ใครจะไปคิดล่ะว่า แค่ตั๋วคอนเสิร์ตเพียงใบเดียว ไอ้ตั๋วใบน้าน...นนน มันจะเปลี่ยนชีวิตเขาได้ขนาดนี้! นักเขียนการ์ตูนหนุ่มผู้ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ และไม่เอาไหนอย่าง โป้ง (แดน-วรเวช ดานุวงศ์) คิดว่าจองตั๋วแค่นี้มันจะไปยากอะไร มีเงินมีเวลาก็ได้มาอยู่ในมือชิลล์ๆ แล้ว แต่มันไม่ง่ายอย่างงั้นน่ะสิ
ตั๋วคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบรอบเดียวเท่านั้นของเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นชื่อดังที่แฟนคลับคนไหนก็อยากดู และแน่นอน มันเป็นวงสุดโปรดของเธอคนนี้ ป.ปลา (ยูเค-ณัฐธยาน์ องค์ศรีตระกูล) ที่ไม่อยากพลาดด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่มีเงินอย่างเดียวแล้วจะซื้อได้ มันต้องวางแผน ต้องอยู่ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ มีลูกล่อลูกชน (แน่ใจนะว่านี่คือตั๋วคอนเสิร์ต) เพียงแค่คลิก อย่าให้พลาดแม้แต่วินาทีเดียว
แต่นั่นไง! เรื่องแค่เนี้ยมีหรือที่ไอ้โป้งจะไม่พลาด จบเห่กันงานนี้ ตั๋วของลูกสาวสุดที่รัก Sold Out ไปแล้วจ้า ฝันพังทลาย สูญสลายในพริบตา ซวยแน่! แต่มันต้องมีทางสิวะ แค่ตั๋วใบเดียวมันจะได้มายากอะไรขนาดน้าน...นนน แต่เอาเถอะ สีสันของชีวิต คือการใกล้ชิดอุปสรรค (หล่อโคตรๆ) ว่าแล้วเขาก็เลยเกณฑ์แก๊งเพื่อนตัวพ่อ(ง)สุดเพี้ยน ไล่ตั้งแต่เจ้าของค่ายมวย, นักมวยต่างชาติ, ครูสอนเต้นแอโรบิค ยันไปถึงบรรณาธิการหนังสือ ฯลฯ มาช่วยสร้างสีสันให้ชีวิตเพียบ เราจะรวมพลังทำทุกอย่างเพื่อคว้าตั๋วใบนั้นมาครองให้จงได้ สู้ต่อไป... ไอ้โป้ง & เดอะแก๊ง
ภารกิจของโป้งและแก๊งเพื่อนจะรุ่งหรือร่วง ฝันของป.ปลาจะเป็นจริงมั้ย โป้งจะกลายเป็นฮีโร่ในสายตาของลูกสาวได้หรือไม่ ตั๋วเพียงใบเดียวจะเปลี่ยนชีวิตเราได้จริงหรือ... ตีตั๋วติดตามคำตอบได้ใน The One Ticket ตัวพ่อเรียกพ่อ
ผู้ชมทั้งหมด
3,981 ครั้ง
|
เข้าฉาย
31 ธันวาคม 2557
|
ออกโรงแล้ว |
30 มกราคม 2558 01:16:03 (IP 125.24.168.xxx)
|
||
The One Ticket ตัวพ่อ...เรียกพ่อ (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา / Thailand / 2014)
น้องยูเคที่เล่นเป็นลูกสาวแดนน่ารักมากๆ สำหรับนักแสดงเด็กไทยแล้วน้องก็เล่นดราม่าเป็นธรรมชาติดีเลยล่ะ แล้วพล็อตมันก็น่ารักดีด้วยนะ..เอาแค่ที่ว่าไม่สปอยล์..พ่อลูสเซอร์วัยหนุ่มคนหนึ่งเลี้ยงลูกสาววัยอนุบาลตามลำพัง ลูกสาวฝากเงินซื้อตั๋วเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นแต่พ่อดันพลาดใช้เงินไปทำอย่างอื่น จนต้องหาวิธีเอาตั๋วมาให้ได้ จนกระทั่งต้องรวมทีมเพื่อนๆ และคนรู้จักแต่งหญิงไปประกวดเต้น cover!!...แต่นอกจากความน่ารักแล้ว ความงี่เง่าดักดานของตัวละครระดับบรรลัย และความต่ำตมของมุกตลกในหนังหลายๆ อย่างมันโดดเด่นและน่าพูดถึงกว่าเยอะ
ไม่ใช่ว่าไม่มีมุกเฮฮาน่ารักๆ ให้ชื่นใจอยู่เลยนะ แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่รวมมุกสัปดนไร้เหตุไร้ผลของความเป็นคนและสาระของการมีอยู่ไว้เยอะมากๆ เยอะเสียจนตีกลับกลายเป็นความเพลิดเพลินในการสำรวจความตื้นเขินของการเล่าผ่านเรื่องราวในหนัง คือเราไม่ได้มีปัญหากับการเล่นมุกจำพวกนี้ในหนัง แต่พอคนทำเทกระจาดเรี่ยราดเหมือนเด็กเห่อฮามอยที่เพิ่งหัดสบถคำหยาบโลน ด่าพ่อล่อแม่เหยียดเย้ยไปทั่วยังไงยังงั้น..มันก็เลยมั่วซั่วไปหมด คนทำก็กล้าเล่นกล้าตัดมุกส่วนเกินยาวๆ มาวางทั้งก้อนเหมือนหวังว่าคนดูจะต้องขำสักดอกแต่บางทีกลับขำไม่ออกเลยสักแอะ หลายมุกมันกักขฬะแถมยังยัดเยียดจนฝืดเฝือ..คือถ้าจะให้ขำก็ต้องพึ่งคนดูที่เส้นตื้นระดับขุมนรกและเลวทรามประมาณนึง ถึงจะเปลี่ยนจากคว่ำมุมปากให้แง้มหงายกลายเป็นยิ้มได้
แต่อีกมุมหนึ่งนอกจากความตลกพาไปไร้สาระมันก็เป็นหนังครอบครัวที่ทำให้คนดูซาบซึ้งน้ำตาหยดแหมะได้อยู่นะ ทั้งที่วิธีการเล่าการเก็บงำและหักมุมของส่วนดราม่าก็เล่าด้วยการให้ตัวละครเสแสร้งตั้งแต่เริ่มต้น สร้างรีแอคชั่นปลอมๆ ที่หลอกลวงคนดูให้เดินตามจนตกหลุมพรางอย่างไร้สติ..เราก็โดนน้ำตาซึมเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
อย่างที่บอกว่าส่วนหนึ่งมันก็ให้ความรู้สึกว่ามันเป็นหนังครอบครัว การที่หนังได้เรท 15+ และมีตัวละครเด่นเป็นเด็กหญิงน่ารักก็เลยน่าสนใจในแง่ของการสมาสประเภทหนังการ์ตูนตลกถ่อยกับหนังครอบครัวน่ารักๆ แน่นอนว่า 15+ มาจากมุกหยาบ โอเคว่าเด็กหนุ่มและเด็กสาววัย 15 ปีขึ้นไปนั้นเริ่มมีขนกันแล้วและส่วนใหญ่ของวัยรุ่นในสยามประเทศก็คงเคยเห็นหรือเคยศึกษากายภาพอุกอุยของฝั่งตรงข้ามมาแล้วในวิชาเรียนก็น่าจะพอเข้าใจภาพไข่ขนที่เห็นได้ แต่เราคิดว่าคงมีพ่อแม่พาลูกพาเด็กตัวเล็กๆ ไปดูเพราะคงเห็นแค่โปสเตอร์ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังก็เลยคิดว่าเป็นหนังครอบครัวเฮฮาน่ารัก และคงเป็นโมเมนต์ที่พิเศษถ้าลูกไม่เก็ตมุกแล้วถามพ่อแม่ว่า ‘นั่นอะไรน่ะ ทำไมคนอื่นเขาถึงขำเงาะในกางเกงกัน’ เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
น่าจะฉายวันพ่อจะได้ซึ้งมากกว่านี้ (T^T) ใครคนหนึ่งที่ซาบซึ้งกับหนังเรื่องนี้โดยประมาณการมิได้ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
3.5
การดำเนินเรื่อง
5.5
ดนตรีประกอบ
5.5
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
5.3
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ