รีวิวหนัง Pride and Prejudice and Zombies - เลดี้ และ ซอมบี้

Pride and Prejudice and Zombies (Burr Steers / USA / 2016)

ชอบโลกของซอมบี้ปะทะตระกูลผู้ดีอังกฤษในยุคแบบในหนังนี้มากนะ มันมีท่าทีเป็นหนังเขย่าขวัญหวิวๆ หวามๆ แอคชั่นปนตลกร้ายที่เข้าท่าและน่าจะบันเทิงดี แค่นี้เลยที่ยังซื้อ

ซอมบี้ที่ยังดูเป็นคนมีสติสัมปัชชัญญะปกติได้นี่ก็น่าสนุกดีแต่หนังก็ไม่ได้นำพาให้เกิดความขัดแย้งกระอักกระอ่วนใหญ่โตอะไร เหมือนกลัวว่าถ้าเล่นแรงหรือซีเรียสมากไปมันจะไปขัดคานกับอารมณ์รักโรแมนติกของสาวๆ ซึ่งเป็นคนดูกลุ่มเป้าหมาย สุดท้ายมันก็เลยได้แค่เอามาใช้หักมุมง่ายๆ เบาๆๆ อย่างน่าเสียดาย

ทั้งบททั้งกำกับมันกระท่อนกระแท่นจัดการบาลานซ์ตัวละครได้ไม่ดีเลย หลายๆ สถานการณ์ก็ดูโง่ๆ งงๆ ไม่เมคเซนส์ ตัวอย่างหนึ่งคือท้ายฉากในรูปนี้เลย แต่ตลกดีที่มันสู้กับซอมบี้เลือดกระเซ็นยังไงก็ยังสวยไร้คราบอยู่ดี ถ้ามีไทอินผงซักฟอกนี่จะสุดทางแอบเสิร์ดมากๆ จนอาจตีโค้งกลับมาชอบหนังทั้งเรื่องได้เลย เพราะแค่ตอนต้นเรื่องที่หนังบอกว่าสาวๆ ฝึกวิชาต่อสู้มาจากวัดเส้าหลินก็ยอมแล้ว แต่หลังๆ นี่ทำแค่กระมิดกระเมี้ยนออกหมัดไม่เต็มแรงพาหนังไปทางไหนทางหนึ่งได้ไม่สุดทาง ทำให้หนังมันมีท่าทางเหมือนผู้ดีที่ยังเก้ๆ กังๆ ไม่พร้อมจะฟาดฟันกับซอมบี้เท่าไหร่ ขณะที่ 5 สาวพี่น้องร้อนวิชาจากเส้าหลินจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว

แล้วตอนจบนี่อะไร คิดจะมีภาคต่อ!!?

แต่ยังไงก็ยังตลก Lena Headey มากๆ อยู่

Pride and Prejudice and Zombies ถึงโลกจะแตก แต่ผู้หญิงก็ต้องเดินหน้าหาผัวต่อไป

ในสมัยนี้ หนังเรียกว่า ภาพยนตร์ซอมบี้ นั้นได้มีการสร้างออกมากลาดเกลื่อนมากมาย เจ๋งบ้างเจ๊งบ้างสลับปนเปกันไป จนหลังๆ ต้องมีการคิดมุขเด็ดๆ ที่เป็นจุดขายเพื่อสร้างให้คนดูสนใจที่จะเข้าไปชม และเรื่อง Pride and Prejudice and Zombies คือภาพยนตร์ซอมบี้เรื่องล่าสุดที่ได้สร้างขึ้นมา

หลายๆ คนอาจจะเคยชม Pride and Prejudice ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวที่บ้านเราเรียกว่า น้ำเน่า นั่นเอง เรื่องราวว่าด้วย หญิงสาวต้องการหาสามีรวยๆ แต่งงานกับชายผู้สูงศักดิ์ อะไรแบบนี้ ซึ่งโดยรวมถึงแม้จะน้ำเน่า แต่มันก็ตาตรึงอยู่ไม่น้อย แล้วถ้าเกิดว่า เพิ่มพาวะซอมบี้ครองโลกล่ะ จะเป็นแบบไหน 

Pride and Prejudice and Zombies ถือว่าจับเอาบทละครสุดโรแมนติกน้ำเน่าชิ้นนี้มาดัดแปลงให้ออกมาดูน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ทั้งพาร์ทโรแมนติก และ พาร์ทแอคชั่น ต่างกอดคอไปไม่ถึงฝั่งฝัน มันไม่สุดซักทาง ทำให้ใครที่นอนดึกแล้วมาดู หรือชอบอะไรที่หวือหวา อาจจะหลับก่อนก็ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่า มันก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย

อย่างแรกคือ แคสติ้งนักแสดง ที่ให้ นางสาวซินเดอร์เรลล่า อย่าง ลิลลี่ เจมส์ ที่เฉิดฉายในบท สาวรองเท้าแก้วไปเมื่อปีที่แล้ว มารับบทเด่นในเรื่องนี้ ซึ่งคอสตูมก็เป็นแนวย้อนยุค ใครที่หลงเธอตอนที่เป็นนางซิน ก็คงจะหลงเธออีกเช่นกัน ส่วนคุณผู้ชาย ถ้ากำลังหาหนังโรแมนติกชวนคุณแฟนไปดู ไปสวีทกันในโรงในช่วงวาเลนไทน์ เรื่องนี้ก็เหมาะอยู่ที่จะไปกุ๊กกิ๊กกันในโรงนะครับ 

เอาเป็นว่าถึงแม้จะไปไม่สุดซักทาง แต่ตัวหนังก็ยังอยู่ในโทนที่เรียกได้ว่า ดูได้เพลินๆ ไม่เสียดายเงินซักเท่าไหร่ 7/10