As Above, So Below (John Erick Dowdle / 2014 / B+) E+25 for Enjoy
ถ้าเอาความสนุกเข้าว่าแล้วมองผ่านความเป็นไปได้และความเป็นเหตุเป็นผลไปโดยเฉพาะความคิดแบนเรียบรวมถึงสัญชาตญาณของตัวละครเหล่าหนุ่มสาวที่บ้าบิ่นบ้าบอพวกนี้มันก็สนุกตื่นเต้นใจหายใจคว่ำได้มากทีเดียว มันเป็นการผจญภัยที่คาดเดาได้ยากเพราะมันแอบซ่อนหลายๆ อย่างที่ไม่ได้บอกชัดเจนจนเราสงสัยแล้วสงสัยอีกกระทั่งหนังพาเราไปเห็นด้วยตาตัวเอง ระหว่างทางก็เกิดการมั่วบ้างแต่ดีที่มันยังวุ่นวายอยู่ระหว่างเส้นตรรกะที่ครอบเรื่องทั้งเรื่องเอาไว้อยู่ ถึงแม้มันจะเป็นเหตุผลที่บางเบาจนเราเข้าไม่ถึง แต่การได้ดูคนโลภกลุ่มหนึ่งรนหาที่ตายค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้หลุมฝังศพตัวเองเรื่อยๆ มันก็สนุกดีในการเอาใจช่วยให้รอดระคนกับการสมน้ำหน้ามันรายตัว
จังหวะมันสนุกขึ้นเรื่อยๆ กับความลึกลับซับซ้อนถึงแม้ว่ามันจะไม่เก็บรายละเอียดหลายๆ อย่างที่ปูทางเรี่ยราดทิ้งไว้อย่างไม่น่าให้อภัย แต่บรรยากาศความมืดและอับชื้นในที่แคบนั้นบีบคั้นให้รู้สึกอึดอัดหวั่นกลัวได้ตลอดรอดฝั่งทั้งเรื่อง ความรู้สึกหลายๆ ช่วงคล้ายตอนที่ดู 'Cloverfield' กับ 'Mr.Jones'เหมือนเรากำลังเดินเข้าบ้านผีสิงไปเรื่อยๆ ในเขาวงกต โดนผีหลอกตัวแล้วตัวเล่าแต่ก็หาทางหนีทีไล่ไม่เจอ
มุกผีที่เชื่อมโยงกับความผิดบาปของแต่ละคนก็ไม่มีหมุดหมายผลของการกระทำชัดเจนดูมั่วซั่วแต่ไปๆ มาๆ ก็สนุกดีนะ ตอนที่นางเอกทำภาระกิจสุดท้ายที่วิ่งฝ่าผีได้พรึงพรืดมากๆ ไม่รู้ว่าคนทำจงใจให้บาปบางอย่างอ่อนเปลี้ยมากไปหรือเปล่า อย่างเช่น นางเอกที่ไม่ได้รับสายพ่อก่อนที่พ่อจะฆ่าตัวตาย หรือพระเอกที่ช่วยน้องที่จมน้ำตายไม่ได้เพราะวิ่งหลงทางไปเรียกให้คนมาช่วยไม่ทัน ซึ่งมันไร้สาระดี ขณะเดียวกันมันก็ทำให้ได้ฉุกคิดว่าการกระทำของคนพวกนี้ขณะนี้ต่างหากที่เป็นบาปหนัก คนที่มีความเชื่อเรื่องประวัติศาสตร์แต่โบราณก็คงคิดว่ามันเกิดจากบาปแห่งการเหลื่อมล้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอมองในมุมของเราเองก็ได้คำถามว่าบาปเล็กบาปน้อยของพวกเขานั้นควรได้รับลงโทษถึงขั้นตกนรกหมกไหม้หรือไม่
ถ้าใครชอบเข้าบ้านผีสิงไม่ควรพลาด
หนังว่าด้วยนักโบราณคดีสาวผู้ห้าวหาญและไม่กลัวที่จะบุกทุกพื้นที่เสี่ยงอันตรายเพื่อค้นหาก้อนหินเล่นแร่แปรธาตุในตำนานอันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญที่พ่อผู้เป็นนักโบราณคดีเช่นเดียวกันกับเธออุทิศชีวิตตามหาเท่าไรก็ไม่พบมันจนพ่อเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย กลายเป็นทั้งบาดแผลในใจของเธอและแรงผลักดันให้เธอสานต่องานของพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย เธอเสี่ยงชีวิตเข้าไปในที่อันตรายหลายแห่งจนสามารถค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ตำแหน่งของก้อนหินเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งถูกซ่อนในห้องลับในสุสานใต้ดินกลางกรุงปารีส เธอจึงขอความร่วมมือจากเพื่อนสนิทอีกสองคนและแก็งค์วัยรุ่นเจ้าถิ่นที่คุ้นเคยเส้นทางอุโมงค์ลับต่างๆ ในสุสานใต้ดินเพื่อลงไปค้นหาก้อนหินก้อนนั้นและล่อใจเพื่อนร่วมทางด้วยคลังสมบัติโบราณ
Set up ของหนังมีความน่าสนใจที่โลเคชันสุสานใต้ดินอันเต็มไปด้วยอุโมงค์ ประตู ช่องทางลับ ทำให้หนังเล่นกับความมืด ความแคบ บีบคั้นอารมณ์ที่ทั้งอึดอัดและน่าสะพรึงกลัว และยิ่งเมื่อเกิดเหตุให้ทางเข้าสุสานเกิดเพดานถล่มทำให้เหล่าตัวละครต้องใช้เส้นทางที่พวกเขาไม่รู้จักและมีคำร่ำลือว่าเป็นเส้นทางที่ไม่เคยมีใครเข้าไปแล้วออกมาได้ หนังก็ได้พาเราเข้าไปในสถานที่ปิดตายที่มืดมิดคับแคบ และเต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์
เทคนิคการถ่ายภาพของหนังทั้งหมดหยิบยืมมาจากการเล่าแบบสารคดี ผสมกับภาพแบบ Home video ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังคือภาพจากกล้องวิดีโอที่ตามติดไปถ่ายทำการค้นหาของทีม และกล้องที่ติดคู่กับไฟฉายคาดหัวของทุกคนในทีม ทำให้คนดูถูกทำให้อยู่ในมุมมองเดียวกันกับตัวละคร ติดอยู่ในที่คับแคบ และในความมืดมิดของสุสานใต้ดิน ภาพที่เราจะได้เห็นก็คือภาพที่ตัวละครกวาดไฟฉายไปส่อง เพราะกล้องติดอยู่กับไฟฉายคาดหัว หรือกล้องหลักที่ตัวละครตัวหนึ่งจะถือตลอดเวลา เทคนิคนี้ทำให้เราตกอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวละคร และเผชิญสิ่งต่างๆ ที่น่าหวาดกลัวพร้อมกันกับพวกเขา ซึ่งในส่วนนี้ของหนังทำงานได้ผลค่อนข้างดีต่อตัวเรื่องมาก โดยเฉพาะในจุดที่มันช่วยขับเน้นเอกลักษณ์ความน่ากลัวของโลเคชัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ดีในหนังคือถึงแม้ว่าหนังจะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่อาจนำพาไปสู่หนังผีที่มีผีโผล่ตึงตังทั้งเรื่องแบบที่เราเห็นในหนังผีหลายๆ เรื่องที่มากด้วยจังหวะผีโผล่ล้นเกร่อ ไม่ว่าจะเป็นสุสานใต้ดินหนึ่งพันฟุต ศพมนุษย์ที่ถูกฝังหลายล้านศพ หรือการตัดสินใจที่ไม่ค่อยมีสติของตัวละคร แต่ในหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมากในจังหวะจะโคนของการใช้ผี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่โผล่มาแบบไร้ที่มาที่ไป มีผลสำคัญในการดำเนินเรื่องในแต่ล่ะช็อตที่ผีโผล่มา ไม่ใช่ผีที่ตึงตังสักแต่ทำให้คนดูตกใจเป็นจุดขายมักง่าย
แต่หนังก็มีจุดอ่อนอยู่บ้างโดยเฉพาะเรื่องความสมเหตุสมผลบางอย่างในบทภาพยนตร์ ทั้งหลายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก ไปจนถึงประเด็นสำคัญมากๆ แต่ไม่ได้ถูกยืนยันในหนังมากพอ เช่นความสัมพันธ์ของนางเอกกับพ่อ และพื้นหลังของตัวละครอื่นๆ เพราะมันเกี่ยวข้องกับแก่นที่หนังพยายามจะสื่อ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของหนังไม่มีพลังมากพอ ไม่เคลียร์ และไม่มีอะไรให้ยึดจับ จนมันอาจกลายเป็นแค่หนังผีที่มีดีไซน์ชั้นเยี่ยม เทคนิคการเล่าที่สนุกน่าสนใจ แต่ไม่ค่อยนำพาไปสู่สิ่งใดมากไปกว่านั้นเท่าไรนัก
ความคิดเห็น (0)