หนัง Han Solo หรือชื่อไทยว่า ฮาน โซโล ตำนานสตาร์ วอร์ส ด้วยยานมิลเลเนียมฟัลคอน และการผจญภัยในกาแล็กซี่อันแสนไกลโพ้น ใน Solo: A Star Wars Story นี่คือการผจญภัยครั้งใหม่ของตัวโกงที่ผู้คนหลงรักมากที่สุดในจักรวาล ผ่านเรื่องราวความกล้าหาญในการเข้าไปผจญในโลกใต้ดินของเหล่าอาชญากรอันแสนอันตราย ฮาน โซโลได้พบกับสุดยอดนักบินคู่หูของเขา ชิวเบคก้า และต้องเผชิญหน้ากับนักพนันสุดร้ายกาจ Lando Calrissian ในการผจญภัยครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในเรื่องราวของสตาร์วอร์สที่ห่างไกลจากคำว่าฮีโร่มากที่สุด!
During an adventure into a dark criminal underworld, Han Solo meets his future copilot Chewbacca and encounters Lando Calrissian years before joining the Rebellion.
ผู้ชมทั้งหมด
22,946 ครั้ง
|
เข้าฉาย
24 พฤษภาคม 2561
|
ออกโรงแล้ว |
2 มิถุนายน 2561 20:54:06 (IP 96.30.101.xxx)
|
||
Han Solo หนังแยกเดี่ยวจากจักรวาลหลัก Star Wars โดยสร้างอยู่รอบๆ ตัวละครหลักตัวหนึ่งคือ ฮาน โซโล โดยเป็นหนังที่เกิดก่อน Star War: New Hope หรือภาค 4 ถ้าเรียงตาม Time line เส้นเรื่องน่าจะเกิดก่อนภาค Rouge One แม้จะมีกระแสการดูแย่กว่าภาคอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ส่วนตัวแล้วสำหรับผม มันเป็นหนังสนุก ที่มีครบรส เร้าใจ และก็ให้ความสำคัญในการสร้างตัวละครฮาน โซโลในระดับที่ลึกล้ำ ถูกใจแฟนคลับมากแน่ๆ ดิสนีย์ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดียวกับที่ทำใน Marvel ก็คือให้จักรวาลหลักดำเนินไป และค่อยๆ สร้างภาคเสริมมาคลุมครอบส่วนเกินส่วนขาดในหนังภาคหลัก เพื่่อทำให้หนังกลม มีเหตุมีผล และทำให้ความสมจริงมันชัดแกร่งมากขึ้น พร้อมๆ กับกวาดเงินคนที่รักตัวละครตัวนั้นตัวนี้ ประสบความสำเร็จบ้าง ธรรมดาๆ บ้าง ซึ่ง Han Solo จะมีส่วนที่เฉยๆ อยู่นิดหน่อยหน่ะนะ ซึ่งสำหรับแฟนๆ สตาร์วอร์ที่ดูมาทุกภาค เรื่องนี้มีกลิ่นอายแบบผจญภัยมากที่สุด สนุกมาก และมีกลิ่นอายแบบหนังอาชญากรรมที่หักหลังกันอุดตลุด หักมุมกันมันส์ แถมมีความทรงจำเยอะแยะแอบซ่อนอยู่ในนั้น เช่นเสียงเลเซอร์ที่คุ้นเคย ยานที่เรารัก มุกตลกที่รู้จักเป็นอย่างดี Mood&Tone ที่งดงามและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เราอิ่มเอมกับบรรดา Easter Egg ในเรื่องราวเหล่านั้น ส่วนสำคัญที่สุดของเรื่องก็ทำออกมาได้น่าชืนชม โดยเฉพาะการสร้างตัวละครของ Han Solo นั้นออกแบบมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะการเติบโตของตัวละครในเรื่องนี้ล้วนเกี่ยวพันกับภาคหลัก ทั้งชื่อของฮาน ทั้งพร๊อพนำโชคในตำนาน ปืนสั้น เรื่องเล่าของมิลิเนี่ยม ฟัลคอน การพบเจอของชิววี่ ทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Han Solo เป็น Han Solo ไม่ว่าจะภาคไหนๆ “ยิ้มเอาไว้ ฮาน รอยยิ้มของเธอทำให้ฉันนึกถึงการผจัญภัยของเรา” หนังแยกนี้ของ Han Solo คือส่วนประกอบที่สร้างให้ Han Solo ทรงเสน่ห์ไปอีกขั้นด้วยเช่นกัน การเป็นคนดีกับคนที่เขารัก การยิ้มสู้ทุกอย่าง กระบวนการเอาชีวิตรอด (เกมนี้ไม่มีชนะแพ้ แค่เอาชีวิตรอดให้ได้มากที่สุด) ที่เกิดจากการบ่มเพาะในสังคมแห่งการฉกฉวย ความเก่งกาจ กล้าได้กล้าเสีย และการมองคนออกจนทะลุปรุโปร่ง ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ฮานมีความสมบูรณ์ในฐานะของการเป็นคน หักหลังบ้าง รักบ้าง เขาไม่ได้คิดถึงการเอาชีวิตรอดของตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่เขาคิดถึงชีวิตรอดของผู้อื่นด้วย ทำให้ Han Solo โดดเด่นออกมาจากคนอื่น และทำให้ชิววี่เลือกที่จะเคารพ เป็นคู่หูในตัวเขาเสมอ แน่นอนว่า ผมตามภาคหน้าของ Han Solo แน่ๆ หนังมันสมบูรณ์แบบมากสำหรับการเป็นภาคเดี่ยว และเสริมให้ Han Solo มีความลุ่มลึกขนาดนี้ และก็คงไปบรรจบกันที่ New Hope น่าจะมีส่วนขาดส่วนหายไปในเนื้อเรื่องที่ New Hope กับรอยต่อระหว่าง Force Awaken ที่ทำให้ซีรีย์นี้ไม่มีวันจบสิ้น และแน่นอนว่าผมก็รักจักรวาลนี้เหลือเกิน จะตามไปดูจนถึงจุดจบของมันเลย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.1
|
||
1 มิถุนายน 2561 12:38:56 (IP 171.5.250.xxx)
|
||
บทวิจารณ์ HAN SOLO ฉบับเด็กเดินตั๋ว ต้องบอกก่อนเลยว่าเด็กเดินตั๋ว ‘HYPE’ อภิมหาภาพยนตร์จักรวาล STAR WARS มาก เข้าขั้นเครซี่สุดๆ ไปเลย แต่สำหรับ Han Solo แล้วเป็นตัวละครที่เด็กเดินตั๋วรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ชื่นชอบมากเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเฮียแฮร์ริสัน ฟอร์ด ดูมาดเท่ห์ ขี้เก๊ก ฉบับพระเอกมากเกินไปมั้ง เลยไม่ค่อยชื่นชอบมากเท่าตัวละครอื่นๆ หนังเรื่องนี้จะทำให้มุมมองที่มีต่อ ฮาน โซโล และมิลเลนเนี่ยม ฟาลค่อนเปลี่ยนไป!!! คือรายละเอียดและดีเทล ที่มาที่ไปของทุกสรรพสิ่งในตัวตนของฮาน โซโลแทบจะถูกชี้แจงออกมามากที่สุดในหนังเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่มาของชื่อ ‘ฮาน โซโล’ ที่มาของปืนคู่ใจ วลีเด็ดๆ ที่ฮาน โซโลชอบพูด การพบเจอกับ ‘ชิวอี้’ คู่หูผู้ช่วยคนขับชาววุคกี้ ประสบการณ์การขับยาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่หลอมตัวตนให้ ‘ฮาน โซโล’ เป็นฮาน โซโล แบบทุกวันนี้จนถึงภาคสุดท้าย มันทำให้เราเข้าใจตัวละครนี้ วิธีการคิด การพูด การเป็นแบบที่เขาเป็น และยอมรับสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ รวมไปถึงที่มาของยานมิลเลนเนี่ยม ฟาลค่อน ยานคู่ใจของฮาน โซโล ยานที่พาลุคสกายวอร์คเกอร์ผจญภัยตะลุยอวกาศแบบที่เราเห็นกันในหนังสตาร์วอร์สหลายๆ ภาค ล้วนมีที่มาที่ไปที่น่าจดจำและน่าประทับใจ ซึ่งต่อจากนี้ไปเวลาดูสตาร์วอร์สจะรู้สึกรักยานลำนี้และชอบพี่ฮาน โซโลมากขึ้น เรื่องนี้มีนักแสดงที่โดดเด่นโลดแล่นอยู่ในหนังมากมาย หากไม่นับนักแสดงนำอย่าง Alden Ehrenreich ในบทฮาน โซโล ซึ่งเด็กเดินตั๋วบอกตรงๆ ว่าเพิ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรก แต่การแสดงก็พาหนังไปได้อย่างสวยงาม คาแรกเตอร์จะคล้ายๆ นักบินหนุ่มเลือดร้อนของฝ่ายต่อต้านใน The Last Jedi ที่เป็นเจ้าของ R8 นอกจากนักแสดงนำ คนที่ทำให้เด็กเดินตั๋วว้าว ไม่คิดว่าจะได้เห็นคือ Emilia Clarke หรือคุณแม่มังกร แดเนริส ทาร์แกเรียน ในซีรียส์ชุด Game Of Throne นั่นเอง (เรื่องนี้คุณแม่เซ็กซี่มาก...บอกเลย) และนักแสดงนำที่เพิ่งเห็นหน้าเห็นตากันไปอย่าง Woody Harrelson นักแสดงที่เห็นหน้าเห็นตาบ่อยอย่างนักมายากลสายสะกดจิตในหนังมายากลสุดเจ๋งอย่าง Now You See Me หรือผลงานที่ฝากไว้อย่างยอดเยี่ยมในบทตำรวจขวัญใจชาวเมืองในหนังยอดเยี่ยมเข้าชิงออสการ์อย่าง Three Billboards Outside Ebbing, Missouri และอีกคนที่ชื่นชอบคือ Donald Glover ที่เคยเห็นหน้าแว้บๆ ในบทนักฟิสิกส์มาดเกรียนที่คิดวิธีการให้พี่แม็ตต์ เดม่อนกลับโลกจากดาวอังคารได้ใน The Martian ทุกคนล้วนดูเจ๋งมากในจักรวาล Star Wars และภูมิใจในทุกคนจริงๆ (ปลาบปลื้มสุดๆ) ตัวหนังโอเคไหม? แม้วิชวลดูไม่ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนสตาร์วอร์สสองภาคหลังสุด (Force Awaken, The Last Jedi) เนื้อเรื่องไม่ได้เข้มข้นหนักหน่วงเหมือน Rouge One แต่สำหรับเด็กเดินตั๋ว Han Solo ถือว่าเป็นหนังอัตชีวประวัติชั้นดีที่สนุกมาก คือพอเห็นชื่อผู้กำกับขึ้นในเครดิตนี่ถึงบางอ้อเลย เฮีย Ron Howard เจ้าของผลงานที่เด็กเดินตั๋วชื่นชอบอย่าง ‘Rush’ หนังอัตชีวประวัติของ James Hunt และ Niki Luada สองนักแข่งรถ F1 สุดเท่ห์ (ซึ่งเป็นหนังที่เจ๋งมาก) บอกเลยรสชาติแบบ Rush ในแบบฉบับ Star Wars เป็นส่วนผสมที่ดีและขอชื่นชมเลยล่ะ ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ในแบบที่หนังควรจะเป็นเลย ทั้งสนุก ทั้งเท่ห์ สะท้อนตัวตนมุมต่างๆ ของตัวละครได้อย่างมีมิติ ไม่เครียดไปแบบ Rouge One สนุกกำลังดีแบบสตาร์วอร์ส แม้ไม่มีหุ่นดรอยด์น่ารักๆ อย่าง R2D2 หรือ R8 แต่มีหุ่นดรอยด์ผู้ช่วยนักบินคล้ายๆ ดรอยด์ใน Rouge One ให้ติดตามอีกตัวละครแทน Han Solo เป็นอีกเรื่องที่แฟนสตาร์วอร์สไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ดูแล้วจะหลงรักมิลเลนเนี่ยม ฟาลค่อนแบบไม่รู้ตัวเลย - เด็กเดินตั๋ว - สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8.5
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.3
|
||
31 พฤษภาคม 2561 19:30:45 (IP 58.137.18.xxx)
|
||
Solo: A Star Wars Story "ฮาน โซโล" 135 min | Adventure/Fantasy | Directed by Ron Howard เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ? หนัง spin-off หรือภาคแยกของสตาร์ วอร์ส ที่พาเราไปสำรวจถึงต้นกำเนิดของ 1 ในตัวละครสุดฮิตจากไตรภาคแรกอย่าง ฮาน โซโล ว่ากว่าเขาจะมาพบเจอเรื่องราวอันเป็นตำนานสุดยิ่งใหญ่ เขาต้องพบเจออะไรมาบ้าง และในเรื่องก็ยังพูดถึงการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่และน่าจดจำครั้งนึงในชีวิตของผู้ชายที่ชื่อว่า ฮาน โซโล เลยทีเดียว ความรู้สึกแรกหลังดูจบ.. รู้สึกว่าหนังมันมีความเป็น Rogue One โมเดลค่อนข้างสูง อาจจะเพราะว่าเขาพยายามยึดสูตรนี้เป็นสูตรหลักในการเล่าเรื่องในภาค spin-off แล้ว เพียงแต่หลายอย่างใน Solo มันยังมีจุดขาดจุดเกินอยู่มาก คุณภาพโดยรวมอาจจะดีกว่าที่คิด เพราะข่าวที่ปล่อยมาก่อนฉายไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ก็แอบคิดว่าหนังอาจจะดีได้มากกว่านี้ สิ่งที่น่าชื่นชม ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องหลายต่อหลายคนแคสมาได้ค่อนข้างดี ทำให้หนังมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนมาก อัดฉากบู๊รัวๆ ทำให้ดูได้เพลินๆ อยู่ สิ่งที่รู้สึกไม่ชอบ ตัวละคร ฮาน โซโล ที่ควรจะเป็นตัวหลักตัวชูโรงของเรื่องกลับดูไม่มีสเน่ห์เท่าที่ควรจะเป็น จนทำให้ความดีงามโดยรวมของเรื่องไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น น่าเสียดายมากๆ สรุป ภาพรวมคือพอดูได้ อาจไม่เหมาะกับผู้ชมทั่วไป แต่ถ้าหากคุณเป็นแฟน สตาร์ วอร์ส การได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนได้ย้อนไปฟังเรื่องราวของเพื่อนที่เคยรู้จัก หนังดูได้เพลินๆ ไม่ถึงกับน่าเบื่อ นักแสดงหรือตัวละครหลายตัวน่าสนใจ แต่โดยรวมไม่ได้น่าจดจำเท่าใดนัก สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
6.9
|
||
25 พฤษภาคม 2561 22:42:03 (IP 184.22.228.xxx)
|
||
Solo: A Star Wars Story อีกหนึ่งภาคแยกจากจักรวาลสงครามแห่งดวงดาว Star Wars ต่อจาก Rouge One เป็นเรื่องราวของ Han Solo หลังจากที่หักสภาวะจิตใจแฟนๆ ด้วยการให้ตัวละครตัวนี้เสียชีวิตไปแล้วในภาค The Last Jedi ก็ได้เกิดหนังเดี่ยวของเขาขึ้นมา การที่ได้เห็นตัวละครที่แฟนๆ รักกลับมามีชีวิตอีกครั้งในเรื่องราวที่ต่างออกไปย่อมสร้างความตื่นเต้นและน่าดูชมเป็นธรรมดา ซึ่งตัวละครตัวนี้น่าจะเป็นตัวละครที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบ ทั้งมาดกวน มีเสน่ห์ เจ้าเล่ห์ และเป็นตัวละครที่มีเนื้อเรื่องปริศนาต่างๆ มากมายที่น่าสนใจและน่าติดตาม เรื่องราวชีวิตของเขาก่อนที่เราจะมาเห็นเขาในภาค A New Hope ในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นช่วงชีวิตของเขาในช่วงวัยหนุ่ม และแน่นอนหนังเรื่องนี้ทำได้รู้ใจและตอบข้อสงสัยของแฟนๆ ได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาน Millennium Falcon, เรื่องของการพบกันของคู่หูขนฟู Chewbacca หรือแม้กระทั่งที่มาที่ไปของตัว Han Solo เอง ในเรื่องนี้เต็มอิ่มแน่นอน (แถมมีฉากนึงที่แฟนบอยของแฟรนไชส์นี้ต้องร้องกรี๊ดกันอย่างแน่นอน) นี่แหละเรื่องราวที่ควรถูกเล่าขานของ Han Solo แน่นอนว่าต้องมีเสียวสันหลังวาบๆ และกังวลกันบ้างหล่ะ กับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เพราะโดยตอนแรกผู้ที่รับหน้าที่มากำกับหนังเรื่องนี้ Phil Lord และ Christopher Miller ต่างโดนเด้งให้ออกจากตำแหน่งผู้กำกับ ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้หนังเรื่องนี้มันตลกไปและไม่ยอมถ่ายทำตามบทที่เขียนมา และในที่สุดก็ได้ผู้กำกับอย่าง Ron Howard ที่มานั่งแท่นแทน ซึ่งเข้ามารับหน้าที่ปุ๊บก็ต้องถ่ายซ่อมไปถึง 70-80% เลยทีเดียว มันก็ไม่แปลกที่แฟนๆ จะเป็นกังวลว่าหนังจะออกมาค่อนข้างแย่หรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้มีความชัดเจนในคำว่า “ภาคแยก” มากมาย เพราะหนังไม่ได้อิงหรือพยายามจะทำให้เหมือนหนังที่เรียกว่า “Star Wars” เลยแม้แต่น้อย หนังมีจุดยืนของตัวเองที่ชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของหนัง และหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความมันส์ บ้าระห่ำ และฉากแอคชั่นเกือบตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าคุยกันไม่กี่นาทีคุณอาจได้ยินเสียงปืน Blaster ยิงมา “ปิ้วๆ” หรือไม่ก็ต้องหนี ขับยาน ขับรถ กันจ้าละหวั่น ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำฉากแอคชั่นมาได้ดีมาก หนังตอบโจทย์ทุกปัญหาที่หลายๆ คนสงสัยเกี่ยวกับตัว Han Solo เรื่องราวของที่มาที่ไปของเขา หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เป็นตำนานของเขากับวีรกรรม “Kessel Run” ที่เขาขับยาน Millennium Falcon ด้วยความเร็ว 12 พาร์เซ็คที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หนังเรื่องนี้ก็ขยายความในจุดนี้อย่างชัดเจนอีกด้วย แต่หนังก็ยังมีปัญหาด้านการเล่าเรื่องอย่างขัดๆ บ้างในบางฉาก แต่โดยรวมก็ถือว่าไหลลื่นและทำได้ดีเลยทีเดียว ทางด้านการแสดง หลายๆ คนคงติดภาพ Harrison Ford มากันทั้งนั้นแหละ ถ้าเราไม่เอา Alden Ehrenreich ที่มารับบท Han Solo ในปัจจุบันไปเทียบ ก็ถือว่าเขายังคงถ่ายทอดความเป็นตัวละคร Han Solo ได้ดีเลยทีเดียว เรายังได้เห็นท่าทาง ความกะล่อน ความเจ้าเล่ห์ ของเขาอยู่เหมือนกัน และอีกหลายๆ ท่าทางที่ทำให้เราคิดถึงตัวละคร Han Solo ในภาคต้นฉบับ ส่วนตัวละครที่เด่นไม่แพ้กันคือตัวละครที่รับบทโดย Woody Harrelson ที่รับบท Beckett ที่โชว์ความเก๋าและรู้สึกเขาเหมาะสมและเข้าถึงบทบาทนี้โคตรๆ (หลายๆ ฉากเท่กว่า Han Solo ด้วยซ้ำ) ส่วนตัวละครของ Lando Calrissian ที่รับบทโดย Donald Glover ที่เห็นถึงความยียวน มีเสน่ห์ และเจ้าเล่ห์ไม่แพ้ตัวเอกเลย ดูเป็นคู่ชกที่เหมาะสมกันไม่ใช่เล่น ส่วนตัวละครที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้นั่นก็คือ Qi’ra ที่รับบทโดยแม่มังกร Emilia Clarke ที่เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่แสดงทางสีหน้าได้น่าดูชมมากๆ แถมยังเป็นตัวละครที่มีความลับมากมายชวนให้น่าติดตามต่อสุดๆ แต่ตัวละครที่น่าเสียดายที่สุดคงจะเป็นตัวร้ายในภาคนี้อย่าง Dryden Vos ที่รับบทโดย Paul Bettany ที่ตัวผมคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรจากการแสดงของเขามากกว่านี้ และนั่นก็ทำให้เกิดข้อเสียคือการแบ่งเส้นเรื่องของทางฝั่งวายร้ายที่น้อยไปหน่อย ปูเรื่องมาได้น่าสนใจ แต่ตบได้น่าเสียดาย โดยรวมแล้วไม่อยากให้พลาดจริงๆ กับตำนาน Han Solo คนนี้ สำหรับใครที่เป็นแฟนแฟรนไชส์เรื่องนี้อยู่แล้วยิ่งต้องห้ามพลาด แต่ถ้าใครไม่เคยดู Star Wars มาสักภาคเลย และจะไปดูเรื่องนี้ก็ดูได้ แถมคุณยังจะสนุกกับมันได้อีกด้วย เผลอๆ อาจจะอยากดู Star Wars ภาคอื่นๆ หลังจากดูเรื่องนี้จบก็เป็นได้ แถมเนื้อเรื่องยังปูต่อให้ได้น่าติดตามมากๆ รับไป 7.5/10 เลยครับโผ้ม สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.5
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ