หนัง The 8-Years Engagement หรือชื่อไทยว่า บันทึกน้ำตารัก 8 ปี " ถ้าคุณรักใครคนหนึ่ง แล้วคน ๆ นั้นต้องป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่สวยเหมือนเมื่อก่อน .... แถมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใครตอนที่หายป่วย .. " ถ้าเรื่องนี้ เกิดขึ้นกับเรา ... เราจะยังรักเธอคนนั้นมั้ย ? The 8-Years Engagement บันทึกน้ำตารัก 8 ปี 8 Nen Goshi no Hanayome สร้างจากเรื่องจริงเรียกน้ำตาของชายหนุ่มที่รอคอยคู่หมั้นซึ่งกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนถึงพิธีแต่งงานเพียงไม่กี่เดือน การรอคอยของเขาใช้เวลานานถึง 8 ปี….. ฮิซาชิ ( ทาเครุ ซาโต้ ) และ มาอิ ( ทาโอะ ซึจิยะ ) คู่รักที่สัญญาว่าจะแต่งงานกัน ก่อนพิธีแต่งงานแห่งความสุข ใกล้เข้ามา มาอิเกิดล้มป่วยกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เธอต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา พ่อแม่ของมาอิ บอกกับฮิซาชิว่าไม่รู้ว่าลูกสาวของตนจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่ฮิซาชิก็ยังคอยอยู่ดูแลมาอิอย่างไม่ย่อท้อ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งเธอจะหายดี เวลาผ่านไปปีกว่า ในที่สุดมาอิก็ฟื้นขึ้นมา แต่สูญเสียความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขาไป 8 ปีนับตั้งแต่สัญญาแต่งงาน ฮิซาชิ จะทำให้ มาอิ กลับมารักเขาได้อีกครั้งหรือไม่
Twenty-somethings Hisashi and Mai are engaged. When suddenly Mai's heart stops and she falls into a coma all Hisashi can do is remain by her side, albeit without knowing whether she might improve. Things look up when Mai finally comes out of the coma and becomes conscious again, but she has suffered brain damage and cannot remember her man.
ผู้ชมทั้งหมด
7,156 ครั้ง
|
เข้าฉาย
14 มิถุนายน 2561
|
ออกโรงแล้ว |
14 มิถุนายน 2561 15:05:49 (IP 119.46.186.xxx)
|
||
The 8-years Engagement “ไม่ถึงกับน้ำตาไหล แต่ภายในก็ยังซาบซึ้ง” พล็อตแบบนี้คงได้ยินกันมาหลายร้อยครั้งแล้วที่ว่า “ถ้าวันนึงฉันตื่นขึ้นมาความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้เลย ลืมว่าเธอเป็นใคร ลืมว่าเคยรักกันหล่ะ?” ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้น กลับกลายเป็นเหตุการณ์จริงไปซะได้หนังดราม่าจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของคู่รักที่นิยามได้ว่า “ยิ่งกว่าเทพนิยาย” เรื่องราวสุดน่าเหลือที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านฝีมือผู้กำกับอย่าง ทากาฮิสะ เซเสะ และมือเขียนบทจากเรื่อง If cats disappeared from the world และ Be with you โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุบางอย่างทำให้ฝ่ายหญิง มาอิ (ทาโอะ ซึจิยะ) ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา พร้อมกับที่เธอตื่นขึ้นมาและจำเรื่องราวของฝ่ายชาย ฮิซาชิ (ทาเครุ ซาโต้) ไม่ได้เลย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านี่คือคนรักของเธอ แต่ฝ่ายชายก็อยู่เคียงข้างมาตลอด คอยดูแลตั้งแต่ยังไม่ลืมตา จนเธอตื่นมาจำเขาไม่ได้ เขาก็ยังคงรักเธอไม่เปลี่ยนแปลงอยู่เช่นเดิม หลังจากดูจบแล้วก็ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนั้น เรายังจะรักคนๆ นี้อยู่ไหม?” หนังดำเนินเรื่องที่จะเน้นความสมจริง อารมณ์จริงๆ มากกว่าการสร้างฉากโรแมนติก บิ้วท์อารมณ์คนดู คือฉากซีนอารมณ์หลายๆ ฉาก ผู้กำกับเลือกที่จะไม่ใช้เสียงดนตรีหรือเพลงประกอบ มาช่วยนำอารมณ์คนดูเลย แต่กลับปล่อยให้ตัวพระ-นาง เล่นซีนอารมณ์กันอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นจุดที่ดีและผมชอบ แต่มันก็ออกมาได้ไม่ชวนน้ำตาแตกขนาดนั้น ทางด้านตัวหนังดำเนินเรื่องช้ามาก เนิบมาก ด้วยความที่ไม่ได้มีเพลงประกอบหรืออะไรช่วย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าหนังมันเนือยสุดๆ หนังเริ่มเล่าความสัมพันธ์ของตัวละครคู่พระ-นาง ตั้งแต่เริ่มรู้จักกันแต่ต้น ผ่านทุกเรื่องราวของความผูกพันธ์ที่ทั้งสองได้ก่อขึ้น ถักทอ ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ผ่านทุกความยากลำบาก เห็นถึงความพยายามของทั้งคู่ แต่ปัญหาของมันอยู่ที่ “มันราบรื่นเกินไป” จริงๆ เหตุการณ์ที่ตัวพระเอกเจอ มันควรให้เราเห็นถึงด้านที่เขารู้สึกท้อถอย หดหู่ มากกว่านี้ หรือแม้กระทั่งความขัดแย้งต่อครอบครัวฝ่ายหญิงด้วย พอทุกอย่างมันดูราบรื่นไป เราเลยไม่รู้สึกอินหรือดราม่าชวนน้ำตาแตกกับมันสักเท่าไหร่ สิ่งดีงามของหนังเรื่องนี้ต้องขอชมการแสดงของ มาอิ (ทาโอะ ซึจิยะ) ที่เล่นได้เก่งและดีมากเลยทีเดียว ทั้งในซีนอารมณ์ หรือแม้กระทั่งบทตอนที่ตัวเองป่วย เราได้เห็นถึงความตั้งใจและรู้สึกถึงความพยายามของตัวนางเอกจริงๆ ส่วนทางด้านของพระเอก ฮิซาชิ (ทาเครุ ซาโต้) ก็เล่นออกมาได้ดีไม่แพ้กัน มีความใสซื่อ และทำให้ชวนนึกถึงตัวตนจริงๆ ของเจ้าของเรื่องราวนี้อีกด้วย ฉากท้ายเรื่องนี่แหละ ที่ชวนให้ซาบซึ้งและตื้นตันใจที่สุดในเรื่องแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถคั้นน้ำตาให้ออกมาได้อยู่ดี หากใครเคยเห็นคลิป หรือรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความรักของเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องมีน้ำตาใสๆ เกือบร้องไห้และตื้นตันใจกันบ้างแหละ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมยังคาดหวังว่าหนังจะทำออกมาให้เราเข้าไปเตรียมซับน้ำตาเต็มที่ แต่ค่อนข้างจะผิดหวังที่หนังไม่สามารถทำออกมาเรียกน้ำตาได้เลยแม้แต่ซีนเดียว โดยรวมแล้วรู้สึกโอเคบ้างและค่อนไปทางเฉยๆ เสียมากกว่า จึงให้คะแนนอยู่ที่ 6.5/10 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
6.5
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
6.5
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ