เพื่อนขีดเส้นใต้ เรื่องราวความรักของ “เพื่อนคู่ชีวิต เพื่อนแท้ เพื่อนตาย” ที่ต่างมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ต่อต้าน ถูกครอบครัวข้อร้องให้มีลูกเร็วๆ แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด เมื่อ จ๊ะจ๋า มีข้อแม้ว่าต่อต้านต้องเลิกสูบบุหรี่ให้ได้เสียก่อน ถึงจะยอมมีลูกด้วย จึงเป็นที่มาของสัญญาระหว่างเพื่อนคู่ชีวิต …กลุ่มนักศึกษาสาขาภาพยนตร์ชั้นปี4ได้รับโจทย์จากอาจารย์ให้ทำหนังเพื่อเป็นโปรเจ็กต์จบการศึกษา แต่แล้วความเห็นของคนในกลุ่มกลับแตกออกเป็น 2 ฝ่าย บทพิสูจน์ของความเป็น เพื่อนแท้จึงเกิดขึ้น…ระหว่างทางในสมรภูมิร่มเกล้าที่เนิน1428 ชายแดนไทย-ลาว พลทหารเปี๊ยก จากกองทัพภาคที่สอง และ ทหารพรานตู่ ทหารจู่โจมจากค่ายปักธงชัย หลงทางมาเจอกันโดยบังเอิญ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนทำให้มิตรภาพของเพื่อนร่วมทางกลับกลายเป็นเพื่อนตาย สิ่งที่ทั้งสองคนเจอในสงครามนอกจากความเจ็บปวดคือมิตรแท้ ร่วมค้นหาทุกความหมายของคำว่า “เพื่อน”ได้ในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้ “เพื่อนขีดเส้นใต้” 12 กุมภาชวนเพื่อนมาชมในโรงภาพยนตร์
ผู้ชมทั้งหมด
3,581 ครั้ง
|
เข้าฉาย
12 กุมภาพันธ์ 2558
|
ออกโรงแล้ว |
16 กุมภาพันธ์ 2558 01:24:42 (IP 180.180.47.xxx)
|
||
เพื่อนขีดเส้นใต้ (ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์, วรเทพ ธรรมโอรส, อรรถวิศิษฐ์ หัสดินทร ณ อยุธยา / Thailand / 2015)
๑๔๒๘ ร่มเกล้า เคยฉายแยกในเทศกาลหนังสั้นแต่เราก็ไม่ได้ดูหรอกนะเพราะพลาดทั้งตอนฉายมาราธอนกับตอนถูกคัดเลือกฉาย Digital Forum ซึ่งฟีดแบ็กที่ได้ยินมาตอนนั้นมันก็ประมาณนึง แต่พอมันมาอยู่รวมกับอีกสองตอนที่ร้อยเรื่องและโยงธีมเข้าด้วยกันแล้วเรารู้สึกว่ามันน่าจะมีพลังมากกว่าที่ฉายเดี่ยวๆ ในเทศกาลเพิ่มขึ้นมากทีเดียว เพราะตอนดูเราสะเทือนกับเรื่องราวจนน้ำตาคลอเบ้าซึ่งมันรับส่งธีมจากตอนแรกและตอนที่สองให้พุ่งขึ้นไปอีก แล้วเพื่อนขีดเส้นใต้ทั้งเรื่องมันก็มีอะไรให้เรารู้สึกกว่าที่คาดมากพอสมควร โดยเฉพาะการเล่าประสบการณ์และความรู้สึกของนักเรียนทำหนังผ่านมิตรภาพได้จริงใจ ถึงแม้ในส่วนรายละเอียดของบทภาพยนตร์จะยังคงเป็นจุดที่อ่อนประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงการกำกับตัดต่อที่ยังไม่ละเอียดในส่วนที่ควรละเอียดนักก็ตาม
รักเต็มปอด (D-/B-) ตอนแรกของเรื่องที่หากแยกฉายเดี่ยวๆ จะต้องบัดซบยิ่งกว่าที่เห็น แต่แล้วเมื่อหนังเฉลยถึงฟังก์ชั่นของการมีอยู่ที่มีผลกับหนังตอนต่อๆ ไปว่ามันเป็นแค่ส่วนเกริ่นเรื่องถึงการทำหนังโปรเจ็คหนึ่งของนักเรียนหนังกลุ่มหนึ่ง สิ่งที่ผ่านมาอย่างความรู้สึกตอนดูประมาณว่า บทกลวงๆ ประเด็นเห่ยๆ แบบนี้โปรดักชั่นก็ไม่ได้ดีเด่ฉากจัดงานสวนรถไฟก็โหรงเหรงแทบไม่เชื่อว่าเป็นงานที่มีนักข่าวเยอะแยะมาทำข่าว สตาร์บัคอยากบุหรี่แต่สีหน้าโกรธจัดอย่างกับคนอยากยา แถมลูกแฝดตอนท้ายก็ใช้ตุ๊กตาปลอมชัดๆ ก็ยังอยากจะเอามาฉายโรงเก็บเงินคนดู 100-200 ก็เลยได้รับการอภัยจากคนดูอย่างเรา(คนอื่นไม่รู้นะ) แต่มันก็ยังเป็นตอนเกริ่นที่ยาวเกินไปอยู่ดีและเห็นว่าถ้าลดทอนเวลาหนังส่วนนี้เอาไปเล่าตอนอื่นให้ละเอียดขึ้นหนังน่าจะชัดเจนและดำดิ่งในรายละเอียดอารมณ์มากกว่านี้ไม่ต้องมาอาศัยความคลิเชทื่อๆ แล้วไปต่อแบบตอน Thesis เป็น หรือไม่ก็ยัดท่าทีคลิเชให้คัลท์ให้เวียร์ดชัดเจนแบบจัญไรไฟไหม้มาใส่ตอนนี้ให้หมดก็น่าจะเป็นวิธีทำให้มองข้ามและกลับเป็นชมเชยก็เป็นไปได้ และเสียดายมกๆ ที่มันสายไปแล้วสำหรับอารมณ์ย่ำแย่ดิ่งเหวที่แทบจะกู่ไม่ยอมกลับ ทำให้ความรู้สึกของเราต้องเริ่มใหม่กับหนังตั้งแต่วินาทีนั้น ถึงตอนแรกนี้มันจะดีในแง่ของการเป็นหนังที่สะท้อนฝีมือ ความคิด และทัศนคติหัดใหม่ของนักเรียนหนังที่เพิ่งเริ่มต้นก่อนจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปอีกได้ก็ตาม
Thesis (C) จากหนังแคมเปญดูดบุหรี่คลิเชซ้ำซาก เดินทางมาถึงหนังที่มีช่วงบ้าบอระห่ำไฟแรงสูงทั้งตัวละครและสถานการณ์ที่ต้องอาศัยเครื่องมือเล่าความยิ่งใหญ่ ทั้งโดรน ทั้งฉากรถ เริ่มมีพร็อบและอุปกรณ์ประกอบฉากในซิทที่ประหลาดไร้เหตุผล และโลเคชั่นสวยงามแปลกตาอย่างกับนักเรียนหนังที่บ้าเห่ออุปกรณ์ เสียดายที่บททีเล่นทีจริงมันไม่ชัดเจนไปทางใดทางหนึ่งจนกลายเป็นความคลิเชซ้ำซากและน่ารำคาญตลอดทั้งเรื่อง แถมตัวละครยังเปลี่ยนใจกับความขัดแย้งที่โวยวายมาตลอดทั้งเรื่องง่ายยิ่งกว่ากดรีโมตเปลี่ยนช่องทีวีเสียอีก แต่ยังดีที่จุดเปลี่ยนของเรื่องในตอนท้ายมันโอเคในการรับใช้ประเด็นมิตรภาพที่หนังอยากจะเล่า ถึงแม้ตอนท้ายเรื่องจะส่งเข้าหนังตอนสุดท้ายแบบทื่อๆ ง่ายๆ ติดตลกและตัดอารมณ์ไปหน่อยก็ตาม
๑๔๒๘ ร่มเกล้า (B+) เป็นตอนที่องค์ประกอบทุกสัดส่วนคราฟต์ที่สุดในสามตอน หนังเปิดเรื่องด้วยทหารหน่วยกู้ระเบิดขี้กระจ๊อกที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากการถูกซุ่มยิงขณะกู้ระเบิดและต้องการกลับบ้านหาทางรอด แต่แล้วก็มาเจอกับทหารนายหนึ่งที่กำลังหาทางไปช่วยเพื่อน เรื่องราวทหารอยากกลับบ้านกับทหารรักชาติยืนหยัดต่อสู้มันน่าสนใจดีนะ แต่ด้วยความที่บทมันปกติสูตรไปหน่อยและบางครั้งก็ชัดเจนไปหน่อย อย่างเช่น ฉากขอน้ำดื่ม มันก็เลยไม่ได้รู้สึกพิเศษในการดำเนินเรื่องทั้งที่เรื่องราวมันสะท้านสะเทือนได้ไม่ยาก แล้วการกำกับและการตัดต่อในฉากความขัดแย้งระหว่างตัวละคร ฉากลุ้นระทึกรวมถึงฉากไคลแม็กซ์มันยังไม่ละเอียดในการเล่าอารมณ์บรรยากาศสงครามสักเท่าไหร่ มันจะนิ่งงามๆ ก็ไม่ จะหน่วงก็ไม่หน่วง จะอึกทึกครึกโครมรวดเร็วก็ไม่ถึง เหมือนถ่ายมาน้อยกว่าปริมาณฟุตเตจที่จะเอามาตัด แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราว และการแสดงก็ยังทำงานได้ดีขนาดที่ทำให้เราน้ำตาคลอเบ้าได้
เสียดายที่สุดท้ายพอจบหนังตอน ๑๔๒๘ ร่มเกล้า หนังก็จบขึ้นเครดิตไปเลย ทำให้เรายังรู้สึกว่าตัวละครแลพล็อตมิตรภาพก่อนหน้านั้นมันไม่จบตาม แต่เราก็ยังชอบหนังในฐานะที่ถ่ายทอดความจริงสุดๆ ของนักเรียนหนังที่ในชีวิตหนึ่งต้องได้เผชิญ ถึงแม้บางทีเราอาจจะแค่รู้สึกชอบจากประสบการณ์ร่วมทั้งที่หนังถ่ายทอดบรรยากาศ อารมณ์และประเด็นของเรื่องให้ถึงแก่นที่อยากจะเล่าได้ชัดเจนเพียงท่าที แต่เรื่องราวโดยรวมทั้งหมดจะยังหละหลวมในการยึดโยงความรู้สึกต่อเนื่องซึ่งกันและกันก็ตาม สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
6.5
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6.6
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ธนาเทพ
28 กุมภาพันธ์ 2558 22:18:51 (IP 49.48.248.xxx)
|
||
GUEST |
สนุก
|
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ