หนัง Aladdin หรือชื่อไทยว่า อะลาดิน เรื่องราวของเด็กหนุ่มยากจนนามว่า อะลาดิน (มีนา มาซูด) เขาถูกพ่อมดจาฟาร์ หลอกล่อให้เข้าไปเอาตะเกียงในถ้ำสิงห์กลางทะเลทราย ที่นั่นอะลาดินได้ถูตะเกียงปลดปล่อยวิญญาณของยักษ์จีนี่ที่มาพร้อมกับพร 3 ประการ อะลาดินขอพรข้อแรกให้เขาได้เป็นเจ้าชายอาลีเพื่อจัดขบวนขันหมากสุดอลังการไปสู่ขอเจ้าหญิงจัสมิน เขาไปพร้อมกับพรมวิเศษและพาเจ้าหญิงออกเหาะชมโลกในเพลง a whole new world ภาพยนตร์เต็มไปด้วยการผจญภัย การแย่งชิงบัลลังก์ของจาฟาร์ และความอลังการของโปรดักชั่น
A live-action retelling of the 1992 Disney film of the same name.
ผู้ชมทั้งหมด
27,903 ครั้ง
|
เข้าฉาย
22 พฤษภาคม 2562
|
ออกโรงแล้ว |
26 พฤษภาคม 2562 22:13:32 (IP 184.22.88.xxx)
|
||
โอ้โห่....นิ๊วววววเวิลลลลลลลด์ - รีวิวอะลาดิน พากย์ไทย ฉบับเด็กเดินตั๋ว เห็นว่ากันว่าสนุกมาก เลยลองไปดูมาในเวอร์ชั่นพากย์ไทย เพราะความคุ้นเคยกับการดูการ์ตูนดิสนีย์พากย์ไทยมาตั้งแต่เด็กแล้วเลยรับจุดนี้ได้ เรียกว่าคุ้นเคยเลยก็ว่าได้ ซึ่งพากย์ไทยก็ช่างดีสนีย์ดีจังเลย ตลอดทั้งเรื่องบันเทิงอย่างมาก ตามสไตล์ดีสนีย์ที่มีงาน musical ให้รับชมกันแบบอลังการงานสร้าง เรื่องนี้ก็ไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ทั้งร้องทั้งเต้นแถมแหวกแนวผสมผสานงานเบรกแดนซ์ ฮิปฮอป ร่วมสมัยมาก ซึ่งงานเพลงร่วมสมัยอันนี้จริงๆ เวอร์ชั่นการ์ตูน(สมัยวิดีโอเทป)ก็มีอยู่..จำได้ สำหรับอะลาดินความร้องความเต้นนี้บอกได้เลยว่ามันส์พะยะค่ะมากๆ อลังการน้องๆ งานเปิดกีฬาโอลิมปิกเลย สนุกใช้ได้เลย งานกำกับของเฮียกาย ริชชี่ เจ้าของงานกำกับงานบู๊สุดกวนอย่าง Snatch หรือหนังสายลับบู๊สุดฮาอย่าง UNCLE สำหรับอะลาดินความบู๊ความฮาก็มาจัดเต็มใช้ได้สไตล์พี่เค้าเลย บู๊แอคชั่นบันเทิงไร้รอยต่อทอเต็มผืนจริงๆ งานสร้างนับว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก ด้วยความเข้าถึงการออกแบบงานสไตล์อาหรับตะวันออกกลางค่อนไปทางโมร็อคโค ทำให้ฉากสวยงามวิจิตรมากๆ ทั้งพร็อพทั้งเซ็ตจัดเต็มดูแล้วเพลิดเพลิน งานเสื้อผ้าก็ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ สวยงามสไตล์ตะวันออกกลางจริงๆ (คือตอนเด็กๆ เข้าใจว่าอะลาดินเป็นคนอินเดีย แต่พอมาดูหนังก็เลยเข้าใจใหม่ว่าเป็นอาหรับ) ส่วนงานกล้องก็วางมุมมาตามสูตรหนังแอคชั่น ทำให้ความดิสนีย์มาเจองานแอคชั่นได้ถึงใจดี ดูเร้าใจไปขั้นกว่าของงานดิสนีย์เยอะเลย นับว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากเหมือนกัน นอกจากนี้น้องลิงอาบู น้องเสือราชาล และน้องพรมวิเศษก็น่ารักบ้องแบ๊วน่าเอาใจช่วยมากๆ เป็นซีจีที่นั่งอยู่ในใจคนดูราวกับมีชีวิตจริงๆ การแสดงของอะลาดินและเจ้าหญิงจัสมินนำพาหนังไปได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดได้อย่างเฉียบคมทั้งการดำเนินเรื่องและอารมณ์ โดยเฉพาะตัวเจ้าหญิงที่ต้องแสดงจุดยืนทางการเมืองในฐานะสตรีในภาพยนตร์ที่ค่อนไปทางหนังครอบครัว เรียกได้ว่ากำลังดีไม่ขาดไม่เกิน มีพลังมากบางซีนนี่ขนลุกเลย ไม่ธรรมดาจริงๆต้องชื่นชม...ส่วนเฮียวิล สมิธที่เล่นเป็นยักษ์จีนี่ก็กวดและร่าเริงมีพลังไปสุดจริงๆ เอ็นเนอร์จี้ของพี่วิลนี่เต็มเปี่ยมล้นทะลักจนรู้สึกกระปี้กระเป่าตามแอคติ้งของพี่วิลเลยครับ เป็นยักษ์จีนี่ที่เหมือนการ์ตูนแต่แอบมีการตีความการแสดงให้มีมุมที่แอบน่ากลัวๆมีมิติด้านมืดนิดหน่อย โดยรวมอะลาดินเอ็นเตอร์เทนมาก เหมาะสมหรับทุกเพศทุกวัย ยิ่งไปดู IMAX น่าจะได้ฟีลสนุกสนานเต็มๆและคุ้มมากๆ ทั้งภาพสวย ซีจีดีงาม ร้องเล่นเต้นมันส์มาก
- เด็กเดินตั๋ว - สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
8.5
ดนตรีประกอบ
9.5
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
8.7
|
||
26 พฤษภาคม 2562 02:12:13 (IP 184.22.230.xxx)
|
||
[รีวิว] Aladdin จริงๆ Disney ที่นำเอาการ์ตูนในอดีตมาทำเป็นหนังหลายเรื่องก็สนุกนะ ชอบด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น Jungle Book, Maleficent, Beauty and the Beast แต่กับ Aladdin เราค่อนข้างจะเฉยๆ กับมันเสียมากกว่า ในวัยเด็ก เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ดูการ์ตูน Aladdin กันมาแล้ว ซึ่งในแบบฉบับหนังนี้ ยังคงดำเนินเรื่องราวเค้าโครงเรื่องหลักเอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งเป็นการเคารพต้นฉบับแถมยังจับประเด็นของเรื่องราวได้ดี เพียงแต่ว่าไอ้ฉากที่ควรมีมันดันไม่มีซะนี่ เช่นฉากจาฟาร์กลายเป็นงู ที่สำคัญหนังยังมีเพิ่มเติมเรื่องราวอื่นๆ เข้ามานิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่อง เฟมินิสต์ หรือชนชั้นวรรณะ ที่ค่อนข้างตีความขยายความมาจากต้นฉบับเวอร์ชั่นการ์ตูนได้ดีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินเรื่องและเนื้อเรื่องโดยรวมมันยังไม่สนุกพอ จริงอยู่ที่มันมีความเคารพต้นฉบับสูงในระดับหนึ่ง มันจึงทำให้มันค่อนข้างจะการ์ตูนไปสักหน่อย การที่เราได้เห็นตัวละครวิ่งหนีและมีฉากทหารชนกัน เรารู้สึกว่ามันโคตรการ์ตูน ส่วนตัวสำหรับเรา ถ้าเราดูเวอร์ชั่นหนังแล้วยังคงให้ความรู้สึกเหมือนเดิม ไม่แปลกใหม่ เหมือนดูการ์ตูนในเวอร์ชั่นเดิมอยู่ มันไม่เวิร์คสำหรับเรา ที่น่าตื่นตาขึ้นก็คงจะเป็นฉากกับการแต่งตัวที่มันดูวิจิตรตระการตาในระดับนึง สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเรื่องนี้เลยก็คือเพลง และเพลงในเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นี่แหละคือตัวชูโรงที่ยังพอทำให้หนังเรื่องนี้เพลิดเพลินได้บ้าง คือแต่ละเพลงต้องยอมรับเลยว่าพอมาฟังเวอร์ชั่นนี้แล้วเพราะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น A Whole New World ในเวอร์ชั่นของนักแสดงในหนัง หรือจะเป็นเวอร์ชั่นใน End Credit ของ ZAYN กับ Zhavia Ward ก็ตาม หรือแม้กระทั่ง Speechless ที่เพลงนี้ Naomi Scott หรือเจ้าหญิงจัสมิน ร้องออกมาได้โคตรยอดเยี่ยม และยิ่งการแสดงในหนังฉากนี้ของเธอ ดูดี มีพลังชะมัด มาทางด้านนักแสดงกันบ้าง เราผิดหวังกับตัว อะลาดินเลยแหละ นักแสดงอย่าง Mena Massoud ถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้ไม่มีเสน่ห์เลย แม้กระทั่งในชุดเจ้าชายก็ตาม ก็ยังดูไม่โดดเด่นจริงๆ ซึ่งขัดกับทางด้านของ Naomi Scott ในบทบาทของเจ้าหญิงจัสมิน ที่สวย สง่า ดูมีเสน่ห์มากๆ เลยทำให้สองตัวนี้เข้าฉากกัน แลดูเคมีไม่เข้ากันอย่างแรง แต่ที่ต้องชื่นชมเลยคือ Will Smith ในบทยักษ์จินนี่ ที่ช่วงหลังนี้เราไม่ได้เห็นเขาเล่นบทตลก ฮาๆ ขนาดนี้มาหลายเรื่องและ ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้จัดหนักจัดเต็ม เรียกได้ว่าอีกหนึ่งสิ่งที่พอจะทำให้หนังสนุกและเพลิดเพลินได้นอกจากเพลงแล้วก็เขาเนี่ยแหละ เป็นตัวขโมยซีนอย่างแท้จริง นี่ถ้าไม่บอกว่าหนังเรื่องนี้กำกับโดย Guy Ritchie เราไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเขา เราอาจจะผิดเองที่คาดหวังความเป็นตัวเขามากไป เอกลักษณ์ของ Guy Ritchie จากผลงานที่ผ่านๆ มา แทบไม่มีให้เห็นเลยในเรื่องนี้ จริงๆ มันก็มีบ้างแหละ แต่น้อยและเบาบางมาก ถ้าไม่อ่านชื่อ ดูข้อมูล โปสเตอร์ นี่ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นเขา ยิ่งพอดูจบยิ่งหงุดหงิด และอยากจะบอกเลยว่ากลับมาทำหนังแนวเดิมที่ตัวเองถนัดดีกว่า สรุปแล้ว Aladdin โดยส่วนตัวเราเฉยๆ กับมันมากจริงๆ ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาดูด้วยซ้ำ แต่พอเห็นชื่อ Guy Ritchie และ Will Smith ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมาทันที แต่พอดูแล้วก็ยังเฉยๆ กับมันอยู่ดี นี่ถ้าไม่ได้เพลงกับ Will Smith ช่วยไว้ มันคงจะน่าเบื่อไปกว่านี้แน่ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเราเอง สนุกไม่สนุกยังไงไปพิสูจน์ด้วยตัวเองในโรงเลยจ้าาาาา สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
6.6
|
||
22 พฤษภาคม 2562 10:25:08 (IP 119.46.91.xxx)
|
||
Aladdin จากอนิเมชั่นสุดคลาสสิคสู่ภาพยนตร์ผจญภัยฟอร์มยักษ์ เมื่อปี 1992 ดิสนีย์ ได้ทำให้คนทั้งโลกเพลิดเพลินไปกับบทเพลงอันไพเราะ และเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของตำนานอะลาดินกับตะเกียงวิเศษไปแล้ว ถึงคราวที่เรื่องนี้จะถูกนำมาปัดฝุ่นฉายใหม่ในรอบ 27 ปี เป็นภาพยนตร์ Live Action ตามรอยความสำเร็จจาก Maleficent / Alice In Wonderland / Cinderellar / Beauty and the beast สำหรับเรื่องราวในเวอร์ชั่นนีเรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบฉากต่อฉากจากเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นเลยก็ว่าได้ พร้อมทั้งแต่งเติมเรืองราวให้สมบูรณ์มากขึ้น มหัศจรรย์มากขึ้น จัดเต็มมากขึ้น สามารถทำให้เรานึกย้อนไปวัยเด็กสมัยครั้งแรกที่ได้ชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ จุดเด่นที่เซอร์ไพรส์ที่สุดของเรื่องน่าจะเป็น วิล สมิธในบทบาท จินี่ ยักษ์สีฟ้าจากตะเกียงวิเศษ ที่หลายๆ คนต่างร้องยี้เมื่อเห็น First look แรกจากในตัวอย่าง ต้องบอกได้เลยว่าเป็นคนที่สร้างเสียงหัวเราะได้จัดหนักจัดเต็มมาก ด้วยความเล่นใหญ่เมืองไทยรัชดาลัย จนทำให้แทบจะเป็นวิล สมิทเพียงคนเดียวจริงๆ ที่แบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ รองลงมาก็เป็น นาโอมิ สก๊อต (จัสมิน) สาวสวยสุดสตรอง ที่ถูกตีความใหม่ให้ทันสมัยขึ้น เป็นอีกหนึงความดีความชอบในหนังเรื่องนี้รองลงมาจากวิล สมิธ และที่ไม่ลืมไม่ได้คือพรมวิเศษและน้องอาบู ลิงคู่ในของอะลาดิน ที่ออกมากี่ฉากก็สามารถแย่งซีนได้เสมอ จุดด้อยในเรื่องที่เป็นไปตามคาดกันคือ นักแสดงที่รับบทเป็นอะลาดิน เรียกได้ว่าในตัวอย่างเป็นยังไง ในหนังก็เป็นแบบนั้นเลยทีเดียว คือน้องนักแสดงนั้นเป็นคนที่ดูแล้วไม่ค่อยมีสเน่ห์ดึงดูดใจคนดูซักเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่าน้องร้องเพลงเพราะจริง เวลาที่ร้องเพลง กราฟความดึงดูดใจของตัวอะลาดินจะพุ่งทะยานมาก และจะดรอปลงมาเพื่อฉากร้องเพลงผ่านไป เอาเป็นว่าส่วนตัวผมเองคิดว่ามันไม่ได้เพอร์เฟ็คอะไรซักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่จนดูไม่ได้ ตัวหนังยังสามารถให้ความเพลิดเพลินแก่คนดูได้ตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม เป็นการดัดแปลง และสานต่อความสำเร็จจากแอนิเมชั่นที่โอเคอยู่ 8/10 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
9
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
8
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ