ครั้งแรกของ โดราเอมอน ในรูปแบบอนิเมชั่นเต็มรูปแบบทั้งระบบปกติและสามมิติ ผลงานโดย ทาคาชิ ยามาซากิ ผู้กํากับที่เคยสร้างความประทับใจให้กับคนดูมาแล้วกับ Always ทั้งสามภาค ที่ครั้งนี้จะมาถ่ายทอดเรื่องราวจากวันแรกถึงวันลาของตัวละครที่ทั้งโลกตกหลุมรัก! เรื่องราวใน Stand by Me: Doraemon เป็นการหยิบเอา 4 ตอนที่ประทับใจที่สุดในตลอด 45 ปีนับตั้งแต่การถือกําเนิดของโดราเอมอน โดยเริ่มจากตอนแรกที่โดราเอมอนเดินทางมาช่วยเด็กผู้ชายขี้แยอย่าง โนบิตะ ด้วยของวิเศษต่างๆจากโลกอนาคต ตอนที่โนบิตะต้องไปผจญภัยในดินแดนหิมะเพื่อช่วย ชิซุกะ ซึ่งนําไปสู่ตอนที่โนบิตะกําลังจะแต่งงานกับสาวที่เขารัก จนไปถึงตอนสุดท้ายที่โดราเอมอนต้องลาจากโนบิตะเพื่อกลับโลกอนาคต
ผู้ชมทั้งหมด
11,279 ครั้ง
|
เข้าฉาย
31 ธันวาคม 2557
|
ออกโรงแล้ว |
8 มกราคม 2558 12:03:38 (IP 101.108.152.xxx)
|
||
Stand by Me Doraemon (Takashi Yamazaki, Ryūichi Yagi / Japan / 2014)
ภาพสวยมากดูเพลินมากๆ ตอนแรกๆนี่ถึงกับตื่นเต้นจากภาพสองมิติที่เราคุ้นชินกลายมาเป็นสามมิติมากๆ แต่พอมันไม่ผจญภัยเท่าไหร่แล้วมันไม่ค่อยสนุก แล้วดราม่าโนบิตะมันไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์เพราะมันก็บอกอยู่แล้วว่าตอนท้ายมันจะจบลงประมาณไหน ความไม่เอาไหนของโนบิตะมันน่ารำคาญมาก ดูมาก็เยอะแต่เพิ่งมารู้สึกว่าน่ารำคาญในตอนนี้แหละ แต่ดีที่ยังอยู่ในความรำคาญที่รับได้อยู่
อีกอย่างรายละเอียดบทมันยังมีช่องโหว่เยอะ เป็นช่องโหว่ที่ขาดการเล่าอธิบายซึ่งเราอยากรู้น่ะนะ พอมันเริ่มเล่าแรกเริ่มตั้งแต่โนบิตะกับโดราเอม่อนเจอกันแล้วเห็นแค่รีแอคแรกเจอของโนบิตะและโดดข้ามรีแอคของตัวละครอื่นที่เห็นโดราเอม่อนครั้งแรกก็เลยรู้สึกว่ามันขาดหายไป แล้วมีมุกคลิเชเยอะแล้วก็ยังเล่นซ้ำบ่อยๆ
เกิดคำถามเยอะเหมือนกันในความสัมพันธ์ อย่างเช่น ไจแอนท์มันแกล้งโนบิตะชกต่อยบ่อยขนาดนั้นมันยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่อีกเนอะ บลาๆๆๆ ก่อนหน้านี้ไม่เกิดความรู้สึกนี้เท่าไหร่กับเดอะมูฟวี่ที่ผ่านๆ มา เพราะมันกลายเป็นจุดที่ละไว้ในฐานความคลิเชคลาสสิกที่มองข้ามได้แต่คราวนี้มันกลับรู้สึกแหยงๆ เพราะมันเอามาเล่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องด้วยมั้ง
แล้วช่วงท้ายไปจนถึงตอนจบมันตั้งใจหลอกวางไปหน่อย..แต่ดีที่เรายังรู้สึกว่ามันเป็นโมเมนต์ที่สวยงามดีอยู่...
เสียงโดราเอม่อนภาษาญี่ปุ่นนี่ แอ๊บแบ๊วน่าร้ากกกกก^^ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
8
คะแนนเฉลี่ย
7.4
|
||
31 ธันวาคม 2557 19:30:40 (IP 171.5.251.xxx)
|
||
Stand by Me เพื่อนกันตลอดไป...
หลังจากเดินปาดน้ำตา ใบหน้าอมยิ้มออกมาจากโรง ค้นพบว่า ”โดราเอม่อน เพื่อนกันตลอดไป” ได้พาเรานั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กของเราโดยสมบูรณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทำหน้าที่เล่าเรื่องของโดราเอม่อนและโนบิตะจบสมบูรณ์ในภาพยนตร์ นอกเหนือจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทำหน้าที่นำพาเราไประลึกถึงความทรงจำในวัยเยาว์อันแสนน่าประทับใจและอบอุ่น ความสัมพันธ์ระหว่างโดราเอม่อนกับความทรงจำต่างๆของเราในวัยเด็กถูกดึงขึ้นมาให้ชื่นชมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการดูการ์ตูนช่องเก้าวันเสาร์อาทิตย์ตอนเช้า การซื้อหนังสือการ์ตูนอ่านหน้าโรงเรียน ซึ่งนำพาไปสู่ความทรงจำอื่นๆในสมัยประถมอีกมากมาย อารมณ์ของภาพยนตร์ยังคงอิ่มเอมและทำหน้าที่นำพาเรากลับไปสู่ช่วงเวลาดีๆในชีวิตอีกครั้ง เสมือนของวิเศษที่โดราเอม่อนได้หยิบยื่นมาให้เรา...
ทันทีที่รู้ว่าจะมาการสร้างภาพยนตร์ “บทสรุปตอนจบ” ของการ์ตูนโดราเอม่อนในรูปแบบอนิเมชั่น ทำให้แทบอยากตีตั๋วเข้าไปดูทันทีอย่างไม่ต้องลังเลใดๆ แล้วยิ่งได้ผู้กำกับอย่าง ทาคาชิ ยามาซากิ ที่ฝากผลงานน่าประทับใจอย่าง Always : Sunset in the third street ทั้งสามภาคมาเป็นผู้กำกับด้วยแล้วยิ่งทำให้โดราเอม่อนเวอร์ชั่นภาพยนตร์อนิเมชั่นเป็นอะไรที่น่าดูเป็นอย่างมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการรวมเอาตอนไฮไลท์ที่เกี่ยวกับเส้นชีวิตของโนบิตะตั้งแต่เริ่มเจอโดราเอม่อน จนถึงอนาคตในภายภาคหน้ามาขมวดรวมเป็นเรื่องเดียวกันโดยใช้หลายๆเหตุการณ์และหลายๆของวิเศษเป็นตัวเชื่อมโยงไว้เป็นเรื่องเดียวกัน และมีการยำของวิเศษที่เป็นไฮไลท์ไว้ให้ได้หายคิดถึงอีกด้วย
ส่วนคาแรกเตอร์ของโดราเอม่อน โนบิตะและเพื่อนๆก็ออกแบบมาเสมือนลายเส้นของฟูจิโอะ (เจ้าของการ์ตูนเรื่องนี้) เป็นอย่างมากแม้จะออกแบบมาเป็น3D แต่ลายเส้นก็ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างน่าชื่นชม รวมไปถึงฉากห้องนอนโนบิตะ บ้านโนบิตะ สนามเด็กเล่น(ที่มีท่อปูนเรียงกันสามอัน) โรงเรียน ห้องเรียน ทำออกมาได้เหมือนในการ์ตูนมาก อะไรหลายๆอย่างที่เป็นซิกเนเจอร์ของหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ก็อยู่ครบแทบทำให้คิดถึงหนังสือการ์ตูนกันเลยทีเดียว (ขนาดฉากชิซูกะอาบน้ำยังมีเลย)
การดำเนินเนื้อเรื่องเป็นไปอย่างละเมียดละไม และอบอุ่นตามสไตล์ของผู้กำกับ แทบจะทำให้รู้สึกเห็นใจและรับรู้อารมณ์โดดเดี่ยวของการเป็นลูกคนเดียวของโนบิตะที่มีโดราเอม่อนเป็นเสมือนพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่น และการลาจากกันระหว่างโนบิตะและโดราเอม่อนมันทำให้เศร้าและสะเทือนใจมากๆ ระหว่างดูก็เอาใจช่วยโนบิตะอยู่เสมอ เสมือนน้องชายที่ต้องต่อสู้กับชีวิตลำพัง ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมและแทบจะไปอยู่ในหนังเลยทีเดียว จังหวะของเส้นเรื่องตั้งแต่เพลิดเพลินจนเนื้อเรื่องหนักหน่วง ทาคาชิสามารถนำพาเราไปสู่แต่ละห้วงอารมณ์ได้อย่างแนบเนียนและนุ่มละมุน
การได้ดูโดราเอม่อนภาคนี้นำพาช่วงเวลาดีๆมาสู่ผู้ชมทุกท่านไม่ว่าขณะดูอยู่หรือออกมาจากโรงแล้ว หรือพาเราไปสู่ห้วงเวลาดีๆในความทรงจำ การได้ดูโดราเอม่อนเรื่องนี้ตอนปีใหม่ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่จะนำพาความสุขมาให้เราตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว ;)
สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะครับ
-เด็กเดินตั๋ว-
31 Dec 2014 สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
10
การดำเนินเรื่อง
10
ดนตรีประกอบ
10
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
10
คะแนนเฉลี่ย
10
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
กอล์ฟ
4 มกราคม 2558 17:46:47 (IP 64.233.173.xxx)
|
||
GUEST |
ผมยากดูโดราเอม่อนตอนเพื่อนกันตลอดไป
|
|
lovewit
3 มกราคม 2558 19:30:31 (IP 223.204.248.xxx)
|
||
GUEST |
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
|
|
puri pat
3 มกราคม 2558 12:07:33 (IP 14.207.105.xxx)
|
||
GUEST |
สนุกและเสร้ามาก
|
|
นัด
3 มกราคม 2558 09:07:24 (IP 182.52.162.xxx)
|
||
GUEST |
ชอบๆ
|
|
wer
1 มกราคม 2558 21:48:05 (IP 171.6.210.xxx)
|
||
GUEST |
good
|
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ