หนัง How to Train 3 หรือชื่อไทยว่า อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3 จุดเริ่มต้นจากมิตรภาพเหลือเชื่อระหว่างไวกิ้งหนุ่มกับมังกรไนท์ ฟิวรี ที่น่าสะพรึงกลัว ได้กลายเป็นไตรภาคอีพิคที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขา ในตำนานบทใหม่นี้ ในที่สุด ฮิคคัพและทูธเลสก็จะได้ค้นพบโชคชะตาที่แท้จริงของพวกเขาเสียที นั่นคือการเป็นหัวหน้าหมู่บ้านในฐานะผู้นำของเหล่าเบิร์ค เคียงข้างแอสทริด และการเป็นมังกรผู้นำฝูง ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะขึ้นครองอำนาจ ภัยคุกคามที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญ รวมถึงการปรากฏตัวของไนท์ ฟิวรีเพศเมีย จะทดสอบสายสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างพวกเขาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
Continues the adventure of Hiccup and his dragon Toothless.
[รีวิว] - How to Train Your Dragon - อภิหารไวกิ้งพิชิตมังกร 3
--- 8/10 ---
การปิดไตรภาคที่งดงาม
“หนังอนิเมชั่นที่ครบรส ฟีลกู๊ด สนุก ตลก และเขี้ยวกุดยังคงน่ารักเหมือนเดิม”
เดินทางกันมาเกือบ 10 ปี กับหนังอนิเมชั่นชื่อดัง ที่กระแสตอบรับดีมากๆ ของค่าย Dream Works กับภาคสุดท้าย ปิดตำนานมิตรภาพระหว่างคนกับมังกร How to Train Your Dragon และในภาคปิดนี่แหละ ถือเป็นบทสรุปที่ควรค่าและงดงามที่สุดแล้ว
ภาคนี้เล่าเรื่องราวผ่านมาประมาณ 1 ปี ที่ต่อจากภาคที่ 2 พระเอกของเรา Hiccup ได้กลายมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทนที่พ่อของเขา ซึ่งเขาและพรรคพวกต้องคอยปกป้องมังกรและให้ที่อยู่อาศัย จากพวกนักล่ามังกร เพื่อสานต่อเจตนารมย์ที่อยากจะให้มนุษย์อยู่ร่วมกับมังกรของเขาเอง แต่นั่นทำให้เขาได้เจอกับวายร้ายคนใหม่ที่ยากจะรับมือ ทั้งหมดต้องต่อสู้ และอพยพไปตามหาสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นดินแดนลับแล ที่มนุษย์และมังกรจะสามารถอยู่กันได้อย่างสงบสุข และนี่คือตำนานบทใหม่ครั้งสุดท้ายของพวกเขา
ต้องพูดเลยว่าหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ภาพสวยมากกกกกกกก สวยแบบสวยมากจริงๆ การเคลื่อนไหวของตัวละคร เส้นผม สุดยอดมาก สวยจนยากเกินจะบรรยาย ตอนดูนี่ลืมไปเลยว่าทะเลที่เราเห็นในหนังมันเป็นภาพ CG สวยยังกะภาพจริง ฉากมังกรในเมืองลับแลนี่เล่นเอาเราอ้าปากค้าง และว้าวกับความงดงามนั้นจริงๆ (ที่คุณเห็นในตัวอย่างนั่นแค่ส่วนน้อย ในเรื่องสวยมากกกกก)
หนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ดูง่ายมาก เป็นหนังอนิเมชั่นที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี และในภาคนี้ไม่ต้องเสียเวลาบอกเล่าตัวละครเลย เพราะหลายๆ คนที่มาดูคงรู้จักและรู้สึกผูกพันกับตัวละครเหล่านี้ไปโดยปริยาย นั่นจึงง่ายต่อการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้อีก ทั้งสนุก ตลก มุกก็ใส่มาถูกจังหวะจะโคน ที่สำคัญตัวเด่นของเรื่องอย่างเขี้ยวกุดก็ยังคงน่ารัก น่าเลี้ยงเช่นเดิม เพิ่มเติมคือมังกรเพลิงนวล สีขาว ที่ดูน่ารัก สวย งดงาม ไม่แพ้กันเลย คือแค่จ่ายค่าตั๋วมาดูมังกรสองตัวนี้มุ้งมิ้งกันก็คุ้มแล้วอะจริงๆ 555
การดำเนินเรื่องในภาคนี้อาจจะไม่เข้มข้นเท่าสองภาคแรก และค่อนข้างจะเรื่อยๆ ไปซะหน่อย แต่มันก็ยังสร้างความสนุกและดึงให้เรามีอารมณ์ร่วมกับหนังอยู่เรื่อยๆ ฉากแอ็คชั่นอาจจะน้อย ไม่หวือหวา ตื่นตาตื่นใจเหมือนอย่างภาค 2 แต่มันก็มีให้เราได้เอ็นจอยกับมันบ้าง
สิ่งที่น่าเสียดาย อย่างที่ได้บอกไปว่ามันค่อนข้างจะเรื่อยๆ ตัวร้ายก็เหมือนจะดี แต่รู้สึกว่าง่อยไปหน่อย ตัวร้ายในภาคสองคือยอดเยี่ยมแล้ว จริงๆ ทางค่ายจะให้ตัวร้ายในภาคสองมาโผล่ในภาคสามด้วยซ้ำ อีกอย่างคือ เรารู้สึกว่าจุดพีคและฉากจบในหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้มันยังไม่สุด มันควรจะขยึ้และเรียกน้ำตาได้มากกว่านี้ ถ้ามันทำฉากนั้นออกมาให้ดีกว่านี้ รับรองได้ว่าเรียกน้ำตาคนดูได้อีกบานเลย
ถ้าถามจริงๆ เรายังชอบสองภาคแรกมากกว่านะ แต่รู้สึกว่าภาคนี้จบได้ลงตัวมาก ถึงแม้ว่าเรื่องนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร แต่มันคือการปิดไตรภาคที่งดงามสุดๆ เราชอบทิศทางในตอนจบของเรื่องนี้มาก เราคิดว่าจบแบบนี้แหละ คู่ควรแก่เรื่องทั้งหมดที่บอกเล่ามาเกือบ 10 ปี หลายๆ คนคงจะยกให้แฟรนไชส์ How to Train Your Dragon ติดหนังอนิเมชั่นในดวงใจอย่างแน่นอน
รีวิวจากใจ ไม่สปอล์ย
ไม่อยากให้จบแบบนี้เล๊ยยยยย!!!! แลดูเหมือนเป็นบทสรุปของเรื่องนี้แล้ว ด้วยความที่รักเรื่องนี้มากๆ อยากดูต่อไปเรื่อยๆ อีกสิบภาค อยากดูน้องเขี้ยวกุดเที่ยวเล่นน่ารักแบบนี้ไปเรื่อยๆ และเชียร์เจ้าฮิตคัพจากไอ้หนุ่มน้อยขี้แพ้ที่ค้นหาตัวตนเจอ ผจญภัยในโลกไวกิ้งมาเรื่อยๆ เจอเรื่องดีร้ายกันมากมาย พอมาภาคนี้ทุกอย่างดูคลี่คลาย เนื้อเรื่องสรุปจบเหมือนเครื่องบินแลนดิ้งลงจอดที่จุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ไม่มีอะไรค้างคาให้ติดตามต่อ เคว้งคว้างเลย...
ทางด้านฟิลลิ่งภาคนี้ได้อารมณ์ครบรสมาก แลดูการเติบโตทางความคิดของตัวละครหลายๆ ตัว เรื่องราวต่างๆ นานา ที่ตัวละครเผชิญมันนำพาหนังไปหลายมู้ดหลายอารมณ์มาก ทั้งลุ้น ตื่นเต้น สนุกสนาน ตลกเฮฮา มีความสุข โศกเศร้าคละเคล้ากันไป ทางด้านความสนุกสนานและความบันเทิงไม่ทิ้งมาตรฐานของเรื่องนี้เลย ทำได้มากขึ้นๆ เร้าใจขึ้น ฮาขึ้น สนุกขึ้น เศร้าขึ้น แถมถ้าใครชื่นชอบเรื่องนี้จะอินมากขึ้น ด้วยความผูกพัน ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฮิตคัพและเขี้ยวกุดที่เดินทางเติบโตมาด้วยกันและผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ การเติบโตของทั้งคู่เป็นเสมือนการได้เห็นความเติบโตของเพื่อนในสายตาเหล่าแฟนๆ หนังเรื่องนี้เลย มันซาบซึ้งอบอุ่นมากๆ
ทางด้านงานสร้างก็อลังการและแจ่มจรัสไม่ผิดหวังเลย ท้องฟ้าและเมฆที่เคยสวยในภาคก่อนๆ ภาคนี้ก็แจ่มมากขึ้น ทะเลสวยขึ้น ฉากอลังการขึ้น การออกแบบมังกรตัวใหม่ๆเท่ขึ้น น่ารักขึ้น มุมกล้อง การออกแบบภาพและการเล่าเรื่องเร้าใจเหมือนหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์เลย เร้าใจสุดๆ ฉากไหนสวยก็สวยมากๆ แค่มานั่งดูฉากดูสีก็คุ้มแล้ว การแสดงท่าทางของเขี้ยวกุดและเหล่ามังกรก็แสนจะน่าร้ากกกกกกกก ยิ่งดูยิ่งฟินเหมือนดูแมวน้อยน่ารักในยูทูปเลย
- เด็กเดินตั๋ว-
How To Train Your Dragon 3 : Hidden World
อนิเมชั่นไตรภาคของ Dream Work ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากภาคก่อนๆ เป็นอีกอนิเมชั่นที่เติบโตไปพร้อมๆกับวัยเด็กของเรา ได้เห็นพัฒนาการของฮิชคัพ จากเด็กชายที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ไปจนกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งหมู่บ้านเบิร์ค ที่ขนความสนุกสนาน ฉากแอคชั่น และบทที่ลงตัวมาให้เช่นเคย
ภาคนี้ต่อตรงมาจากภาค 2 1 ปี หลังจากจัดกับดราโก้ ความขัดแย้งกับนักล่าเริ่มทวีมากขึ้นเนื่องจากเบิร์คเป็นที่รวมฝูงมังกรขนาดใหญ่ยักษ์ และเบิร์คเองก็แออัดมากเกินไปจากการรับเหล่ามังกรอาศัยในหมู่บ้าน แม้ตัวเขี้ยวกุดจะเป็นอัลฟาร์ ก็ไม่สามารถรักษาความสงบได้เท่าที่ควร รวมไปถึงภัยร้ายใหม่ที่ใกล้เข้ามา เมื่อเหล่านักล่าได้จ้างนักฆ่ามังกร ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เพลิงนิฬเผ่าพันธ์เขี้ยวกุดสูญพันธ์มาจัดการกับทั้งสอง ภัยคุกคามกับความจำเป็นจำนวนมากที่ถ่าโถมเข้ามา ในที่สุดฮิชคัฟก็ตัดสินใจในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน ประกาศอพยพผู้คน ออกไปหาสิ่งที่เรียกว่าแดนลับแล ที่จะเป็นบทสรุปของหมู่บ้านมังกร และทุกๆ อย่างที่เขาทำมาทั้งหมด
กลิ่นอายของภาคนี้ก็เหมือนภาคเก่าๆ ตลก น่ารักน่าชัง มีโครงสร้างเรื่องที่เรียบง่าย เข้าถึงได้ทุกวัย สอดแทรกด้วยความขัดแย้งในใจของตัวละครที่สมจริง พร้อมกับการเดินเรื่องด้วยภาพจิตนาการของมังกรและไวกิ้งที่ทำให้เราเปิดหูเปิดตาไม่น้อย แต่อาจสู้ภาคแรกไม่ได้เพราะอันนั้นเป็นการเบิกจิตนาการให้โลดแล่นของจริง
ตัวละครหลักอย่างเขี้ยวกุด ที่เป็นตัวชงและตัวขายของเรื่องก็ยังมีเสน่ห์มากๆ ความน่ารักน่าชังของเขี้ยวกุดยังคงทำให้ผู้คนหลงไหลได้ตลอดเวลา แถมเป็นครั้งแรกที่มีตัวเมีย เป็นส่วนผสมที่ดีที่ทำให้ภาคนี้ใครก็ติดตาม
How to Train Your Dragon ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคนี้ให้ความสนในไปที่จิตใจของตัวละครเป็นหลัก โดยเฉพาะฮิชคัพ จากนั้นก็ค่อยๆ ปูเอาความสัมพันธ์ของเพื่อน พ่อแม่ คนรัก และหัวหน้าเผ่ามาถักทอให้เกิดภาพความเป็นมนุษย์ ความสัมพันธ์หลักของภาคนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตและความรัก เราจะได้เห็นการตัดสินใจที่เป็นผู้นำแบบสุดๆของฮิชคัพ เราจะได้เห็นการเติบโตระหว่างความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง เราจะได้เห็นความเชื่อใจของคนที่เรารัก ประกอบเป็นภาพที่งดงาม ตราตรึงในตอนจบ
สำหรับผมแล้วเป็นหนังที่ทำภาคจบออกมาได้ครอบคลุม มันเหมือนภาพบันทึกชีวิตของฮิชคัพ ที่เต็มไปด้วยจิตนาการ จากเด็กขี้แพ้ไปสู่ผู้นำที่เข้าใจผู้คน มีมังกรน่ารักน่าชังให้เสน่ห์ และเป็นคำบอกลาที่ดีของหนังไตรภาค เราต่างก็เติบโตไปมีชีวิตของตัวเอง และทุกงานเลี้ยงมีวันเลิกลา
และสำหรับ How to Train Your Dragon เป็นการเลิกลาที่งดงามมากๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะครับ
How to Train Your Dragons 3 บทสรุปตำนานไวกิ้งขี่มังกร
ช่วงหลังๆ วงการแอนิเมชั่นฮอลลีวูดก็หาแอนิเมชั่นน้ำดียากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแต่ละค่ายเองก็เหมือนจะหมดไอเดียในการสร้างสรรค์งานของตัวเองกันไปแทบทุกค่ายแล้ว ตอนนี้จะเหลือเพียงแค่ค่าย Disney กับ Pixar เพียงแค่ 2 ค่ายเท่านั้นที่ยังเน้นเนื้อหาที่ทำให้ผู้ใหญ่ดูได้ ไม่ใช่แค่ทำเอาฮาให้เด็กดูอย่างเดียวแบบค่าย Ilumination ส่วน Dream Works Animation นั้นก็เหมือนจะไอเดียในการเขียนบทเริ่มแผ่วลงๆ เรื่อยๆ ถึงขั้นเรื่องล่าสุดอย่าง Captain Underpant ค่ายหนังเมืองไทยถึงกับถอดโปรแกรมออกจากโรงฉาย ส่งลงตรงสู่แผ่นกันเลยทีเดียว และดูเหมือนว่าหลังจากที่มีปัญหาในการย้ายค่ายจัดจำหน่ายของ Dream Works Animation จากค่าย 20 Century Fox มาอยู่กับ Universal Picture ก็ส่งผลทำให้ โปรเจคต่างๆ โดนเลื่อนฉายกันระนาว รวมไปถึง How To Train Your Dragon 3 ด้วย ซึ่งเดิมทีต้องฉายตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยซ้ำไป ซึ่งส่วนตัวผมเองก็แอบเป็นห่วงไม่ได้จริง เพราะแฟรนไชส์นี้ คือแอนิเมชั่นที่เรียกได้ว่า น้ำดีของค่าย Dream Works Animation เลยก็ว่าได้ ไม่อยากให้ภาค 3 ที่เป็นภาคที่ปิดไตรภาค ออกมาไม่คู่ควร หรือดรอปลง
หลังจากที่มีโอกาสได้รับเชิญไปชมในรอบสื่อ และได้ดูแล้วบอกได้คำเดียว่า ยอมใจค่ายหนังจริงๆ ถ้าบทไม่ดี กลมกล่อมถึงเพียงนี้คงไม่กล้าคิดที่จะเอาแอนิเมชั่นตัวท็อปของค่ายมาทำภาคต่อ โดยที่ภาคนี้เรื่องราวว่าด้วย 1 ปี จากภาคก่อนหน้า หลังจากที่ฮิคคัพและเขี้ยวกุดได้ปราดราโก้ หัวหน้านักล่ามังกรลง และได้บุกช่วยเหล่ามังกรจากการถูกล่าของนักล่ามังกร ทำให้เบิร์ก ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีเพื่อชิงมังกรทั้งหมดที่มี ทำให้ฮิคคัพ ต้องหาหนทางพาทั้งมังกรและชาวเบิร์ก อพยพไปยังดินแดนที่สาปสูญในตำนาน ในขณะเดียวกันเขี้ยวกุดก็ได้ค้นพบว่า ยังมีมังกรเพลิงนิลอีกตัวที่เป็นเพศเมีย นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะมีคู่เป็นของตัวเองอีกด้วย ทำให้ทั้งฮิคคัพและเขี้ยวกุดต่างมีภาระกิจของตัวเองทำให้ทั้งคู่อาจไมได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป
เนื้อเรื่องในภาคนี้เข้มข้นไปด้วยฉากแอคชั่น รวมไปถึงจุดเปลี่ยนผันของแต่ละตัวละคร ที่ต้องยอมคนเขียนบทจริงๆ ที่สามารถเขียนเนื้อเรื่องที่สนุกเข้มข้น สอดแทรกความตลกเข้าไปได้พอดิบพอดี จริงๆ และที่ต้องชมอีกอย่างคือ ในด้านภาพแอนิเมชั่นของภาคนี้ มีความก้าวกระโดดในงานภาพอย่างเห็นได้ชัด ทุกฉากของเรื่องได้มีการสรรสร้างการจัดองค์ประกอบต่างๆ เรียกได้ว่า ถ้านำฉากทั้งเรื่องมาทำ SnapShot ทุกฉากสามารถกลายเป็นภาพนิ่งที่สวยงามมากเลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นในบางฉากทำให้เผลอคิดไปว่านี่เรากำลังดูแอนิเมชั่นอยู่ หรือดูภาพยนตร์คนแสดงกันแน่ เพราะไม่ว่าจะเป็นการจัดแสงเงา การปั้น3D สิ่งของต่างๆ ลามไปถึงเม็ดทรายก็ดูสมจริงเกินคำว่าแอนิเมชั่นไปแล้ว
ในรอบสื่อที่ผมดูนั่นได้มีการฉายพากย์ไทยเป็นครั้งแรกซะด้วย ขออวยเลยว่างานพากย์ไทยเรื่องนี้ ถึงจะใช้ดารามาพากย์ แต่งานพากย์ก็ไม่ได้ด้อยลงไปกว่านักพากย์มืออาชีพเลย ต้องขอชมเชียร์ ฑิฆัมพร ที่กลับมาพากย์เป็นแอสทริคเป็นครั้งที่ 3 ยังคงทำหน้าที่พากย์ได้ดีไม่แพ้ภาคก่อนๆ เลย และเกรท สพล ที่พากย์เป็นฮิคคัพครั้งแรก แต่งานพากย์ไม่ได้ด้อยลงเลย (เสียงเจ้าตัวมีความคล้ายเสียง วิน ธาวิน คนที่เคยพากย์ฮิคคัพในภาคแรก) ทำให้ความต่อเนื่องของเสียงพากย์ไมได้ด้อยลงไปเลย
จุดที่น่าติดเพียงอย่างเดียวของเรื่องนี้น่าจะเป็นฉากช่วงท้ายๆ ของเรื่องซึ่งคิดว่ามันไม่น่าลากยาวและยืดได้ขนาดนี้ ถ้าตัดจบด้วยความประทับใจ ควรจบได้ตั้งแต่ฉากก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่ควรจะลากยาวไปถึงเพียงแต่ (แต่ก็พอจะเข้าใจได้เพราะถ้าเนื้อเรื่องไปสิ้นสุดในแนวทางนี้ ค่ายหนังสามารถต่อยอดไปทำเป็นซีรีส์ต่อไปได้อีก)
เอาเป็นว่ายอมใจคนสร้างภาคนี้จริงๆ ถ้าบทไม่ดีคงไม่กล้าที่จะกลับมาทำภาคต่อให้กับแฟนไชร์นี้ และคิดว่าเมื่อเปิดฉายจริงในวันที่ 31 มกราคม คงจะกลับไปดูอีกรอบแน่ๆ 9/10ไปเลยสำหรับภาคนี้
ความคิดเห็น (1)