หนัง 7 Days หรือชื่อไทยว่า เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์ "เรื่องราวความรักอันสุดแสนมหัศจรรย์ของนักวิจารณ์อาหาร กับเชฟหนุ่มนอกระบบ ซึ่งเมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เดินทางมาถึงจุดที่ต้องผลักดันความรักไปอีกระดับ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายอยากไขว่คว้าตามฝันที่นิวยอร์ก จนกลายเป็นจุดแตกหัก แต่แล้วเรื่องประหลาดอันสุดแสนมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับทั้งคู่ เมื่อคนหนึ่งต้องตื่นมาอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้ที่ไม่ซ้ำหน้าตลอด 7 วัน ภารกิจสำคัญครั้งใหม่ของทั้งคู่จึงเกิดขึ้น เพื่อตามหาร่างที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งเรื่องราวมหัศจรรย์นี้เอง ที่ทำให้เขา 2 คนรู้ว่ารักกันมากแค่ไหน และพร้อมที่จะส่งมอบความรัก ความทรงจำ และความฝันให้ซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้มันเป็นจริง เเละเก็บความรู้สึกนั้นไว้ให้อยู่กับคนที่รักไปตลอดกาล”
A romantic film star Mew Nittha as Meen, a food critic known as “Golden tongue taster”, and Kan Kantathavorn as Tan, a young unconventional chef who is about to start another step of his relationship with Meen. After 5 years of their dating, Meen wants to get married while Tan’s focus is only on seeking for Michelin Star in New York. The couple’s fight finally leads to the miraculous turning point. 7 days since they fought, Tan wakes up each morning in a different body. A fat guy’s body (Boy Trai Phumirat), an Italian gay’s body (Lorenzo De Stefano), a restaurant manager who is Tan’s number one enemy(Starbuck Pongpitch), a 70-year-old musician (Tong Tewan Sapsanyakorn), an 8 year-old little boy (Angpao Thanyakorn Kulyawuthipong), and a celebrity chef (Ananda Everingham). His mission is to make her realize his true self within by these bodies. And eventually this will be the proof of their love and reveal how their love will
ผู้ชมทั้งหมด
21,331 ครั้ง
|
เข้าฉาย
19 กรกฎาคม 2561
|
ออกโรงแล้ว |
18 กรกฎาคม 2561 17:30:04 (IP 119.46.186.xxx)
|
||
[รีวิว] 7 days เรารักกัน จันทร์ - อาทิตย์ เรื่องราวของ แทน เชฟหนุ่ม (กันต์ กันตถาวร) ที่เป็นแฟนกับนักวิจารณ์อาหารขั้นเทพ มิน (มิว นิษฐา) ทั้งสองได้เกิดเรื่องราวทะเลาะกันจนกลายเป็นจุดแตกหัก แต่พอวันถัดมา แทน กลับค้นพบว่า ตนเองต้องตื่นมาในทุกๆ เช้า เข้าไปอยู่ในร่างใครก็ไม่รู้ถึง 7 คน 7 วัน ด้วยกัน ไล่ไปตั้งแต่วันจันทร์ - อาทิตย์ แทนต้องทำให้มินเชื่อและคลี่คลายปัญหาเรื่องราวความรักของทั้งสองที่เกิดขึ้น พล็อตเรื่องหลักน่าสนใจมากๆ การที่แต่ละวันมีกิมมิคเฉพาะ 7 วัน มีคำจำกัดความในแต่ละวัน จันทร์ - Memories (ความทรงจำ), อังคาร - Different (ความแตกต่าง), พุธ - Only You (เพียงแค่คุณ), พฤหัส - Passion (ความหลงไหล), ศุกร์ - Wonder (ความประหลาดใจ), เสาร์ - Dream (ความฝัน) และอาทิตย์ - Mind Soul (จิตวิญญาณ) ก็ยิ่งทำให้หนังน่าสนใจและเราจะ อ๋อ ว่าทำไมตัวละครเหล่านั้นถึงถูกเลือกมาให้ตรงกับวันเหล่านั้น น่าเสียดาย ที่รายละเอียดของแต่ละตัวละครในแต่ละวัน การแบ่งบท ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ทั้งๆ ที่เราคิดละว่าตัวละครตัวนี้ต้องพาเราไปเห็นฉากซึ้งๆ ดราม่าๆ ได้แน่นอน แต่ฉากที่ควรซึ้งควรดราม่า ทำไมกลับใช้ตัวละครตัวนี้หล่ะ อะไรทำนองนั้น แถมหนังก็ยังไม่ได้ให้เหตุผลมากพอที่เราจะเข้าใจได้ว่าทำไม แทน ถึงต้องเข้าไปอาศัยร่างเหล่านั้นเพื่อไปเจอ มิว หล่ะ? เพราะมีทั้งตัวละครที่ใกล้ชิด สนิทสนมกับมิว แต่บางตัวละครก็ดูจะเกี่ยวข้องกับตัวมิวอย่างผิวเผินเท่านั้น จึงทำให้เกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อยเลย และสิ่งที่น่าเสียดายมากๆ และควรจะเล่นอะไรกับมันได้อีกเยอะแยะเลยคือ การที่ตัว แทน ไปอยู่ในร่างคนอื่น แต่กลับจับไม้จับมือ จูบกับมิวผ่านตัวละครตัวอื่นได้อย่างเฉยๆ และไม่มีแม้กระทั่งรู้สึก เอ๊ะ “ไม่ใช่ตัวเรานะ ไม่ใช่ร่างกายของแฟนเรานะ” ถ้าจับประเด็นตรงนี้มาทำเป็นคอเมดี้ น่าจะทำได้อีกเยอะแยะ และยังสามารถขยี้ความดราม่า ความรัก ความคิดถึงของการพบกันของสองตัวละครได้อีกมากเลยทีเดียว และในซีนท้ายเรื่องที่พยายามจะให้ดราม่า เศร้า เคล้าน้ำตา กลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ความรู้สึกในห้วงเวลาตอนนั้น มันน่าจะเศร้าและหดหู่ได้มากกว่านี้มากๆ และเมสเสจที่หนังต้องการจะส่งถึงคนดูมันยังไม่ชัด ไม่เคลียร์สักเท่าไหร่ ในด้านการแสดง ต้องชื่นชม มิว นิษฐา ที่มาเล่นประกบนักแสดงถึง 7 คน ซึ่งในจุดนี้ มิวทำออกมาได้ดีพอสมควร เพราะต้องเล่นกับหลากหลายตัวละครที่อายุ บุคลิก นิสัย แตกต่างกัน (แถมออร่ามิวในเรื่องนี้เปร่งประกายมาก สวย น่ารักแบบฝุดๆ >///<) แต่คนที่โดดเด่น และทำออกมาได้ดีเกินคาดคือ “กันต์ กันตถาวร” ที่เล่นได้ธรรมชาติมากๆ ดูไม่เหมือนการแสดงเลยแม้แต่น้อย เล่นได้ดีโคตรๆ กับอีกตัวละครที่ต้องบอกว่า “เล่นเป็นตัวเองสุดๆ” นั่นคือ “สตาร์บัค” เรารู้จักตัวเขาแบบไหน นั่นแหละ ในหนังเรื่องนี้เป็นแบบนั้นเลย 555 และตัวละครที่เล่นดีแต่น่าเสียดายนั่นก็คือ “อนันดา เอเวอริงแฮม” ที่เปิดเรื่องมาก็ได้เห็นถึงการแสดงอันยอดเยี่ยมและความเป็นโปรของเขา แต่กลับมีพื้นที่ให้เขาได้โชว์ฝีมือเพียงไม่เท่าไหร่ พูดถึงเรื่องนักแสดงมีบางตัวละครที่ทำไม่เหมาะกับบทบาทที่ได้รับ ทำให้สถานการณ์ในหนังตอนนั้น กับตัวละครตัวนั้น ได้ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย และประเด็นเรื่อง “ถนัดซ้าย” ที่เป็นมือที่ แทน ถนัด ในแต่ละตัวละครที่ แทน ได้เข้าไปอยู่นั้น ก็ไม่ได้โชว์ให้เห็นถึงความ ถนัดซ้าย ของตัวละครเสียเท่าไหร่ และอีกอย่างโดยส่วนตัวที่รู้สึกขัดๆ คือการใช้แสงไฟ ที่พยายามทำให้ภาพสวยๆ ฟุ้งๆ เกือบตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เรารู้สึกว่ามันเยอะไป โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ กับความน่ารักของมิว ไปพลางๆ แถมเพลงประกอบ "โลกที่ไม่มีเธอ" ที่ "อิงค์ วรันธร" ร้องไว้เพราะมากที่มากที่สุด ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมากก็คงเป็นหนังที่อบอุ่น ชวนให้หวนคิดถึงความสัมพันธ์ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
5.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
6.5
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ