รีวิวหนัง Bombshell - แฉกระฉ่อนโลก

Bombshell

" ต้องมีใครสักคนที่ลุกขึ้นมาสู้ "

109 min | Biography/Drama | Directed by Jay Roach

     จุดเริ่มต้นของกระแส me too นี่คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริงสุดฉาวแห่งวงการโทรทัศน์ เมื่อพิธีกรและผู้ประกาศข่าวสาวจาก Fox News ต่างก็ลุกขึ้นรวมพลังขึ้นมาแฉถึงเรื่องที่ผู้บริหารระดับสูงของช่องเคยคุกคามทางเพศพวกเธอ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยครับว่าหนังที่ดูจะมีแกนกลางหรือหัวใจที่เฟมินิสต์จ๋ามากกขนาดนี้ แต่ระหว่างดูกับรู้สึกว่าตัวหนังมันก้าวไปไกลกว่านั้นมาก ซึ่งนั่นก็คือการต่อสู้กับขนบธรรมเนียม รากเก่าๆ ความคิดในแบบเก่าๆ ซึ่งในที่นี้นั่นก็คือแนวคิดแบบชายเป็นใหญ่ อย่างเช่นการมองเรื่องของการคุกคาม ล่วงละเมิดทางเพศเป็นเรื่องปกติ หรือแม้แต่แนวคิดทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม ความเชื่อเดิม ๆ ที่ไม่ได้รับการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนแก้ไข ทั้งหมดนี้แอบแฝงตัวอย่างเงียบๆ แต่ก็แอบพูดถึงมันอยู่ในหนังเรื่องนี้

     สิ่งที่น่าตกใจมากนั่นก็คือ Charlize Theron โคตรเหมือนผู้ประกาศสาว Megyn Kelly เลย ทั้งจากการเมคอัพ เสริมโครงหน้าบางส่วน และการแสดงของเธอ ที่เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันไม่ได้ต้องเล่นใหญ่โต แต่ก็ดูน่าค้นหา รวมไปถึง Margot Robbie ที่ถ่ายทอดตัวละครสมมติออกมาให้คนดูได้รู้สึกกระอักกระอ่วน น่าเศร้า ไม่แพ้กับอารมณ์ที่เธอปลดปล่อยในฉากสำคัญเลย ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก 

     โดยรวมคือชอบกว่าที่คิดเลย เพราะหนังเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาของตัวละครมากหน้าหลายตาอันดุเดือด ด้วยการตัดต่อที่ฉึบฉับประหนึ่งหนักห้องข่าวมันส์ๆ สักเรื่อง ให้นึกถึงหนังอย่าง The Big Short แต่ดูรู้เรื่องกว่า เส้นเรื่องมันเข้าใจง่ายกว่า และตามทันง่ายกว่ามาก และแน่นอนว่าด้วย pacing แบบนี้หนังก็ไม่มีทางน่าเบื่ออยู่แล้ว ทำให้ทุกอย่างในเรื่องนี้ค่อนข้างลงตัวมาก Bombshell ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่อยากให้มองข้ามเลย แม้ว่าสารของหนังจะหนัก แต่ก็ย่อยได้ไม่ยากเลยครับ

[รีวิว] Bombshell - แฉกระฉ่อนโลก
--- 7.5/10 ---
ตีแผ่ประเด็น Sexual Harassment ของข่าวดังวงการสื่อ
ที่เล่าได้สนุก เข้มข้น รวดเร็ว และชัดเจน
3 นักแสดงนำคือเล่นดีย์มว๊าก

Bombshell เป็นหนังที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงของวงการสื่อชื่อดัง เมื่ออดีตผู้ประกาศข่าว Gretchen Carlson ฟ้องผู้บริหาร Fox News อย่าง Roger Ailes ในข้อหาถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงเกิดเป็นข่าวใหญ่โต และมีผู้หญิงอีกหลายคนออกมาพูดถึงประเด็นนี้เช่นกัน

นอกจากเรื่องจริงที่หนังเรื่องนี้นำมาตีแผ่สร้างความน่าสนใจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความน่าสนใจไม่แพ้กันคือเหล่านักแสดงนำพลังหญิง นำโดย Charlize Theron ในบท Megyn Kelly ตามมาด้วย Nicole Kidman ในบท Gretchen Carlson และ Margot Robbie ในบท Kayla Pospisil ที่เพียงเท่านี้ก็ทำให้อยากเข้าไปดูหนังเรื่องนี้แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ หนังเรื่องนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขา และเข้าชิงออสการ์อีก 3 สาขา โดยทั้งสองเวทีที่ได้เข้าชิงมีทั้งชื่อของ Charlize Theron และ Margot Robbie ติดโผอยู่ด้วย 

หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องเร็วมาก ต้องบอกว่าเร็วมากถึงมากที่สุด ทุกๆ วินาทีจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมากมาย หลุดนิดเดียวคุณอาจจะงงได้ว่าใครไปใคร มันเร็วทั้งบทสนทนา การดำเนินเรื่อง แถมตัวละครในเรื่องนี้ก็เยอะมาก ถึงแม้หลักๆ อาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ตัวละครอื่นๆ ที่ดำเนินเรื่องร่วมไปก็เยอะมากจริงๆ คือต้องมีสมาธิในระดับนึงถึงจะตามได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังเรื่องนี้จะดูยากแต่อย่างใด เพราะมันดูง่ายมาก เพียงแต่คุณต้องตามความเร็วของเรื่องนี้ให้ทันเท่านั้นเอง 

ด้วยความที่มันดำเนินเรื่องเร็ว มีหลายๆ เหตุการณ์ผ่านเข้ามาและก็ผ่านไป มันจึงสนุก เข้มข้น และนั่นมันจึงทำให้หนังไม่น่าเบื่อ แต่มันก็เป็นข้อเสียเหมือนกัน บางทีอาจรับข้อมูลไม่ทันเท่านั้นแหละ เพราะมาถาโถมเข้ามาแบบไม่ให้เราหายใจหายคอเลยทีเดียว

หนังสะท้อนเรื่องราว Sexual Harassment ออกมาได้ชัดเจนมาก ดูแล้วแบบ น่าสงสารและน่าเห็นใจสุดๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Fox จริงๆ มันก็มีข่าวออกมามากมายตั้งแต่กระแสในวงการ Hollywood ที่แห่กันติดแฮชแท็ค #MeToo เรื่องนี้มันเหมือนเป็นการสร้างแรงกระเพื่อม ตอกย้ำว่าการถูกคุกคามทางเพศในองค์กรมันไม่ใช่เรื่องที่ควรนิ่งเฉย มันควรมีใครออกมาทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่แค่การกระทำเท่านั้น ทั้งทางคำพูดด้วยก็ตาม จริงๆ เราชอบประเด็นในตอนท้ายเรื่องมากที่หนังตั้งคำถามกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายๆ แง่ ซึ่งมันก็แบบ “เออจริงว่ะ”

หนังมีการให้ตัวละครหันมาพูดกับคนดูด้วยในบางครั้ง ในช่วงแรกๆ แต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้นำจุดนี้มาเล่นเป็นระยะๆ สักเท่าไหร่ ถ้าเอามาเล่นเยอะกว่านี้มันน่าจะสร้างความบันเทิงให้กับตัวหนังได้เยอะกว่า และการใช้การถ่ายทำแบบเหมือนใช้ Handheld ซูมแบบดิบๆ มันก็ดูแปลกตาดีในหนัง Hollywood และมันก็ดูตื่นเต้นดี ให้ความรู้สึกเหมือนไปแอบ ส.ใส่เกือกเรื่องราวฉาวๆ ในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Fox News ดีเหมือนกัน

ทางด้านตัวละครต้องปรบมือให้ทั้ง 3 นักแสดงนำเลยจริงๆ ทุกคนรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก คาแรคเตอร์แต่ละคนที่แสดงออกมาชัดเจน และรู้สึกว่าเลือกนักแสดงมาตรงกับบุคลิกที่ได้รับจริงๆ ความมั่น ความเป็นตัวแม่ของ Charlize Theron ความเก๋ามีประสบการณ์ของ Nicole Kidman แต่ขอเทใจให้ Margot Robbie เลยจริงๆ เพราะบทบาทที่เธอได้รับ การแสดงสีหน้า ซีนอารมณ์ต่างๆ เรื่องนี้เธอเด่นมาก และทำได้ดีจริงๆ ไม่ใช่คนอื่นไม่ดีนะ แต่อาจไม่ได้มีบทพาไปขนาดนั้น

สรุปแล้ว Bombshell เป็นหนังจะสะท้อนเรื่องราวฉาวโฉ่ในวงการสื่อออกมาได้ชัดเจน ตรงไปตรงมา และเล่าได้สนุกไม่น่าเบื่อและไม่เข้าใจยากเลยสักนิด ทำให้เราได้ตระหนักถึงความรุนแรงที่มันเกิดขึ้นจริงๆ ว่าเราไม่ควรนิ่งเฉย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังมันยังไม่อิมแพคสักเท่าไหร่ แถมยังจบได้ไม่ค่อยกระแทกใจเท่าที่ควร แผ่วปลายซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่มีวัตถุดิบหรืออะไรหลายอย่างที่สามารถเหล่าให้คมจนทิ่มแทงคนดูได้ แต่พอจบแล้วแบบ อ้าว...จบละหรอ ถึงอย่างไรก็ตามมันก็เป็นหนังที่ดีเรื่องนึงเลยแหละ

เอาจริงๆ ความรู้สึกเรามันเหมือนไม่ใช่หนังที่ให้เรามาดูแล้วสร้างความบันเทิง แต่มันคือหนังที่ตีแผ่ บอกเล่าเรื่องราวฉาวโฉ่เหล่านี้ออกมา เหมือนที่ตัวละครอย่าง Gretchen ได้พูดเอาไว้ประมาณว่า 

"ไม่ได้ต้องการให้คนชอบ แต่ต้องการให้คนเชื่อ" 

ก็อาจจะเป็นการเปรียบเอาไว้อย่างกลายๆ ว่า 

"ไม่ต้องชอบหนังเรื่องนี้ก็ได้ แต่อยากให้เชื่อในสิ่งที่หนังเรื่องนี้กำลังบอกเล่าออกไป"