หนัง Shazam หรือชื่อไทยว่า ชาแซม เราทุกคนต่างมีความเป็นซูเปอร์ฮีโร่อยู่ในตัวของเรา มันก็แค่ต้องใช้มนตร์วิเศษสักหน่อยเพื่อที่จะดึงมันออกมา ในกรณีของ “บิลลี่ แบทสัน” (แอชเชอร์ แองเจล) นั้นดึงออกมาโดยการตะโกนคำว่า SHAZAM! แล้วจากนั้นเด็กกำพร้าวัย 14 ปีที่ต้องเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ก็จะกลายมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่วัยผู้ใหญ่ “ชาแซม” (แซ็คคารี่ เลวี่) ซึ่งพลังพิเศษนี้ได้รับการสืบทอดมาจากพ่อมดชราคนหนึ่ง เขายังคงความเป็นเด็กน้อยด้วยหัวใจที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายดั่งพระเจ้า ชาแซมจะได้สนุกสนานไปกับตัวของเขาในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ด้วยการทำในสิ่งที่วัยรุ่นคนไหน ๆ ก็อยากจะทำด้วยพลังพิเศษต่าง ๆ แค่สนุกไปกับพวกมัน! เขาบินได้มั้ย? เขามีความสามารถในการ X-ray รึป่าว? เขาสามารถปล่อยลำแสงออกมาจากมือได้หรือไม่? เขาจะก้าวข้ามบทเรียนทางสังคมของเขาไปเลยได้มั้ย? ชาแซมมุ่งมั่นที่จะทดสอบขีดความสามารถของเขา ด้วยความบ้าระห่ำอันแสนสุขของเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เขาก็ต้องการที่จะเชี่ยวชาญการใช้พลังเหล่านี้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะไปต่อกรกับพลังอำนาจอันร้ายกาจที่ถูกควบคุมโดย “ดร. แธดิอุส ซิวานา” (มาร์ค สตรอง)
A boy is given the ability to become an adult superhero in times of need with a single magic word.
ผู้ชมทั้งหมด
30,803 ครั้ง
|
เข้าฉาย
4 เมษายน 2562
|
ออกโรงแล้ว |
10 เมษายน 2562 23:34:18 (IP 134.196.241.xxx)
|
||
Shazam! เนื้อเรื่อง นักแสดง ภาพ (ในระบบ IMAX3D) สิ่งที่ชอบมากๆ สรุป สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
5
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
6
|
||
10 เมษายน 2562 15:49:54 (IP 101.108.104.xxx)
|
||
Shazam! อนาคตอันสดใสของ DC Extended Universe นับตั้งแต่ The Dark Knight ที่เป็นตัวจุดประกายโทนหนังฮีโร่สายดาร์คสมจริง จนลามมาใน Man of Steel เรื่อยมา แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไหร่ ทำให้หนังค่ายดีซียุคหลักๆ นั้นเน้นทำหนังโทนสดใส ไม่มืดหม่นอีกต่อไป โดย Shazam! ถือเป็นเรื่องแรกที่เข้าโหมดสดใสเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี แบบเต็มขั้นจริงๆ หลังจากที่ Wonder Woman / Aquaman นำร่องมาก่อนแล้วแบบไม่เต็มตัว Shazam! เป็นเรื่องราวว่าด้วย บิลลี่ แบทสัน เด็กกำพร้าที่ต้องการตามหาแม่ตัวจริงของเขา ได้รับพลังพิเศษเพื่อให้กลายเป็นฮีโร่ ออกปกป้องโลกจากบาปทั้ง 7 ประการ เรียกง่ายๆ คือเนื้อเรืองไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่ตัวเรื่องโดนเด่นตรงมุขตลก ล้อเลี่ยนหนังเรื่องต่างๆ และเคมีที่เข้ากันของทุกตัวละคร ทำให้หนังออกมาเพลิดเพลินตลอด 2 ชั่วโมงจริงๆ แถมท้ายฉากหลังเครดิตอีก 2 ฉากที่เรียกได้ว่าอยากให้ทำภาคต่อเลยทีเดียว สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือ IMAX 3D ของเรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการทำอัตราส่วนภาพขยาย IMAX แต่ด้วยระบบเสียงของ IMAX ทำให้ฉากแปลงร่าง และฉากแอคชั่นต่างๆเสียงแน่นสั่นสะเทือนโรง สะใจคนดูจริงๆ 8/10 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
8
|
||
9 เมษายน 2562 17:01:45 (IP 180.183.244.xxx)
|
||
[รีวิว] Shazam! “แยกกันอยู่เราดี รวมกันทีมีพัง!” เหมือนกับว่าทาง DC จะเหมาะสมกับประโยคนี้จริงๆ พิสูจน์ได้จากหนังรวมตัวฮีโร่ที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็น Batman v Superman เอย หรือแม้กระทั่งหัวใหญ่อย่าง Justice League เอย ก็พังไม่เป็นท่า แต่พอมา Aquaman ต้องบอกเลยว่าดังเปรี้ยงปร้างถล่มทลาย และแล้วก็ถึงคราวหนังฮีโร่เดี่ยวอีกหนึ่งคนจาก DC อย่าง Shazam! ที่น่าสนใจและน่าหวาดหวั่นไปพร้อมๆ กัน เพราะโดนตัดทุนสร้างไปพอสมควร ด้วยความที่ Shazam! เป็นตัวละครที่ไม่เคยปรากฏในหนังมาก่อน และไม่ได้โด่งดังในไทยขนาดนั้น นอกจากแฟนบอยของคอมิกส์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงมองว่ามันค่อนข้างที่จะอิสระ เป็นตัวละครใหม่ แต่ความยากคือ จะทำให้ยังไงให้คนเข้าถึงและอินกับตัวละครนี้ จริงๆ เด็กคงจะอินกับตัวละครนี้ได้ไม่ยาก เพราะ Shazam ก็เป็นเด็ก แค่ทำความดี และได้รับพลังวิเศษจากพ่อมด แค่ตะโกนว่า Shazam แล้วก็กลายเป็นฮีโร่แล้ว ด้วยโครงเรื่องแบบนี้ มันดีมากเลยนะ เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย พ่อแม่พาลูกไปดูก็สามารถสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้จากฮีโร่เรื่องนี้เลย ตอนที่เห็นตัวอย่างเราก็รู้แล้วแหละว่ามันจะต้องเป็นหนังฮีโร่แบบตลกโปกฮาแน่นอน แต่พอได้ดูมันมีอะไรมากกว่านั้น มันเป็นหนังฮีโร่แบบ coming-of-age เรื่องนึงเลยแหละ เราได้เห็นการพัฒนาของตัวละครตัวนี้ได้โอเคในระดับนึง ที่พอจะทำให้เราได้เข้าใจตัวละครอย่าง Billy มีการสอดแทรกประเด็นดราม่าครอบครัวเข้ามาบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมันดูไม่ยัดเยียด ไม่ฝืน แต่ข้อเสียคือมันกลายเป็นว่า Sub Plot ตรงนี้มันเบาบางเกินไป เลยไม่ได้รู้สึกอิมแพคหรืออินกับประเด็นครอบครัวในหนังสักเท่าไหร่ ส่วนที่สนุกของหนังไม่ใช่ฉากแอ็คชั่น เพราะแอ็คชั่นในเรื่องนี้คือส่วนประกอบเล็กๆ จริงๆ น้อยกว่า DC เรื่องอื่นๆ มาก หากไปคาดหวังว่าจะได้เห็นอย่างซัดกันใน Man of Steel หรือ Aquaman อาจจะผิดหวังสักหน่อย แอ็คชั่นในเรื่องนี้ให้ไม่ถึง 10% ของหนังเลยอะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หนังสนุกน้อยลงแต่อย่างใด เพราะจุดขายของหนังมันสนุกตรงการได้เห็นพัฒนาการตัวละครกับมุกตลกเนี่ยแหละ ที่ใส่มาอย่างจัดเต็มมาก มีการแอบแซะฮีโร่ค่ายตัวเองบ้างประปราย จังหวะในการเล่นมุกต่างๆ คือบันเทิง ฮาเลยทีเดียว ต้องชมนักแสดงในเรื่องนี้แต่ละคนด้วย ที่แสดงออกมาได้ดีเลยทีเดียว ทำให้หนังมันตลกเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะ Zachary Levi ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก การเล่นหูเล่นตา แอ็คติ้งต่างๆ ฮาจริงๆ พยายามทำตัวให้เหมือนเด็กคนหนึ่ง แต่ถึงกระนั้น ปัญหาที่เห็นชัดๆ เลยคือ หนังไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ว่า Billy Batson และ Shazam คือคนเดียวกัน เพราะบุคลิกมันดูต่างกันสุดขั้ว เราไม่เห็นความเป็น Shazam ใน Billy และเช่นเดียวกัน เราไม่เห็นความเป็น Billy ในตัว Shazam ซึ่งถือเป็นจุดด้อยที่ใหญ่มากๆ สำหรับเรา Shazam! ถูกวางไว้จะทำเป็นไตรภาค และแน่นอนว่าภาคแรกก็เหมือนเป็นการปูเรื่องให้เราได้รู้จักกับตัวละครตัวนี้อย่างคร่าวๆ และมันทำออกมาในระดับที่น่าพอใจ ถ้าใครหาหนังฮีโร่ๆ เบาสมอง ไม่ดาร์ค ไม่คิดเยอะ เข้าไปฮาอย่างเดียว เราว่า Shazam! ตอบโจทย์เลยแหละ โดยรวมแล้วมันก็ยังสู้ Aquaman ไม่ได้อยู่ดี แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับ Shazam! เลยแหละ ปล. หนังมีเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยมด้วยในหลายๆ จังหวะ แต่ที่พีคคือช่วงที่ทดสอบพลังของ Shazam ใช้เพลง Don’t Stop Me Now ของวง Queen ด้วย! โคตรเพลิน โคตรน่าประทับใจ ปล. 2 หนังมีฉาก "หลัง" เครดิต 2 ตัวนะ แล้วในฉาก "ระหว่าง" Mid Credit ที่เป็นรายชื่อทีมงานนักแสดงกับฉากหลังการ์ตูน ทำออกมาได้ฮาพอสมควร จิกกัดค่ายตัวเองอีกต่างหาก 555 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
6.5
คะแนนเฉลี่ย
7
|
||
4 เมษายน 2562 12:46:27 (IP 184.22.98.xxx)
|
||
SHAZAM! " เอ่ยคำวิเศษเพื่อพลังเหนือมนุษย์ " 132 min | Action/Comedy | Directed by David F. Sandberg หนังว่าด้วยเรื่องราวของ บิลลี่ แบทสัน เด็กกำพร้าธรรมดาที่จับพลัดจับผลูมาอยู่กับบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาพบกับ เฟร็ดดี้ ฟรีแมน เพื่อนจอมเนิร์ด และยิ่งไปกว่านั้นเขายังบังเอิญได้รับการถ่ายทอดพลังจากพ่อมดในตำนาน โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่เอ่ยนามของของ ก็จะได้รับพลังดุดเทพเจ้าไปเลยทันที "ชาแซม" ซึ่งการได้มาของพลังนี้เองก็ไปดึงดูด ดร.ธัดเดอุส เซอร์วานา นักวิทยาศาสตร์ผู้หลงไหลในพลังแห่งตำนานเข้ามาเพื่อแย่งชิงพลังแห่งเทพนี้ ชอบมากในหลายๆ พาร์ทของ Shazam! ตั้งแต่ช่วงดราม่าของตัวละครเองก็ดี ช่วงที่ได้พลังมาแล้วก็ดี คือรู้สึกว่าหนังใส่ใจรายละเอียดดีมาก โดยเฉพาะการพัฒนาของตัวละคร ที่แม้จะได้พลังให้กลายเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตามแต่ก็ยังคงเห็นได้ชัดว่าความคิดความอ่านของเขายังคงเป็นเด็ก 14 อยู่จริงๆ ผ่านการแสดงของ แซ็คคารี่ ลีวาย ซึ่งเขาทำได้ดีมาก คือหนังมันไม่ได้ฮาเกรียนแบบ Deadpool ไปซะทีเดียว มันมีความเบาสมองในแบบหนังเด็กๆ อยู่ ซึ่งตัวหนังเองก็รู้ว่าตัวเองจะเล่าอะไร กำลังพูดถึงอะไรอยู่ ทำให้เขาไม่ฝืนในความเป็นหนังเด็กของหนังมันก็เลยดูเพลินมาก เพียงแต่มุกตลกของหนังจริงๆ ก็อาจจะไม่แมสมาก ออกจะเป็นมุกเนิร์ดซะเป็นส่วนใหญ่อย่างเช่นพวกมุกจากหนังเรื่อง Big เป็นต้น แต่ในพาร์ทแอ็กชันของหนังก็ใช่ว่าจะไม่น่าสนใจ ออกจะทำได้ดีด้วยซ้ำ เกือบจะมันส์ได้เท่า Man of Steel เลย รวมไปถึงพวกเซอร์ไพร์สต่างๆ ที่มีอยู่ในหนังก็ทำออกมาได้น่าสนใจ โดยรวมแล้วถือว่าเอาอยู่เลย ครบรสมาก ทั้งความดราม่าเอย แอ็กชัน ตลก และที่คาดไม่ถึงก็คือความอบอุ่นที่ในตอนแรกไม่คิดว่าจะมาแฝงอยู่ได้ ใครที่หมดศรัทธากับ DCEU คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกเรื่องถัดจาก Wonder Woman และ Aquaman ที่เข้ามาช่วยกอบกู้จักรวาลได้เลย สรุปก็คือ Shazam! เป็นหนังฮีโร่ที่ใช้ทุนสร้างไม่เยอะ แต่คุณภาพได้มาเกินทุนสร้าง ทั้งตัวบท งานวิชวลอะไรก็ทำออกมาได้ดี และยังทำหน้าที่แนะนำตัวละครฮีโร่ผู้ใหญ่หัวใจเด็กคนนี้ให้กับผู้ชมได้รู้จักได้อย่างดีเยี่ยม คือถ้าคุณเป็นคอหนังฮีโร่ และยิ่งถ้าชื่นชอบในค่าย DC ยังไงก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ณัฏฐ์พัชร์
5 เมษายน 2562 14:46:00 (IP 1.46.132.xxx)
|
||
GUEST |
สนุก
|
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ