หนัง Saeng Krasue 2 หรือชื่อไทยว่า แสงกระสือ 2 เรื่องราวความรักต่างสายพันธุ์ระหว่าง “คน” และ “กระสือ” กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง หลังโศกนาฏกรรม “กระสือสายบ้านโคกอีนวล” ผ่านไป 22 ปี “น้อย” (แสดงโดย น้อย-กฤษดา แคลปป์) เลี้ยงดู “สาว” (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรีย์) ลูกสาวที่ได้รับเชื้อกระสือ ทำให้ น้อยและ “บาทหลวงออกัสติน” (โจ คัมมินส์) ร่วมคิดค้นตัวยาที่สกัดจาก “ว่านกระสือ” เพื่อใช้ในการรักษา สาวได้พบกับ “คล้าว” หรือ “คลาว” โดยบังเอิญ (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) บุตรบุญธรรมของบาทหลวงออกัสติน ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่กำเนิด ความรักของสาวและคล้าวค่อย ๆ ผลิบานพอ ๆ กับเชื้อร้ายในตัวของสาวที่เริ่มออกอาการมากขึ้นทุกวัน นักลงทุนชาวต่างชาติที่ต้องการตัว “กระสือสาว” “พันธุ์” (ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม) อดีตทหารรับจ้างจึงถูกจ้างมาเพื่อ “ไล่ล่า” สาวจะรอดพ้นเงื้อมมือของพันธุ์ได้หรือไม่ ร่วมเอาใจช่วยเขาและเธอได้ใน “แสงกระสือ2”
ผู้ชมทั้งหมด
10,959 ครั้ง
|
เข้าฉาย
30 มีนาคม 2566
|
ออกโรงแล้ว |
1 เมษายน 2566 03:17:52 (IP 49.228.100.xxx)
|
||
[รีวิว] แสงกระสือ 2 ไม่คิด และก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย กับภาคต่อของแสงกระสือ ที่ทำไว้ดีมาก ๆ ในภาคแรก คือมันจบลงตัวแบบสุด ๆ แล้ว สวยแล้ว แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด มันก็ก่อกำเนิดภาค 2 ขึ้นมา และมันก็พังไม่เป็นท่า เป็นการดูหนังที่เสียดายหลายจุดหลายตรงมากถึงมากที่สุด ภาคแรกมันมีองค์ประกอบทุกอย่างที่ลงตัว กลมกล่อมในทุกพาร์ทการเล่าเรื่อง เราจะได้สัมผัสความโรแมนติกดราม่า, ความสยองขวัญ, ฉากแอ็คชันของมอนสเตอร์ไทย แต่ ภาคแรกทำไว้ดีแค่ไหน ภาคนี้ทำไม่ได้เลยสักนิด เสน่ห์ที่เคยมีหายไปจนหมดสิ้น ปัญหาอย่างแรกที่หนังเรื่องนี้มีคือตัวบท เอาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเรื่องที่เป็นสาเหตุในการเกิดของภาค 2 ก็ไม่ make sense แล้ว กับเหตุผลการที่น้อยมีลูกนั่นแหละ และปัญหาหลายอย่างก็ยังอยู่ที่ตัวบทอีกเช่นเดิม หนังมี plot hole ในการเล่าเรื่องระหว่างทางเต็มไปหมด มีความไม่สมเหตุสมผล บาดแผลเหวอะหวะพอสมควร ยิ่งควบคู่ไปกับการเล่าเรื่องแล้วนั้นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ คือหนังลำดับเรื่องราวงง ๆ ตัวละครไป ๆ มา ๆ ดำเนินเรื่องช้ามาก ไม่ควรจะยาวถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงแรกที่ปูเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่พระ-นาง นานเกินความจำเป็นมาก ๆ แต่ไอ้จุดที่ควรให้ความสำคัญกลับละเลยและมองข้ามมันไป ทิ้งให้คนดูงงและสงสัย หลายจุดเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุและผล ไม่มีที่มาที่ไป บทพูดโคตรจะไม่ธรรมชาติ แปลก ๆ อีกทั้งหนังไม่สามารถทำให้เราเชื่อ หรืออินในความสัมพันธ์ของตัวละคร สาว และ คลาว ได้เลยแม้แต่น้อย ในภาพรวมมันก็เหมือนการเล่าต่อที่ไม่ได้ขยายอะไรไปไกลเลย แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากภาคแรก แถมยังทำได้แย่กว่าเสียอีก หากดูรายชื่อนักแสดงก็เรียกได้ว่าเป็นดาราระดับแนวหน้าทั้งนั้น ทั้ง เจเจ, นิ้ง ชัญญา, น้อย-กฤษดา, เอม ภูมิภัทร และ ปีเตอร์-นพชัย แต่ด้วยความที่บทเรื่องนี้มันไม่ถึง เลยทำให้นักแสดงเหล่านี้ไม่ได้มีพื้นที่โชว์ของหรืออะไรเท่าไหร่ แต่ก็น่าชื่นชมการแสดงของ น้อย-กฤษดา ที่รับบท น้อย พ่อของสาวที่เป็นกระสือ เป็นเพียงคนเดียวในเรื่องที่ดราม่าถึง แสดงได้ดี แต่ค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวละครน้อยในภาคแรกพอสมควร ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ใช่แสดงไม่ดี เรียกว่าก็รับผิดชอบบทของตัวเองได้ดีดีกว่า แค่น่าเสียดายที่ไม่มีซีนให้โชว์ของสักเท่าไหร่ก็แค่นั้น ทางด้านงานภาาพก็ไม่ได้น่าชื่นชมสักเท่าไหร่ จัดอยู่ในระดับกลาง ๆ ถึงแม้กระสือในภาคนี้เหมือนจะดูดีขึ้น แต่ในภาพรวมงานภาพในภาคแรกยังดูดีกว่า รวมถึงดีไซน์ของกระหังก็เช่นกัน สรุปแล้ว แสงกระสือ 2 แพ้แสงกระสือภาคแรกทุกทาง ไม่มีจุดไหนที่ทำได้ดีกว่าเลย โดยเฉพาะเรื่องบทที่มีปัญหามาก ๆ ไม่สมเหตุสมผล ไม่มีที่มาที่ไป ไม่ทำให้อินกับเรื่องราวอะไร เสน่ห์ที่เคยมีหายหมด มันทำให้ความดีงามที่ภาคแรกเคยมีแทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ปล. หนังมีฉากหลัง End Credits อยู่หนึ่งตัว สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
1
การดำเนินเรื่อง
1
ดนตรีประกอบ
5
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
5
คะแนนเฉลี่ย
3.6
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ