หนัง Kids on the Slope หรือชื่อไทยว่า เพลงแรก รักแรก จูบแรก หนังเล่าเรื่องราว นิชิมิ คาโอรุ ( จิเน็น ) เด็กหนุ่มเรียนดีผู้ที่ต้องย้ายโรงเรียนจากโยโกสุกะมาอยู่ที่จังหวัดนางาซากิเนื่องจากสาเหตุของทางบ้าน ทำให้เขาได้พบกับ คาวาบุชิ เซ็นทาโร่ (ไทชิ ) ตัวพ่อประจำโรงเรียน ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกันและรวมตัวกันตั้งวงดนตรีแจ๊ส โดยมีเพื่อนสาวคนสวย ริตสึโกะ ( นานะ โคมัตสึ ) คอยเป็นกำลังใจให้และกลายเป็นความรักสามเส้าโดยไม่รู้ตัว 31 พฤษภาคม มิตรภาพ ดนตรี และรักแรก จะทำให้คุณคิดถึงคนที่ไม่เคยลืม
Two different students - a successful but aloof academic and a rebellious but kindhearted delinquent - form a friendship through their love for music.
ผู้ชมทั้งหมด
10,721 ครั้ง
|
เข้าฉาย
31 พฤษภาคม 2561
|
ออกโรงแล้ว |
4 มิถุนายน 2561 01:38:07 (IP 125.24.76.xxx)
|
||
Kids on the Slope (Takahiro Miki | Japan | 2018) นี่เตรียมตัวเข้าไปปาดน้ำตา แต่ทำไมกลับไม่อินอย่างใครเขานะ!! เรื่องราวความรักย้อนวัยมัธยมของเพื่อนสนิท 3 คน ซึ่งเหมือนเป็นความทรงจำกับรักแรกที่ได้มาเจอกันและสนิทสนมกัน ความรักและมิตรภาพถูกผูกโยงด้วยดนตรีแจ๊สซึ่งเป็นที่บำบัดความรู้สึกของทุกคนในกลุ่ม คาโอรุ (Yuri Chinen) หนุ่มนักเปียโนบ้านคุณหนูลุคเนิร์ด เซ็นทาโร่ (Taishi Nakagawa) หนุ่มหล่อเท่มาดนักเลงมือกลอง และ ริทสึโกะ (Nana Komatsu) สาวลูกเจ้าของร้านแผ่นไวนิลที่แค่ได้ฟังได้เห็นเพื่อนๆ เล่นดนตรีแจ๊สด้วยกันในห้องซ้อมดนตรีชั้นใต้ดินร้านที่พ่อทำไว้ให้ก็มีความสุขสุดๆ แล้ว เป็นเรื่องราวเดิมๆ ของความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่เคยเห็นมาแล้วเยอะแยะ แต่การเป็นเรื่องเดิมๆ ไม่ใช่ปัญหา และไม่น่าเสียดายเท่าบทหนังและการกำกับที่ไม่ได้ขุดลึกความรู้สึกของตัวละครให้บาดอกบาดใจได้ การดำเนินเรื่องมันเดินไปเรื่อยๆ แบบครึ่งๆ กลางๆ ไปจนจบ ขาดการออกแบบฉากและสถานการณ์ให้ได้ภาพที่ต้องตาตรึงใจ ทำให้ความรู้สึกขณะดูที่มีต่อความเป็นไปของตัวละครนั้นค่อนข้างนิ่งเรียบ ความไม่น่าติดตามทำให้เกิดความรู้สึกเบื่ออยู่หลายๆ ช่วง เสียดายอีกอย่างที่หนังมีดารานักแสดงหลักเป็นวัยรุ่นที่ทรงเสน่ห์มากๆ ทั้ง 3 คน ที่สามารถนำจะพาเราให้คล้อยตามได้ตลอดทั้งเรื่องได้มากกว่านี้ถ้าบทหนังและการกำกับเอื้อให้โชว์ฝีมือมากกว่านี้ ส่วนตัวแล้วก่อนดูไม่ได้รู้มาก่อนว่าสร้างมาจากมังงะ เสียดายที่ความเป็นหนังดนตรีนั้นแบนเรียบไปหน่อย ถึงจะมีฮุกไคลแม็กซ์ให้สนุกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เกินความคาดเดาและไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมาย และที่สำคัญคือมีตัวละครที่มีแพสชั่นความคลั่งไคล้ดนตรีอยู่ในหนัง เรารู้เหตุและผลของความหลงใหลและความฝันที่มีต่อดนตรีแจ๊ส แต่เรากลับไม่ได้เห็นสถานการณ์ที่เล่าให้เห็นภาพความคลั่งไคล้และความสำคัญของเพลงแจ๊สกับชีวิตพวกเขาได้ลึกซึ้งกินใจเท่าที่ควร หนังเล่าความลุ่มๆ ดอนๆ ของชีวิตวัยรุ่นมัธยมที่ต้องเลือกเส้นทางชีวิตเพื่อที่จะเติบโตในวันข้างหน้าแต่เรากลับไม่ได้รู้สึกอินตาม ดนตรีแจ๊สจึงเป็นแค่เสียงเพลงที่ดังลอยๆ อยู่ในหนังเท่านั้นเอง รวมๆ แล้ว Kids on the Slope เป็นหนังรักมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ดูได้เรื่อยๆ ซึ่งหนังทั้งเรื่องแบกไว้ด้วยเสน่ห์ของนักแสดงหลักทั้ง 3 คน สำหรับใครที่อยากไปดูความทะเล้นมุทะลุของพระเอกหัวทองของไทชิ ความเนิร์ดเนี้ยบสุภาพบุรุษของหนุ่มแว่นของยูริ กับความน่ารักคาวาอี้ของน้องนานะในบทสาวเรียบร้อยที่หนุ่มๆ ต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็น่าจะคุ้มความคาดหวัง ส่วนเรื่องความซาบซึ้งในรักวัยเรียนและมิตรภาพก็พอได้อยู่แหละ แต่คงไม่ถึงขั้นดีงามประทับจิตประทับใจ เอาจริงๆ แล้วก็ชอบบทสรุปเส้นทางเลือกของตัวละครหนึ่งในนั้นทีเดียวล่ะ ให้ภาพที่น่าสนใจดี แล้วการจบหนังแบบให้เริ่มต้นมิตรภาพต่อไปได้ด้วยดนตรีก็งดงามอยู่ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6.8
|
||
3 มิถุนายน 2561 18:34:12 (IP 49.49.236.xxx)
|
||
Kids on the Slope หรือชื่อไทยว่า เพลงแรก รักแรก จูบแรก หนังเล่าเรื่องราว นิชิมิ คาโอรุ (จิเน็น) เด็กหนุ่มเรียนดีผู้ที่ต้องย้ายโรงเรียนจากโยโกสุกะมาอยู่ที่จังหวัดนางาซากิเนื่องจากสาเหตุของทางบ้าน ทำให้เขาได้พบกับ คาวาบุชิ เซ็นทาโร่ (ไทชิ) ตัวพ่อประจำโรงเรียน ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกันและรวมตัวกันตั้งวงดนตรีแจ๊ส โดยมีเพื่อนสาวคนสวย ริตสึโกะ (นานะ โคมัตสึ) คอยเป็นกำลังใจให้และกลายเป็นความรักสามเส้า มิตรภาพ ดนตรี และรักแรก จะทำให้คุณคิดถึงคนที่ไม่เคยลืม ความรู้สึกหลังชม ต้องบอกก่อนเลยว่าผมไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้หรือดูอนิเมะเรื่องนี้มาก่อนเลยอาจจะมีบางจุดที่ไม่ถูกใจแฟนการ์ตูนบ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความสนุกและมีการเล่าสายสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีมากพอสมควรแต่ก็มีจุดที่ไม่ชอบบ้าง สื่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ 1.หนังมีการเล่าถึงสายสัมสัมพันธ์ของเพื่อนที่มีความชอบในสิ่งเดียวกันได้ดี 2.หนังมีการถ่ายทำที่สวยงาม และนักแสดงแสดงได้ดีในทุกบทบาท 3.ดนตรีที่มีในหนังนั้นดีมากและมีฉากการเล่นดนตรีได้น่าตราตรึงใจ สิ่งที่ไม่ชอบในหนังเรื่องนี้ 1.ช่วง romance บางส่วนในหนังดูมาขัดๆ ไปหน่อย และบางตัวละครเบาบางไปจึงทำให้อินไม่สุดเท่าไหร่ โดยรวม เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงสายสัมพันธ์ของเพื่อนได้ดี และมีดนตรีที่ดึงดูดมากๆ เหมาะกับผู้ชมทุกวัยโดยเฉพาะกับเด็กนักเรียนมัธยม สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8.5
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.7
|
||
30 พฤษภาคม 2561 15:29:23 (IP 119.46.186.xxx)
|
||
Kids on the Slope จริงๆ เรื่อง Kids on the Slope หรือแฟนๆ อาจคุ้นเคยกับชื่อ Sakamichi No Apollon ได้เคยถูกทำเป็นการ์ตูนในเวอร์ชั่นอนิเมะและมังงะมาก่อน ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นฉบับคนแสดง (Live-action) ได้เล่าเรื่องราวแบบเดียวกันกับทั้งสองเวอร์ชั่นนั้นแบบไม่ผิดเพี้ยนสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าฉากไหนฟินๆ พีคๆ ก็หยิบนำมาหมด และสามารถทำออกมาได้ดีเกินคาดมากๆ ด้วยความที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงแจ๊ส พอถูกหยิบเอามาทำเป็นหนัง ยิ่งกลับทำให้เราได้อินมากกว่าในการ์ตูนเสียอีก หนังยังมีฉาก Y ให้สาวๆ ชวนจิ้น ฟินร้องกรี๊ดอยู่เต็มไปหมดเช่นกัน โดย Kids on the Slope เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มหน้ามน คนใส่แว่น แสนซื่ออย่าง คาโอรุ เด็กใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนบนเนินสูงทำให้เขาได้พบกับเพื่อนสองคนที่ทำให้เขาได้รู้จักกับคำว่า “ความรัก” เซ็นทาโร่ เด็กผู้เป็นที่ยำเกรงของคนอื่นๆ แถมยังบ้าระห่ำ และ ริตสึโกะ เด็กสาวผู้สดใสน่ารัก ถึงแม้ว่า คาโอรุและ เซ็นทาโร่ จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่เชื่อมทั้งสองไว้ด้วยกันคือ “ดนตรี” ทางด้าน คาโอรุ เป็นผู้ที่ฝึกเล่นเปียโนมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วน เซ็นทาโร่ ก็ตีกลองมาเช่นกัน แต่เขาจะเล่นเฉพาะเพลงแจ๊สเท่านั้น ทำให้ทั้งคู่ได้มาร่วมหัวจมท้าย บรรเลงบทเพลงแห่งมิตรภาพ ผ่านดนตรีแจ๊ส เป็นท่วงทำนองที่ไพเราะและงดงาม แน่นอนว่าหนังเลือกคนแสดงมาได้เหมาะเจาะอย่างยิ่งในทุกตัวละคร ตัวคาโอรุเองเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ดูอ่อนต่อโลก และ เซ็นทาโร่ ที่ตัวสูงกว่ามาก และบุคลิกดูห้าวๆ เรียกได้ว่าเหมือนจนทำให้เรานึกถึงการ์ตูนเลย และที่เหมือนมากๆ คงจะเป็น ริตสึโกะ ที่เรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบออกมาจากการ์ตูนเลยทีเดียว ที่สำคัญไปกว่านั้น พระเอกทั้งสองของเรายังต้องตีกลองและเล่นเปียโน ถ่ายทอดดนตรีแจ๊สออกมาจริงๆ ด้วยฝีมือตนเองอีกด้วย! หนังเล่าเรื่องอย่างชาญฉลาด ด้วยหลายๆ ฉากมีเพลงประกอบเป็นดนตรีแจ๊ส ช่างเหมาะเจาะ เข้ากับหลายๆ ฉากเป็นอย่างยิ่ง และบางฉากก็ใช้ดนตรีแจ๊สเล่าเรื่องได้แทนคำพูดอย่างลงตัว หลายๆ ฉากในเรื่องตราตรึงใจเป็นมาก ยิ่งฉากเคาะโต๊ะในห้องเรียนของ คาโอรุ และ เซ็นทาโร่ ที่ทั้งสองทำเป็นเล่นเครื่องดนตรีของตัวเองด้วยการเคาะโต๊ะ พร้อมซ้อนด้วยเสียงเพลงแจ๊สที่เข้ากับจังหวะของทั้งคู่อย่างพอดิบพอดี นับว่าเป็นฉากที่น่าจดจำโคตรๆ หรือแม้กระทั่งการแสดงของทั้งคู่ในช่วงท้ายๆ เรื่อง ที่ดูจบแล้วลืมไม่ลงเลยทีเดียว นอกเหนือจากความอัศจรรย์ด้านเพลงประกอบแล้ว หนังยังถ่ายคุมโทนสีในแต่ละช่วงของหนังได้เป็นอย่างดี เช่นการแต่งตัวโทนหน้าร้อนที่ทั้งสามพึ่งรู้จักกันและไปเที่ยวทะเล ทั้งหมดจะดูเป็นโทนร้อน แต่พระเอกกลับใส่โทนเย็น แสดงให้เห็นถึงความ “แตกต่าง” กันอยู่ในช่วงแรกๆ แต่เราจะเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆ ทั้งหมดจะแต่งตัวเป็นโทนเดียวกัน เพื่อแสดงถึง “ความสัมพันธ์” ที่เกิดคำว่า “มิตรภาพ” ขึ้น อย่างเดียวจริงๆ ที่รู้สึกขัดๆ นิดหน่อย คือช่วงก่อนจบของหนัง ที่รู้สึกเหมือนหนังกำลังหาทางลง และทุกอย่างดูง่ายดาย ดูรีบๆ จนเกินไป แต่ก็ยังกู้สถานการณ์ด้วยการทำฉากสุดท้ายได้ยอดเยี่ยมน่าปรบมือให้สุดๆ สำหรับใครที่เป็นแฟนของการ์ตูนเรื่องนี้บอกเลยว่าห้ามพลาด และสำหรับใครที่ไม่เคยดูการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนอย่างผม ก็ยังยืนยันนอนยันคำเดิมว่าควรหาเวลาไปดูซะ พอดูจบ คุณจะอยากไปหาการ์ตูนมาดูต่อ เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ทำมาจากการ์ตูนแล้วผมรู้สึกชอบที่สุดตั้งแต่เคยได้ดูมาเลย หนังน่าจดจำมากๆ ลงตัว กลมกล่อม และอิ่มเอมไปด้วย “มิตรภาพ ความผูกพัน และดนตรีแจ๊สที่เข้ากันอย่างลงตัว” เอาไปเลย 9/10 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
9
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
9
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ