หนัง Lights Out หรือชื่อไทยว่า ไลท์ เอาท์...มันออกมาขย้ำ เรื่องราวสุดสะพรึงในหนังเรื่อง Lights Out เล่าชะตากรรมของ รีเบคก้า หญิงสาวที่พบเจอเหตุการณ์ประหลาดตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นทุกครั้งที่ดับไฟ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับ มาร์ติน น้องชายของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเริ่มเข้าใกล้ความจริงว่า เรื่องราวทั้งหมดอาจเกี่ยวข้องกับแม่ของเธออย่าง โซเฟีย อย่างไรก็ตามชีวิตของเธอและน้องชายกำลังตกอยู่ในอันตรายที่พร้อมคืบคลานเข้ามาเมื่อไรก็ตามที่ดับไฟเบื้องหลังความสยองใน Lights Out ได้ผู้กำกับจากฉบับหนังสั้นอย่าง เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก กลับมาทำหน้าที่เดิม และได้เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอย่าง เจมส์ วาน (James Wan) มารับตำแหน่งโปรดิวเซอร์
Lights Out (David F. Sandberg / USA / 2016)
หนังผีไอเดียดีที่ต่อยอดมาจากผลงานหนังสั้นสุดฮิตในชื่อเดียวกันและเป็นของผู้กำกับ David F. Sandberg คนเดิม ด้วยความน่าสนใจจึงถูกหยิบมาพัฒนาต่อยอดด้วยผู้กำกับผู้คร่ำหวอดในแวดวงหนังผีและหนังสยองขวัญอย่าง James Wan ที่เคยนำพา Saw (2004), Insidious (2011) และ The Conjuring (2013) มาท้าทายต่อมผวาในโรงภาพยนตร์จนโด่งดังและประสบความสำเร็จไปแทบทุกเรื่อง มานั่งแท่นเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ ความน่าดูจึงพุ่งทยานทะลุเพดานทันทีที่ได้ข่าวว่าจะสร้างและเจ้าพ่อหนังผีแห่งทศวรรษผู้นี้เป็นคนปั้น
ถึงจะน่าดูและอยากดูมากแค่ไหนแต่ความคาดหวังว่าหนังยาวจะเวิร์กได้เหมือนอย่างที่หนังสั้นเคยทำไว้อย่างน่าสนใจนั้นก็ไม่ได้มากมาย เพราะแรกเริ่มคิดว่าการดีไซน์ผีคงหนีไปไกลไม่ได้มากซึ่งพอได้ดูหนังแล้วก็เป็นเช่นนั้น แถมยังหาตรรกะและเหตุผลมารองรับด้วยการเอาสีข้างเข้าแลก แต่วิธีการเล่ามุกและสถานการณ์ต่างๆ มันชวนให้บันเทิงเริงใจได้มากๆ ทั้งเสียวสันหลังและชวนขำ ระดับที่ไล่เรี่ยกับความรู้สึกต้อนที่ดู The Conjuring 2 (James Wan / USA / 2016) ถึงเนื้อหนังของ Lights Out จะไม่ได้ละเอียดลออเท่าทั้งในแง่ประเด็นและความไหลลื่น แต่นอกจากมีความน่ากลัวแล้วยังมีความเถิดเทิงพอๆ กันให้หัวเราะไปพร้อมกับบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ
บทเป็นส่วนที่สร้างแผลใหญ่ที่สุดให้กับหนัง จนต้องทำหน้าเหยเกด้วยความรู้สึกเสียดาย เมื่อเห็นว่าแทนที่คนทำจะนำพาไอเดียมุกผีที่บรรเจิดขนาดนี้ให้กลายเป็นหนังที่ดีได้ในทุกแง่ แต่กลับเป็นอย่างที่เห็นว่าคนทำอาศัยการแถจนสีข้างถลอกเลือดซึมซิบๆ จึงแน่นอนว่าส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบหนังเรื่องนี้เพราะเนื้อหาสาระ แต่เพราะการกำกับและการแสดงโดยรวมก็สามารถนำพาความลึกลับตื่นเต้นและความเถิดเทิงได้น่าพอใจมากอยู่ มีบางจังหวะที่คนดูกำลังลุ้นระทึกและเอาใจช่วยตัละครสุดๆ ก็ต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาตามหมากที่คนทำวางเอาไว้ในไม่กี่วินาทีต่อมาได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นความประดักประเดิดทั้งหลายถูกทลายกลายเป็นความบันเทิง ไม่ว่าบางจังหวะผีจะคลิเชซ้ำซากและล้ำเส้นความน่าเชื่อขนาดไหน หรือไม่ว่านักแสดงเด็กจะเล่นใหญ่แค่ไหนมันก็สร้างความขบขัน จนทำให้ในส่วนของมุกผีกลายเป็นที่น่าพอใจไปแทบทั้งหมด
แต่ที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือวิธีการจบแบบไม่สมเหตุสมผลนี่แหละ ที่นอกจากการแถแล้วยังทำให้เริ่มเห็นถึงความปล่อยปละละเลยที่จะไม่ใส่ใจ..แบบไม่เอาเหี้ยอะไรแล้ว คิดมาสุดทางได้แค่นี้แหละ!!? แต่พอมันแค่แป๊บเดียว พอขึ้นเครดิตจบ ความบันเทิงล้นจอยังอยู่จึงพอจะให้อภัยได้อยู่
ยอมใจมุกรีโมต..จังหวะโหดสัส เอ้า..ปรบมือให้!!!!!!!!!!
Review : Lights Out
คะแนน 8.5 / 10
..
หนังว่าด้วยเรื่องราว ของ Martin (Gabriel Bateman ) เด็กชาย ผู้สูญเสียพ่อ Paul (Billy Burke) จากเหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา ทำให้ Martin ต้องอาศัยอยู่กับแม่ Sophie (Maria Bello) ที่ป่วยทางจิตเพียงลำพัง แต่หลังจากนั้นไม่นาน Martin ก็ได้สัมผัสถึงสิ่งเร้นลับน่ากลัวบางอย่างในบ้าน Martin โดน ผี Diana (Alicia Vela Bailey) เพื่อนลึกลับที่แม่ชอบคุยในห้องมืดรังควานทุกคืน จนไม่ได้หลับนอน Martin จึงโทรไปขอความช่วยเหลือ Rebecca (Teresa Palmer) พี่สาวต่างพ่อ ที่แยกไปใช้ชีวิตตัวคนเดียว
..
หนังพัฒนาต่อยอด มาจากหนังสั้นไม่ถึง 3 นาที ของ David F. Sandberg หลังจากที่เผยแพร่ได้รับความสนใจ จนได้ทุนทำหนังยาวเป็นเรื่องแรก โดยหนังเรื่อง Lights Out มีความยาว 81 นาที
..
หนังฉลาดที่เล่นกับ 1 ในความกลัวของมนุษย์ สิ่งนั้นก็คือ ความมืด แค่หนัง โคลสอัพไปที่มุมมืดส่วนใดส่วนหนึ่งในบ้านค้างไว้ สลับภาพไปที่นักแสดงที่จ้องเขม็งสีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว แค่นี้ก็ทำให้คนดูรู้สึกหลอนได้ไม่ยาก แต่เรื่องนี้ก็ได้เพิ่มดีกรีความหลอนไปอีกโดยการครีเอท รูปร่างผี Diana ออกมาได้น่ากลัว แถมเธอไม่ได้มาแค่หลอก แต่มาขย้ำให้ตาย ยิ่งเพิ่มความโหดเข้าไปอีก และ สิ่งสุดท้ายที่หนังผีมักขาดไม่ได้คือ ซาวน์เสียงที่กระหน่ำเสียง จนทำให้เราสะดุ้ง ซึ่งองค์ประกอบต่างๆ ของหนังเรื่องนี้มีครบตามหนังผีที่ควรจะมี ถือว่า David F. Sandberg สอบผ่าน
..
และสิ่งที่ชอบอย่างหนึ่งคือ นอกจาก นักแสดงจะต้องหลบเลี่ยงผีร้ายแล้ว ตัวหนังยังสร้างเงื่อนไขให้หา ไฟหรือแสงสว่างจากทุกช่องทางมาสู้กับ Diana ผมว่านี่เป็นสิ่งหนึ่งเลยที่ทำให้หนังดูสนุกมากขึ้น
..
บทหนังยังมีแอบใส่บทดราม่าครอบครัว เข้ามาทำให้บทหนังดูมีมิติมากขึ้น ความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่าง ลูกสาวกับแม่ ความรักความห่วงใยที่มีให้กันระหว่างพี่สาวกับน้องชาย ความห่วงใยอยากช่วยผู้เป็นแม่ของลูกชายทั้งที่ตัวเองก็หวาดกลัว ซึ่งผู้กำกับใส่มาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะในเวลา 81 นาที
..
ด้านการแสดง บทหนังเฉลี่ยให้มีบทเท่าๆกัน ทำให้คนใดคนหนึ่งไม่โดนกลืนหายไปกับหนัง ผู้เป็นแม่ Sophie แสดงออกมาได้ดี ดูเหมือนคน 2 บุคลิกตามบทที่ตัวเองได้รับ ในบทแม่ผู้ป่วยทางจิตอ่อนๆ ส่วนนางเอก Rebecca ผมชอบเธอในบทที่แสดงออกมา ในทิศทางที่ตัวเองดูเข้มแข็งบนความหวาดกลัว (คือที่มาของคำว่า กล้าๆกลัวๆ) ส่วน หนุ่มน้อย Martin แสดงความกลัวออกมาทางสีหน้าได้ดี ดูแล้วรู้ว่า กำลังอยู่ในภาวะความกลัวจริงๆ แถมยังมี แอบตลกปนน่ารักนิดๆ ให้ดู 2-3 ฉาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ทำอรรถรสความน่ากลัวของหนังถดถอยน้อยลงไป
..
โดยสรุป หนังทำออกมาได้ดี ถ้าเทียบกับทุนที่สร้าง บวกกับการกำกับหนังยาวเรื่องแรก ของ David F. Sandberg หนังให้อะไรได้ครบรส จริงๆในเวลาอันน้อยนิด หนังดูกระชับ ไหลลื่น เก็บได้ทุกรายละเอียด ความน่ากลัวความระทึกถูกใส่มาตลอดถึงจะมีความ ตุ้งแช่ บ้าง แต่ก็เป็นตุ้งแช่ที่ไม่น่าเกลียดจนเกินไป เพราะองค์ประกอบทั้งหลายที่มีอยู่มันดูน่ากลัวอยู่แล้ว ถ้าจะมีติงก็คงติงที่หนังมันสั้นเกินไป มันน่าจะเล่นอะไรได้มากกว่านี้อีกแค่นั้นเอง
..
ในช่วงเวลาที่ครอบครัวกำลังประสพพบเจอกับฝันร้าย ก็มีแต่ความรักที่มีให้กันของคนในครอบครัวนี่แหละที่จะเป็นสิ่งต่อกรกับสิ่งชั่วร้าย
..
Jurassic Boy
เครดิตบทความ : https://www.facebook.com/pheerongnang/ (แวะมาคุยได้นะครับ *-*)
ความคิดเห็น (10)
generic lipitor
Want to get a powerful and fast increase in link mass? Our solution is a Xrumer blast that guarantees to increase DR to 30+ in just one week.
Why is this beneficial for you?
— Instant Start: First links are visible within 30-60 minutes.
— Predictable Growth: We guarantee reaching DR 30+ level.
— Quality Links: We use only verified and quality donors.
— Proven Cases: In our cases - 8,000+ links and 1,664+ referring domains in 48 hours.
This is not magic, it's precise work. Need proof? Check out our cases by searching "Drop Dead Studio Xrumer linkbuilding" and see evidence of effectiveness.
Start growing today! Place an order and get a powerful boost for your site.
The Drop Dead Studio Team
Thought I’d drop this here, I came across a link recently: not sure if it's known here
Feel free to comment.
Go check it out — I promise you’ll love it ??
Link’s in my ?? tiktok girls
Dzieci lubią czuć się swobodnie i pewnie, a ubrania mają w tym ogromne znaczenie. Wygodne koszulki z nadrukami pozwalają im wyrazić siebie – pokazać, co lubią, jaki mają styl czy poczucie humoru. Taki element garderoby często dodaje odwagi i sprawia, że codzienne wyjście do szkoły staje się przyjemniejsze. Równie ważne są koszulki sportowe – lekkie, przewiewne i dopasowane, które sprawdzą się podczas zajęć wychowania fizycznego. Dzięki nim dziecko czuje się komfortowo i chętniej uczestniczy w aktywnościach ruchowych.
Nie można też zapominać o bluzach – szczególnie na chłodniejsze poranki i jesienne dni. Wygodna bluza z ciekawym wzorem to nie tylko ochrona przed chłodem, ale też modny dodatek, który dziecko z przyjemnością założy. Warto mieć przynajmniej jedną taką, która sprawdzi się w każdej sytuacji – zarówno na przerwie, jak i po lekcjach.
Dobrze jest też wcześniej przygotować listę rzeczy niezbędnych na początek roku szkolnego: koszulki codzienne i sportowe, bluzę, spodnie, buty, przybory i plecak. Zrobienie tego z wyprzedzeniem pozwala uniknąć pośpiechu i nerwów, a samo planowanie może stać się okazją do wspólnego spędzenia czasu z koszulki z nadrukiem
Przygotowanie do szkoły to nie tylko obowiązek, ale też dobry moment, by pokazać dziecku, że nauka i codzienne obowiązki mogą iść w parze z wygodą, stylem i pozytywnym nastawieniem. Gdy uczeń czuje się dobrze w tym, co nosi, ma więcej pewności siebie i energii na nowe wyzwania, jakie niesie ze sobą kolejny rok szkolny.
ก่อนหน้า1234567...12ถัดไป