หนัง THE FIRST SLAM DUNK หรือชื่อไทยว่า เดอะ เฟิสต์ สแลมดังก์ ซากุรางิ ฮานามิจิ เป็นชายหนุ่มจอมเหลวไหลที่มีประวัติถูกสาวทิ้งมานับไม่ถ้วน หลังจากที่เขาเข้ามาเรียนยังโรงเรียนมัธยมปลายโชโฮคุ ฮานามิจิเริ่มสนใจในหญิงสาวที่มีชื่อว่า ฮารุโกะ ผู้ซึ่งตกหลุมรักในกีฬาบาสเกตบอล
ผู้ชมทั้งหมด
6,345 ครั้ง
|
เข้าฉาย
25 กุมภาพันธ์ 2566
|
ออกโรงแล้ว |
13 มีนาคม 2566 01:05:39 (IP 49.228.104.xxx)
|
||
[รีวิว] THE FIRST SLAM DUNK The First Slam Dunk คือหนังอนิเมชันที่หยิบยกเอาเหตุการณ์ในการ์ตูน Slam Dunk ช่วงที่ โชโฮคุ มาเจอกับ เทคโนซังโน มาบอกเล่า ซึ่งนี่คือฉากจบช่วงสุดท้ายในฉบับมังงะ แน่นอนว่าหลากหลายเหตุการณ์สำหรับแฟน Slam Dunk ก็น่าจะรู้และคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถึงจะรู้อยู่แล้ว ตัวหนังก็ยังสามารถถ่ายทอดออกมาให้เราสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ในเกมการแข่งขันได้อย่างดี แถมยังเติมเต็มเรื่องราว บอกเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมและไหลลื่นมาก ๆ ในฐานะแฟนของ Slam Dunk รู้สึกประทับใจ เต็มอิ่มและแฮปปี้กับหนังเรื่องนี้มาก ๆ และที่มันน่าประทับใจขนาดนี้ก็คงเพราะอาจารย์ ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ มานั่งแท่นกำกับและเขียนเรื่องราวเองด้วย หลัก ๆ ตัวหนังจะมีจุดศูนย์กลางในการเล่าเรื่องอยู่ที่ตัวละคร มิยางิ เรียวตะ การ์ดร่างเล็กของโชโฮคุ เราจะได้เห็นมุมมอง วิธีคิด สถานการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวละครนี้ต้องรับมือในเกมการแข่งขันกับซังโน ซึ่งด้วยความที่ตัวหนังใช้วิธีตัดสลับการแข่งขันกับเหตุการณ์ในอดีต เราจะได้เห็นการแข่งขันอันดุเดือด สลับกับรู้เบื้องลึกเบื้องหลังขยายความเรื่องราวในอดีตของตัวละครนี้ในหลาย ๆ แง่ และมันคือตัวขับเคลื่อนเรื่องราวความเป็นดราม่าของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะจริง ๆ ถ้าไม่มองว่ามันสร้างมาจากมังงะ มันก็เป็นหนังกีฬาดราม่าดี ๆ เรื่องนึงได้เลย ในขณะเดียวกันกับตัวละครอื่น ๆ ในทีม ไม่ว่าจะเป็น อาคางิ, มิสึอิ, รุคาว่า และซากุรางิ ก็มีแอร์ไทม์โชว์เท่ของตัวเองในการแข่งขันเหมือนกัน ถึงแม้ฉากย้อนอดีตจะไม่ได้เน้นหรือเจาะลึกเท่ามิยางิก็ตาม แต่เท่านั้นมันก็เพียงพอต่อการเล่าเรื่องราว เพราะมันไม่ได้รู้สึกขัดแต่อารมณ์ในการเล่าเรื่องแต่อย่างใด กลับกลายเป็นไหลลื่นกลมกลืนไปกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ในทางกลับกันทางฝั่งของ เทคโนซังโน ก็ได้มีการตัดหรือลดทอนการพูดคุยกันของตัวนักกีฬาลงไปเยอะเหมือนกัน แอบอย่างให้มีบ้าง ในแง่การเล่าเรื่องก็เข้าใจได้ในเหตุผล เพราะหนังต้องการเน้นบอกเล่าถึงสมาชิกทีมโชโฮคุเสียมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเหตุการณ์ในสนามแข่งก็ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจนเกือบครบถ้วน แน่นอนว่ามีบางเหตุการณ์ถูกตัดออก แต่เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ควรมีก็มีมาอย่างครบถ้วน มาพูดถึงงานภาพหนังอนิเมชันที่มีเอกลักษณ์ แน่นอนมันไม่ได้ไหลลื่น 120fps หรือสวยจับใจเหมือน Makoto Shinkai แต่มันก็สวยงามในแบบของมันคือการผสมผสานภาพ 2D และ 3D ได้อย่างลงตัว บางช่วงแบบเหมือนลายเส้นกำลังวาด ให้อารมณ์เหมือนเปิดกระดาษภาพเร็ว ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ได้ดีเช่นกัน ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คืองานด้านเสียง ดนตรีประกอบก็สนุกตื่นเต้นแล้วจัง จังหวะ SFX ต่าง ๆ ก็เข้ามาถูกจังหวะ ที่ชอบคือการตัดต่อเสียง ที่ลงตัวมาก ยิ่งในช่วงท้ายของการแข่งขันคือโคตรยอดเยี่ยมจริง ๆ งานด้านเสียงไม่มีที่ติเลย ชมกันมาแล้ว มาถึงจุดติกันบ้างดีกว่า อย่างแรกเลยคือเรื่องซับไทย คือตอนไปดูเรื่องนี้เราไปดู soundtrack และมีหลายจุดที่เอ๊ะกับการแปลของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งการใช้สรรพนามเรียกบุคคลต่าง ๆ, แปลเหมือนว่าไม่ได้เข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครสักเท่าไหร่, การแปลผิดความหมาย, และเรื่องชื่อตัวละคร จนหลายครั้งเราต้องอ่านซับอังกฤษควบคู่ไปด้วย นับว่าน่าเสียดายจริง ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าพากย์ไทยแปลมาเป็นอย่างไร อีกจุดนึงที่แอบเสียดายคือ ไหน ๆ ก็เติมเต็มเรื่องราวไปแล้ว ก็อยากให้สรุปเรื่องราวอนาคตของแต่ละตัวละครสักหน่อยว่าเป็นไงต่อ, การแข่งข้างหน้า, แอบอยากเห็น Slam Dunk 10 Days After ในหนังเหมือนกันนะ แต่นั่นแหละ อาจจะเพราะด้วยความตั้งใจของอาจารย์เองว่าชีวิตไม่เป็นตามหวังมันก็ไม่ใช่จุดจบ ถึงแม้จะมีพื้นที่ให้สงสัยถึงเรื่องต่าง ๆ แต่การจบแบบนี้มันก็เป็นการจบที่สมบูรณ์แล้ว และสำหรับแฟน Slam Dunk ไปดูเถอะ หนังเรื่องนี้เซอร์วิสพวกคุณ อาจารย์ตั้งใจทำมาเป็นของขวัญเพื่อมอบให้พวกคุณจริง ๆ สรุปผลวิจารณ์หนัง
บทหนัง
9.5
การดำเนินเรื่อง
10
ดนตรีประกอบ
10
ฝีมือนักแสดง
10
กราฟฟิก
10
คะแนนเฉลี่ย
9.9
|
ยังไม่มีรีวิวหนังเรื่องนี้
ถูกใจ
ไม่ถูกใจ