ด้วยองค์ประกอบการเล่าเรื่อง ตัวละคร บรรยากาศต่างๆ มุกเอย อะไรเอย ที่ชวนให้ยิ้มหัวเราะเกือบทั้งเรื่อง หนังเรื่องนี้เปรียบเสมือน Side-story ของ Avengers: Infinity War กับคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่า “Ant-Man หายไปไหน?” นั่นแหละคำตอบก็อยู่ในเรื่องนี้ เพราะเนื้อเรื่องในภาคนี้เป็นเรื่องราวสืบเนื่องมาจาก Captain America: Civil War ซึ่ง ดูๆ แล้วเรื่องราวในภาคนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ไม่มีฉากเครียดสักเท่าไหร่ แต่ทำออกมาได้บันเทิงสุดๆ ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะแฝงไปด้วยความตลกชวนหัวเราะขนาดนั้น แต่ทางด้านฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลย ถึงแม้อาจจะไม่ได้มีเยอะเหมือนหนัง MCU เรื่องอื่นๆ แต่มี 2 ฉาก ที่แอดชอบมากๆ คือฉากบู๊แรกของ The Wasp ที่ทั้งดูเท่ มีสไตล์ รุนแรง และฉากขับรถสู้กันในช่วงเกือบท้ายเรื่อง โดยภาพรวมแล้วทำเราได้เห็นเลยว่าในเรื่องนี้ได้นำการย่อ/ขยายไซส์ มาใช้กับเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัวมากๆ บวกกับการแสดงของเหล่ากลุ่มตัวเอก ไม่ว่าจะเป็น Paul Rudd (Scott Lang / Ant-Man) ที่ภาคนี้จัดหนักจัดเต็ม เล่นใหญ่ โคตรฮา และไม่กลัวเสียฟอร์มเลยแม้แต่น้อย ประกบคู่มากับ Evangeline Lilly (Hope Van Dyne / The Wasp) ที่ดูเป็นสาวดุ ขาลุย และเท่เอามากๆ ซึ่งทำให้เคมีเข้ากับพระเอกได้เป็นอย่างดี ตามมาด้วย Michael Douglas (Dr. Hank Pym) ที่มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากภาคแรก และทำให้ทั้ง 3 คนพอมาอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันดูลงตัวไปหมด และเหล่าตัวประกอบที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้อย่าง Michael Pena (Luis) ที่โผล่มาทุกฉากต้องฮา แค่เห็นหน้าเราก็ฮาแล้ว แถมในภาคนี้ยังมีฉากพล่ามของเขาอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว และตัวประกอบอื่นๆ ที่เล่นได้ดีไม่แพ้กันเลย ไม่ว่าจะเป็น Laurence Fishburne (Dr. Bill Foster ), Michelle Pfeiffer (Janet Van Dyne / The Wasp) และตัวละครเพื่อนพระเอกที่ถึงแม้เราได้เห็นพวกเขาเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น แต่พวกเขาก็แสดงออกให้เราเห็นแล้วว่าแสดงได้ดีเลยแหละ แต่ที่น่าผิดหวัง คงจะเป็น “คาแร็คเตอร์ของตัวร้าย ที่เหมือนใส่มางั้นๆ” กับตัวละครอย่าง Ghost ที่เปิดตัวออกมาได้น่าสนใจ แต่ก็...นะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เผื่อใครดูมาแล้วก็คงเข้าใจเหมือนกัน และเรื่องราวของมิติควอนตัมที่ภาคแรกปูมาได้น่าซับซ้อน ลึกลับ เป็นมิติที่เข้าแล้วออกมาไม่ได้ แต่ในภาคนี้เข้าออกกันง่ายราวกับประตูหน้าบ้านหลังบ้านตัวเองซะอย่างงั้น - - สรุป ในเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงที่คุณได้ดูเรื่องนี้ คุณจะได้รับความ “บันเทิง” ไปเต็มๆ เหมือนดูหนังตลก รอมคอม ครอบครัวที่มีธีมเป็นซูเปอร์ฮีโร่ยังไงยังงั้น ที่ถึงแม้ว่าหนังจะเป็นมนุษย์มดขนาดจิ๋ว แต่ก็แบกความสนุกมาเท่าตัวเลยที่เดียว ปล. หนังเรื่องนี้มี Mid-Credit และ End-Credit ซึ่งบอกเลยตัวแรกว้าวแค่ไหน ตัวที่สองว้าวยิ่งกว่า!!! สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ