หนัง Ashfall หรือชื่อไทยว่า นรกล้างเมือง ภัยพิบัติสั่นสะเทือนแผ่นดินเกาหลีเกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อภูเขาไฟเพ็กตูที่สูงที่สุดในเกาหลีเกิดปะทุขึ้นส่งขี้เถ้าขึ้นไปสูงถึงชั้นบรรยากาศ เกิดวิบัติไปทั้งกรุงโซลและกรุงเปียงยาง เพื่อรับมือกับหายนะครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดชาวเกาหลีใต้ (ฮา จองอู Along with the gods, The Handmaiden) ต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พิเศษชาวเกาหลีเหนือ (อี บยองฮอน G.I.Joe , I saw the devil) และนักธรณีวิทยาอันดับหนึ่งของประเทศ (มา ดงซอก Train to Busan, Along with the gods) เพื่อหยุดยั้งเหตุวินาศที่อาจจะทำให้เกาหลีหายไปจากแผนที่โลก สร้างโดย Dexter Studios ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Along with the gods
The tale of people who endeavor to stop the volcano of Baekdu Mountain from erupting.
ผู้ชมทั้งหมด
14,983 ครั้ง
|
เข้าฉาย
9 มกราคม 2563
|
ออกโรงแล้ว |
16 มกราคม 2563 23:26:25 (IP 124.120.204.xxx)
|
||
ASHFALL หนังที่ได้นักแสดงดังๆ ของเกาหลีมาไว้เพียบ แต่เหนือสิ่งอื่นใด หนังยังสนุกครบรสอย่างคาดไม่ถึง การดำเนินเรื่องกระชับมาก เข้าจุดพีคของหนังตั้งแต่ต้นเรื่อง มีที่มาที่ไป ดูสนุกและก็ลุ้นกับเนื้อเรื่องที่ผูกปมมา ถึงแม้บางครั้งจะดูไม่สมเหตุสมผล แต่ถ้ามองข้ามได้ก็สนุกสุดๆ ตัวละครในหนังมีปมของแต่ละตัวละคร หนังชวนให้เกิดคำถามระหว่างดูตลอดเวลาว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้แบบนั้น และสุดท้ายหนังจะค่อยๆ เฉลยปมของตัวละครแต่ละตัว ทำให้เรารู้สึกอินกับหลายๆ ตัวละครในหนัง (ส่วนตัวชอบที่หนังมีมุกตลกแทรกเป็นพักๆ มันดีและเราก็หัวเราะไปกับมัน) สำหรับ CG มีหลายฉากมากที่ลอย ลอยจนน่าเกลียดก็มีเยอะ แต่เราก็เห็นถึงความพยายามของหนังเกาหลีที่จะอัพเกรดตัวหนังของเค้าขึ้นมา (ด้วยตัวหนังสเกลใหญ่มาก สำหรับผมอย่างน้อยเกาหลีก็กล้าทำ CG จะลอยแต่ก็ได้ตัวบท เนื้อเรื่องเข้ามาช่วยมากๆ ทำให้หนังไม่ได้ดูแย่) หนังดีกว่าที่คิดไว้มากครับ เอาจริงๆ ตอนแรกกะไปดูดาราแสดงก็คุ้มแล้ว แต่พอดูจริงๆ เนื้อเรื่องของหนังมันดีมากๆ ลุ้นแทบทุกฉาก ถือว่าคุ้มเกินค่าตั๋วมากๆ ครับ อย่าพลาด แล้วจะเสียดาย สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
5
คะแนนเฉลี่ย
7
|
||
12 มกราคม 2563 21:26:05 (IP 184.22.81.xxx)
|
||
สนุก ครบรส มันส์ดี สไตล์หนังเกาหลีขี้โม้ บ้าระห่ำ แอคชั่น ดราม่า ซึ้ง ตลก ครบรส และมีความขี้โม้แบบที่ฮอลลีวู้ดชอบโม้แบบแนวหนังภัยธรรมชาติยิ่งใหญ่วิปโยกอลังการงานสร้างแบบนั้น แต่เป็นสไตล์การเล่าแบบจริตเกาหลีมากกว่า ดูเพลินมาก เอ็นเตอร์เทนดีมาก ทั้งการแสดง เพลง บท ใดๆ อาจจะไม่ได้ซับซ้อนเจ๋งมากอะไรเท่าหนังเกาหลีเรื่องอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร จะมีงานวิชวลงานกราฟฟิค ซีจีที่ดูเหมือนยังไม่เสร็จดี ลอยๆ สะดุดๆ นิดๆหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาขัดตาอะไรมากนัก ที่ชอบและสนุกไปกับเรื่องเลยคือมีครบรส หลากหลายอารมณ์ให้จริงๆ มีลุงที่เล่นเทรนทูปูซานด้วย แต่ลุงคราวนี้ไม่แอคชั่นเท่าไหร่ มาเป็นนักวิทยาศาสตร์นั่งดูคอมเฉยๆ ที่เหลือนักแสดงก็โอเคหล่อเท่ทุกคน เนื้อเรื่องจะดูให้เอนท์เตอร์เทนอย่างด้วยก็ได้ อยากได้ประเด็นก็มีพูดเรื่องการเมืองแอบแน่นมีสัญญะอย่างแรงให้ดูอยู่ ตีความทางการสื่อสารทางความคิดได้เฉียบอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่เน้นอะไรแค่ดูเพลินๆ ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว ไม่เสียดายตังค์ - เด็กเดินตั๋ว - สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
8
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
7.9
|
||
10 มกราคม 2563 23:16:46 (IP 223.206.221.xxx)
|
||
รีวิวสั่นๆนะ ครับ 6ครับ ข้อดี/ข้อเสีย ข้อดี 1.นักเเสดงได้ดีทุกคนครับ ถึงผมไม่รู้จักนักเเสดงนะๆ 2. ผมชอบฉากเศร้าครับ เช่น ฉาก ตอนท้ายที่ถูเขาไฟประทุ เเละอื่นๆ ผมรู้สึกอิน 3. ฉากเเผ่นดินไหวทำออกมาได้ดี ทำให้ เรารู้สึก ได้สมจริงดีครับ ดนตรีดังกระหึ่มได้อารมณ์สุดๆ เเละฉากบู้ครับ ผมว่าทำออกมาได้พอใช้ได้เลย ข้อเสีย 1. กราฟิก ก็ไม่ได้เเย่ เเต่ก็ได้ได้ดี ยังมีบางฉาก ที่ยังลอยๆ ยังไม่เนียงอยู่บ้าน 2. เนื้อเรื่องค่องข้าง เอี่ยน หน้าเบื่อ กิน เกือบครึงเรื่องได้มั้งครับ 3.เนื้อเรื่องเเนวนี้ มีหนังหลายเรื่องเอาไปใช้เเล้ว ทำให้ผมเบื่อๆบ้างครับผม เลยได้ไม่สุดเท่าไหร่ 4. หนังจบเบบงง ครับ คิด ว่า จะทำออกมาได้ดีกว่านี้ไม่เคลียนเลย เเต่ก็พอรับได้ ก็พอเดาได้อยู ผมพึงฝึกรีวิว ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดต้องขอโทษด้วยครับ. " เป็นหนังที่ดีอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ ทั้งมัน ลุ้นระทึก เเละได้ข้อคิดด้วยเเนะนำครับผม"
สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
8
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
5
คะแนนเฉลี่ย
6
|
||
9 มกราคม 2563 10:50:09 (IP 180.183.244.xxx)
|
||
[รีวิว] Ashfall - นรกล้างเมือง Ashfall - นรกล้างเมือง เป็นหนังสัญชาติเกาหลี ที่บอกเล่าเรื่องราวของภูเขาไฟเพ็กตูที่ได้เกิดปะทุขึ้นมา และอาจทำให้ทั้งกรุงโซลและกรุงเปียงยางหายไปจากแผนที่ จึงจำเป็นต้องหาทางรับมือ โดยได้รับการแนะนำจากนักธรณีวิทยา โดยให้ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พิเศษไปทำภารกิจหยุดภัยพิบัติครั้งนี้ ถ้าดูจากแค่ตัวอย่างนึกว่านี่คือหนังภัยพิบัติอย่างพวก The Day After Tomorrow, The Wave, 2012 อะไรทำนองนี้ แต่พอดูแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นแหะ มันคือหนังที่เอาภัยพิบัติมาเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของหนังเท่านั้น หนังไม่ได้โฟกัสความวินาศสันตะโรของภูเขาไฟปะทุนี่เท่าไหร่ มีแค่ประมาณไม่ถึง 10% ของหนังได้ ที่เหลือจะเป็นการปฏิบัติภารกิจของพระเอกเสียมากกว่า จริงๆ หนังเปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ภัยพิบัติออกมาได้ดีเลยนะ แต่ CG ช่วงต้นดูลอยๆ ชอบกล ก็มีจุดที่ดูดีบ้าง แต่หลายจุดก็ไม่ ดูแบบมีครบวัตถุดิบที่หนังแนวนี้ควรจะมี ทั้งการเอาตัวรอด แบ่งเล่าเรื่องหลายๆ ส่วน แต่หนังดั๊นไปโฟกัสและให้ความสำคัญผิดจุดจริงๆ หนังให้ความสำคัญกับการปฏิบัติภารกิจของกลุ่มพระเอก แอ็คชั่นเอยอะไรเอยมากเกินไป จนหลายๆ ครั้งเราลืมไปเลยว่านี่มันเกิดภัยพิบัติอยู่ คือไอ้กลุ่มพระเอกเนี่ยมันต้องทำภารกิจบางอย่างแข่งกับเวลาเพื่อช่วยกอบกู้ประเทศชาติอะไรทำนองนี้ แต่ระหว่างทางที่ทำภารกิจเราไม่ได้รับรู้หรือสัมผัสกับอันตรายของภัยพิบัตินั้นเท่าไหร่เลย ไม่ว่าจะการเกิดหรือผลกระทบต่างๆ ก็ตาม คือก็มีบ้างแหละ แต่น้อยแบบน้อยมากจริงๆ เสียดายที่หนังอุตส่าแบ่งเรื่องราวออกเป็นหลายส่วนให้เล่าแล้วแท้ๆ แต่หนังดันเลือกเล่าในมุมนั้น มันสามารถเล่าให้มันวินาศสันตะโรกว่านี้ได้อะ แต่หนังอยากจะเล่าภารกิจแบบนั้นอะ ตลอดทั้งเรื่องเลยกลายเป็นความรู้สึกที่น่าเสียดายแทน ระหว่างทางมันยังขาดฉากแบบหึ้ย ตื่นเต้น ลุ้นตัวเกร็งไรงี้ด้วย คือถ้ามันจะเน้นหนักภารกิจมันก็ได้แหละ แต่ความรู้สึกส่วนตัวคือภูเขาไฟปะทุ มันดูรุนแรงตอนต้นเรื่อง ถ้าหยิบความรุนแรงและผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านั้นใส่ๆ มาให้เหล่าตัวละครเอกได้เผชิญระหว่างภารกิจมาเรื่อยๆ นะ มันจะดีกว่านี้มาก หนังยังมีฉากที่ดูแล้วแบบจั้มหลายฉากมาก มีฉากนึงที่แบบเห็นได้ชัดเลยเกี่ยวกับตัวนางเอก คือตอนแรกเจออันนี้ จนไปนี้ แล้วมาโผล่นี่ เอ๊า อะไรวะ มันไปไงมาไงของมัน ที่สำคัญเรายังไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครพวกนั้นเลยจริงๆ จุดคอนฟลิกหรือความดราม่าในเรื่องนี้อ่อนมากกับทุกตัวละครเลย มันไม่สามารถทำให้อินได้จริงๆ บทจะคลี่คลาย แก้ปัญหาก็ลงเอยง่ายเหลือเกิน ถือว่าเรื่องนี้เอาดารามาเรียกแขกก็ว่าได้ ทว่าดันน่าเสียดายมากที่แต่ละคนไม่ได้มีฉากให้โชว์ของหรือแสดงความสามารถสักเท่าไหร่ เอาจริงๆ พวกเขาก็รับผิดชอบและแสดงหน้าที่ตัวเองได้ดีนะ ก็มีแค่ ฮา จองอู (ที่เคยเล่นเป็นหัวหน้ายมทูต Along With the Gods) กับ อี บยองฮอน (สตอร์ม ชาโดว์จาก G.I. Joe) เท่านั้นแหละที่เด่นๆ แต่ก็ไม่ได้มีฉากให้น่าจดจำอะไร ที่เหลือกลายเป็นตัวประกอบไปเลย มา ดงซอก (จาก Train to Busan) ก็ไม่ได้ทำอะไรมากเลย โดยเฉพาะ เบ ซูจี เอาชื่อมาขายชัดๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเธอกับฉากภัยพิบัติอะไรออกมาเยอะกว่ากัน สรุปแล้ว Ashfall คือหนังเกี่ยวกับภัยพิบัติที่ไม่ได้เน้นภัยพิบัติ เปิดเรื่องได้ดี แต่ซีจีไม่ค่อยเนียน จริงๆ มันก็ไม่ถึงกับแย่นะ มันให้ความรู้สึกเฉยๆ มากกว่า ยิ่งถ้าไปเทียบกับตัวอย่างและชื่อหนังที่แปลไทยนะ เรียกได้ว่าน่าผิดหวังเลยแหละ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
4
การดำเนินเรื่อง
4
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
5
คะแนนเฉลี่ย
5.4
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ